'อนุชา' ลั่นครม.บิ๊กตู่ ยังไม่ต้องเก็บของ นั่งทำงานจนกว่าจะมีครม.ใหม่

1 มิ.ย.2566 - นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากกรณีที่มีข่าวในส่วนหลายๆท่าน ไม่ว่าจะเป็นทางโฆษกพรรคก้าวไกลเช่นพูดว่า พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตั้งแต่หลังการเลือกตั้งเป็นต้นมายังไม่พูดแสดงความยินดีกับผู้ได้รับการเลือกตั้งต่างๆ หรืออะไรต่างๆ

อันนี้คงต้องชี้แจงว่านายกรัฐมนตรี ได้กล่าวแสดงความยินดีกับพรรคการเมืองที่ได้รับความไว้วางใจกับพี่น้องประชาชนไปตั้งแต่สัปดาห์แรกหลังการเลือกตั้งแล้ว โดยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรกวันอังคารหลังการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวแสดงความยินดีไปแล้ว

ฉะนั้นตรงนี้อยากให้เข้าใจตรงกันและส่วนที่มีการพูดถึงว่า ณ วันนี้เรื่องของสปิริตในการที่นายกรัฐมนตรีหรือรัฐบาลชุดปัจจุบันทำไมถึงไม่ดำเนินการในลักษณะที่จะให้ความร่วมมือในการที่จะมีการเปลี่ยนผ่านหลังเลือกตั้งมาแล้วและทราบว่าพรรคการเมืองใดกำลังจัดตั้งรัฐบาลกันอยู่ ซึ่งตรงนี้ตนได้เคยชี้แจงไปหลายรอบแล้ว ในเรื่อง ไทม์ไลน์ ต่างๆว่า หลังจากการเลือกตั้งจะมีกำหนดระยะเวลาอย่างไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง จะมีการรับรองภายใน 60 วันหลังการเลือกตั้ง และหลังจากที่มีการรับรองแล้ว จะมีการเปิดสมัยประชุมสภาฯเพื่อเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร และเมื่อประธานสภาผู้แทนราษฎรแล้วก็จะมีการเลือกนายกรัฐมนตรี

นายอนุชา กล่าวต่อว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีมีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีและถวายสัตย์ ปฏิญาณแล้ว รัฐบาลชุดนี้ก็จะหยุดปฏิบัติหน้าที่และพร้อมให้ทางรัฐบาลใหม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ต่อ ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นประมาณต้นเดือนสิงหาคม ตรงนี้อยากชี้แจงทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนว่าไทม์ไลน์ ต่างๆยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ทุกอย่างยังเป็นลักษณะนี้อยู่ และ ปัจจุบัน หากพรรคการเมืองที่กำลังรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาล ทางรัฐบาลเองไม่ได้ลักษณะห้ามปรามหากจะเดินสายไปพบกับหน่วยงานภาคเอกชนต่างๆ ซึ่งเราก็เห็นอยู่ทั้งสภาพอุตสาหกรรมสภาหอการค้าไทยต่างๆ

อย่างไรก็ตามในส่วนที่เกี่ยวข้องกับภาคราชการ ต้องบอกว่าในส่วนของข้าราชการเองก็มีการ เสียงสะท้อน พูดคุยกลับมาทางรัฐบาลเหมือนกันว่าในลักษณะเช่นนี้อาจจะเหมาะสมหรือไม่อย่างไรเพราะปัจจุบันรัฐบาลที่กำลังดำเนินงาน ยังคงทำหน้าที่อย่างเต็มที่อยู่แล้ว โดยมีการประชุมกับหน่วยงานราชการ และคณะรัฐมนตรีต่างๆ จึงอยากให้ประชาชนและพรรคการเมืองโดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคการเมืองที่กำลังฟอร์มจัดตั้งรัฐบาลอยู่ ได้เข้าใจบทบาทหน้าที่ของรัฐบาลในปัจจุบันและบทบาทหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีในปัจจุบันด้วยว่ายังคงทำหน้าที่อยู่ และในส่วนของ ไทม์ไลน์ต่างๆ สิ่งแรกรอคณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศเรื่องการรับรองผู้สมัคร ส.ส. ตามไทม์ไลน์ที่พูดถึงจะมีการเรียกประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้เมื่อมีการรับรอง ส.ส. ได้ครบ 95% หรือประมาณ 475 คนซึ่งถือเป็นครรลองที่รัฐบาลชุดนี้ได้ประกาศมาตลอดระยะเวลา จึงอยากให้พรรคการเมืองที่กำลังจัดตั้งรัฐบาลอยู่ได้เข้าใจรวมถึงพี่น้องประชาชนเพื่อเข้าใจตรงกันในเรื่องของ ไทม์ไลน์และการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐบาลในชุดปัจจุบันด้วยผู้สื่อข่าวถามว่าถ้ายังจะตั้งรัฐบาลไม่ได้ ไทม์ไลน์จะเลยเดือนสิงหาคมก็มีความเป็นไปได้ใช่หรือไม่ นายอนุชากล่าวว่าการรับรองส.ส.ต้องอยู่ภายใน 60 วันตรงนั้นชัดเจน หลังจากนั้นจะมีการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งกำหนดไว้หลังจากมีการเรียกประชุมแล้ว เมื่อมีการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรแล้ว การที่จะเลือกนายกรัฐมนตรี ไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้  ฉะนั้นตรงนี้รัฐบาลทำหน้าที่ต่อไป ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของนโยบายอนาคตอาจจะเกิดอะไรขึ้นมาก็ตาม เราคงดำเนินการในลักษณะที่กกต.กำหนดไว้อยู่แล้วว่า 1 จะไม่ใช้ในส่วนของงบประมาณที่ยังไม่ได้อนุมัติจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง 2 การจะดำเนินนโยบายอะไรต่างๆคงต้องรอรัฐบาลชุดใหม่เข้ามา  ซึ่งที่ผ่านมาตลอดระยะเวลาเกือบ 3-4  สัปดาห์ที่ผ่านมาได้ดำเนินการอย่างเคร่งครัดในเรื่องนี้ อย่างเช่นเรื่องการลดค่าไฟ เราได้มีการดำเนินการส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้งเรื่องการโยกย้ายบุคลากรต่างๆก็ได้ส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้งเพื่ออนุมัติกลับมาเมื่อถามว่าแสดงว่าการที่ออกมาพูดว่านายกรัฐมนตรีไม่เก็บข้าวเก็บของตรงนี้ถือว่าเกินเลยไปหรือไม่ นายอนุชา กล่าวว่า การที่ออกมาพูดว่ารัฐบาลไม่โชว์สปิริตและไม่มีการมอบหมายหรือไม่มีการดำเนินการในลักษณะเหมือนเตรียมเก็บของเพื่อที่จะออกจากทำเนียบรัฐบาลอะไรต่างๆ  คิดว่าเป็นการพูดที่เกินกว่าเหตุ  ตอนนี้ในส่วนของการจัดตั้งรัฐบาลทุกคนก็กำลังให้กำลังใจอยู่อยากให้พรรคการเมืองที่ได้มีการรวบรวมเสียงของผู้ที่ประชาชนให้การเลือกตั้งมา เราอยากให้ดำเนินการให้เสร็จเรียบร้อยและเป็นไปด้วยความเรียบร้อยนายกรัฐมนตรีกล่าวอยู่ เสมอว่า  ตอนนี้ท่านจะไม่ไปก้าวล่วงและจะให้พรรคการเมืองที่ได้รับ เสียงจากพี่น้องประชาชนได้เดินหน้าอย่างเต็มที่เพียงแต่ให้ระมัดระวังเรื่องของระเบียบต่างๆเท่านั้นเอง ซึ่งท่านได้ให้ข้อสังเกตเช่นการเรียกข้าราชการหรืออะไรต่างๆเท่านั้นเองเมื่อย้ำถามว่าแสดงว่า ยังไม่มีการเก็บของจนกว่าจะได้รัฐบาลใหม่ใช้หรือไม่  นายอนุชากล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้ยังไงจะทำหน้าที่จนกว่าจะมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ และอยากให้เข้าใจ ไทม์ไลน์ ตรงกันไม่ใช่  วันที่มีการเลือกนายกรัฐมนตรีแล้วตรงนั้นก็ถือว่ายังไม่เสร็จสิ้นต้องให้มีการฟอร์มคณะรัฐมนตรีเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน นั่นถึงจะเรียกว่าเป็นการยุติของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ฉะนั้น ไม่มีเหตุผล อะไร ที่เราจะต้องเก็บเข้าเก็บของโชว์สปิริตในการที่จะไม่มาทำงาน  เวลานี้เราต้องเข้ามาทำหน้าที่ แม้กระทั่งตามกระทรวงต่างๆรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรียังต้องเข้ามาทำงานทำเนียบรัฐบาลตามปกติเมื่อถามว่ากรณีที่ไม่มีไทม์ไลน์เรื่องการเลือกนายกรัฐมนตรีเขาจะว่าเราไม่ได้เพราะเลือกกันไม่ได้เองใช่หรือไม่ตรงนี้จะทำความเข้าใจอย่างไร นายอนุชากล่าวว่า ในเรื่องการที่มีการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร เลือกรองประธานสภาฯ  คนที่ 1 คนที่ 2 แล้ว หลังจากนั้นจะเป็นหน้าที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่จะรวบรวมเสียงหรือมีการพูดคุยกันอาจจะผ่านพรรคร่วมที่แสดงเจตจำนงจัดตั้งรัฐบาลเพื่อที่จะเสนอชื่อ ซึ่งหากตรงนั้นไม่สามารถดำเนินการได้รัฐบาลชุดนี้ก็ยังทำหน้าที่ต่อไป โดยไม่มีกำหนดเวลาว่าจะต้องเสร็จสิ้นภายในเวลาเมื่อไหร่ หากยังหาไม่ได้รัฐบาลชุดนี้ก็คงต้องปฏิบัติหน้าที่ต่อไปเรื่อยๆอันนี้เป็นเรื่องของระเบียบกฎหมายที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สว.สายลุงตู่ แถวตรงอุ้ม 'เศรษฐา' นั่งนายกฯ 'สายลุงป้อม' มาไม่ครบเหตุโดนหั่นโควตารมต.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของการโหวตนายกรัฐมนตรีวันที่ 22 ส.ค. ที่พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลสามารถรวบรวมเสียงได้

'เศรษฐา' ปัดเพื่อไทยโกหกประชาชน แต่ต้องยอมรับความจริง 'ไม่มีลุงไม่มีเรา'

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค พร้อมด้วยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค นำประ

เพื่อไทยนำ 11 พรรคแถลงจัดตั้งรัฐบาล แบ่งเค้กกระทรวงเสร็จสรรพแล้ว!

พรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ