'อภิชัย' ชำแหละนโยบายค่าแรง 450 บาทภายใน 100 วัน

1 มิ.ย.2566 - นายอภิชัย เตชะอุบล อดีตผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงนโยบายพรรคการเมือง ที่เสนอขึ้นเรื่องค่าแรงขั้นต่ำเป็น 450 บาทว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วย การขึ้นค่าแรงภายใน 100 วันถือว่าเร็วเกินไป จริงๆ ค่าแรงต้องค่อยๆ ปรับขึ้นไปตามภาวะเศรษฐกิจด้วย ไม่ใช่อยู่ดีๆ จะขึ้นจาก 300 เป็น 450 จะส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ เพราะจะทำให้ต้นทุนของเขาเพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบต่อการส่งออก ผู้บริโภคก็ต้องซื้อสินค้าที่แพงขึ้น ซึ่งตอนนี้เศรษฐกิจของเราก็เพิ่งฟื้นจากวิกฤติโควิดมา เศรษฐกิจก็เริ่มมีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อยๆ แล้ว ฉะนั้นถ้าออกมาตรการค่าแรง 450 บาทภายใน 100 วัน ตนคิดว่าจะส่งผลกระทบมากต่อภาพรวม เรื่องนี้ไม่ใช่ว่าดี ตนขอถามว่ามันได้ประโยชน์อะไร คนที่ทําแรงงานแม้ว่าได้เงินเพิ่มขึ้น แต่ก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายอุปโภคบริโภคเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามด้วย เป็นมันเป็นเงาตามตัว ฉะนั้นตนเชื่อว่าเรื่องนี้จะส่งผลกระทบมากกว่าจะได้ มันไม่คุ้มกัน และไม่ควรเป็นเช่นนี้ แต่ต้องขึ้นไปตามกลไกตลาด ถ้าตลาดดี ค่าแรงก็จะขึ้นไปเอง ต้องขึ้นตามขั้นบันได การขึ้นแบบนี้ไม่มีประโยชน์ ตนในฐานะคนทำธุรกิจ รู้ว่าไม่เวิร์คแน่นอน

นายอภิชัย กล่าวว่า วันนี้ต้องยอมรับว่าหลังจากที่เราเปิดประเทศ อีกทั้งหลายประเทศเช่นจีนและไต้หวันก็เปิดแล้ว ตอนนี้มีการแห่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยเรื่อยๆ ตั้งแต่ต้นปี 2566 เพื่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งส่วนใหญ่มาจากประเทศจีนกับไต้หวัน ไม่มีประเทศญี่ปุ่นแบบแต่ก่อน หากไปขึ้นค่าแรงเป็น 450 ทันที จะมีผลกระทบแน่ เนื่องจากสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา ทำให้จีนและไต้หวันเล็งหาฐานการผลิตเผื่อรองรับสงครามนี้ และมองว่าในภูมิภาคเอเชียมีเพียงประเทศไทยกับเวียดนามสร้างโรงงานเหล่านี้ได้ ทำให้ไทยกับเวียดนามเป็นคู่แข่งโดยตรงในการดึงต่างประเทศมาลงทุนสร้างโรงงานเพื่อส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐอเมริกาและยุโรป ฉะนั้นวันนี้ต้องเข้าใจว่าเวียดนามมีค่าแรงที่ถูกกว่าเรา มีสิทธิประโยชน์ด้านภาษีต่างๆ ดีกว่า หากยังขึ้นค่าแรงเป็น 450 บาท ตนคิดว่าคนเขาจะวิ่งไปอยู่เวียดนามหมด ซึ่งจะทำให้เขาแซงหน้าเราด้วย และจะไม่มีใครกล้าลงทุนกับเรา

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ทวี' ยันไม่เคยได้ยิน เพื่อไทยจะเอาตำแหน่งประธานสภาฯ

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีมีกระแสว่าพรรคเพื่อไทยจะขอเก้าอี้ประธานสภา ว่า รัฐธรรมนูญได้มีการเขียนเอาไว้อย่างชัดเจนถึงการเข้าดำรงตำแหน่งประธานสภาว่าเป็นเรื่องของสภา ส่วนเรื่องคณะรัฐมนตรีนั้นเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี

'ไชยา' ลั่นปรับครม.กี่ครั้งก็ตาม ก.เกษตรฯต้องอยู่กับเพื่อไทย

นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังมีรายชื่อถูกปรับออก ว่าตนทราบตามข่าว ไม่ได้หวั่นไหวอะไร และ 7 เดือนที่ผ่านมา ทำหน้าที่ในกรอบในข้อจำกัดของงบประมาณ ถ้าหากเป็นไปตามนโยบายของผู้ใหญ่ตนก็ไม่ขัดข้อง ก็แล้วแต่

'เศรษฐา' เผยไต๋นั่งควบกลาโหม ทุกอย่างมีโอกาสขึ้นอยู่กับเงื่อนเวลา

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในที่ประชุมได้มีรัฐมนตรีซักถามถึงกระแสข่าวการปรับ ครม.หรือไม่ ว่า ไม่มีใครถามอะไรเลย ทุกคนยังทำงานอย่างต่อเนื่อง

ไทยในสายตาต่างชาติ: สมัยรัชกาลที่เจ็ด (ตอนที่ 19: การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 ในสายตาผู้ช่วยทูตทหารฝรั่งเศส)

(ต่อจากตอนที่แล้ว) ในรายงานลงวันที่ 24 กันยายน 1932 (พ.ศ. 2475) ของพันโท อองรี รูซ์ ผู้ช่วยทูตทหารบกและทหารเรือประจำสยาม ประจำสถานอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำสยาม มีความว่า

'พิมพ์ภัทรา' พร้อมรับทุกอย่างหากถูกปรับครม. ย้ำให้ถามหัวหน้าพรรครทสช.

น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.)มีการเคลื่อนไหวอะไรหรือไม่ ว่า เมื่อมีการกล่าวถึงเรื่องการจะปรับครม.ย่อมมีความหวั่นไหวเกิดขึ้นเป็นธรรมดา

'ธรรมนัส' เชื่อ 'บิ๊กป้อม' มีชื่อสำรอง หาก 'ไผ่ ลิกค์' คุณสมบัติไม่ผ่านเป็นรมต.

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) พรรคพลังประชารัฐ ได้เสนอชื่อต่อนายกรัฐมนตรีแล้วหรือไม่ กับโควตาที่ยังว่างอยู่ ว่า ขณะนี้นายกรัฐมนตรียังไม่ได้ส่งสัญญาณอะไร