'เพื่อไทย' ตั้งเป้า ยกเครื่องบทบาทรัฐสภายุคใหม่ จะไม่เหมือนเดิม

'เพื่อไทย' ตั้งเป้ายกเครื่องบทบาทรัฐสภายุคใหม่ จะไม่เหมือนเดิม ให้ทัดเทียมกับฝ่ายบริหาร ฟื้นฟูศรัทธาประชาชน เป็นศูนย์รวมแก้ปัญหาชาติ มีศักดิ์ศรีสมเป็นองค์กรนิติบัญญัติของคนไทย

2 มิ.ย. 2566- น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า กรณีประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ยุติลงแล้วด้วยการจับมือกันเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด ส่วนตัวมองว่ารัฐสภาในฐานะองค์กรนิติบัญญัติจะไม่เหมือนเดิมเพราะจะต้องถูกปรับปรุงพัฒนาให้มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานตามอำนาจหน้าที่ เพื่อให้ทัดเทียมกับฝ่ายบริหาร การสร้างภาวะสมดุลของ 2 องค์กรแห่งอำนาจอธิปไตย ได้แก่ นิติบัญญัติ และบริหารเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อประโยชน์ของประชาชน ทั้งนี้ เวทีของรัฐสภาภายใต้รัฐบาลชุดใหม่ที่ประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา ซึ่งถือว่าเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยจะนำปัญหามาแสดงในที่ประชุมของสภา ,คณะกรรมาธิการ, คณะอนุกรรมาธิการและอื่นๆ

"เวลาการประชุมจะต้องถูกใช้อย่างมีคุณค่า ไม่สร้างความเบื่อหน่ายให้กับประชาชน ความสัมพันธ์ระหว่างสภาผู้แทนฯ วุฒิสภา กับคณะรัฐมนตรี และหน่วยงานรัฐให้ดำเนินไปด้วยดี โดยทุกฝ่ายให้เกียรติและให้ความเคารพกัน จะต้องไม่เป็นเหมือนในอดีต 4 ปีที่ผ่านมา ที่มีการเผชิญหน้าและใช้คำพูดคำจา คำอภิปรายดูถูกเหยียดหยามกัน การทำหน้าที่ของฝ่ายค้านประสบปัญหาหลายอย่าง ต่อไปนี้ ประธานรัฐสภาจะต้องทำหน้าที่เชื่อมประสาน โดยพูดคุยกับผู้นำฝ่ายค้าน พรรคการเมืองต่างๆ วุฒิสภา นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีให้เป็นที่เข้าใจกัน ว่าจะสร้างความร่วมมือกันได้อย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การร่วมกันของทุกพรรค ทุกฝ่าย ผลักดัน ให้มีการออกเสียงประชามติเรื่องการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่โดยสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) โดยไม่ชักช้า เพราะประชาชนกำลังเฝ้ารออยู่"

น.ส.ตรีชฎา กล่าวว่า ศรัทธาของประชาชนต่อสภาผู้แทนฯ วุฒิสภา ที่เสื่อมถอยไปมาก ไม่มีความเชื่อมั่นต่อคุณภาพสมาชิกรัฐสภาบางส่วน จะต้องถูกฟื้นฟูขึ้นมา การประชุมสภาฯ และการประชุมกรรมาธิการจะต้องได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนและประชาชนที่จะคอยติดตามข่าวสารว่า กลไกของรัฐสภาเหล่านี้จะแก้ปัญหาต่างๆได้อย่างไร


“ถึงเวลาที่นักการเมืองทั้งฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน สมาชิกวุฒิสภา นายกฯ รัฐมนตรีจะได้หันหน้าเข้าหากัน พูดคุยกันด้วยไมตรีจิตมิตรภาพ หน้าที่ความรับผิดชอบต่างกันก็แสดงกันไป แต่เป้าหมายสูงสุดตรงกันคือประโยชน์สุขของประชาชน พรรคเพื่อไทยเห็นว่า การแบ่งฝ่ายเลือกข้างของประชาชนและนักการเมืองที่สั่งสมมานานเกือบ 20 ปี เกิดความเกลียดชังอาฆาตแค้นมองอีกฝ่ายเป็นศัตรู ถึงขนาดตายก็ไม่ไปเผาผี ทัศนคติและอารมณ์ความรู้สึกเช่นนี้จะต้องหมดไป พรรคเพื่อไทยเห็นว่า ทั้งนายกฯและประธานรัฐสภา ผู้นำสูงสุดของฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติจะต้องแสดงออกให้เห็นและผลักดันให้ปรากฏเป็นจริง เมื่อสมาชิกรัฐสภา ส.ส. วุฒิสภาปรองดองกัน ประชาชนก็จะคล้อยตาม” น.ส.ตรีชฎา กล่าว

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'รัฐสภา' มีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความอำนาจรัฐสภา ปมจัดทำรธน.ฉบับใหม่

“รัฐสภา” มีมติส่งศาลรธน.ตีความอำนาจตัวเอง ปมแก้รธน.ฉบับใหม่ ด้าน“วันนอร์”แจงยิบ ยึดตาม”ชวน”เคยวินิจฉัยร่างของ”สมพงษ์”มาแล้ว ชี้เป็นหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภาวินิจฉัยเพื่อไปต่อแล้วไม่ล้ม ไม่เสียของ

'อดิศร' ซัดแรงมีรัฐสภาไปทำพระแสงอะไร จะแก้รัฐธรรมนูญ ยังให้ศาลวินิจฉัยอำนาจประชาชน

นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า อำนาจตุลาการ และอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร แยกกันและถ่วงดุลกัน ไม่ใช่คล่อมเลน มีบางครั้งจะยื่นญัตติได้ต้องรอศาลรัฐธรรมนูญ ถามว่าเกิดอะไรขึ้น นั่นฝ่ายตุลาการ แต่เราฝ่ายนิติบัญญัติ เราคิดของเราเองได้

'รัฐสภา' ถกบรรจุวาระจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ 'ก้าวไกล' หนักใจยื่นดาบให้ศาลรธน.อีกแล้ว

ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม มีวาระพิจารณาญัตติ เรื่องขอให้รัฐสภามีมติขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 (2) ของนายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และคณะ เป็นผู้เสนอ