รัฐสภาถกกว่า 3 ชั่วโมงวนในอ่างยังไม่รู้เสนอชื่อ 'พิธา' ซ้ำได้หรือไม่!

รัฐสภาสุดอลเวงเถียงกันนัว หน้าเดิมวนเถียงไปมา ยังไร้ข้อสรุปเสนอชื่อ พิธา ซ้ำรอบสองได้หรือไม่ และเป็นญัตติหรือไม่

19 ก.ค.2566 - ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรในฐานะประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยมีวาระลงมติเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบบุคคลที่สมควรดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 วรรคหนึ่ง ซึ่งนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย เสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นบุคคลเหมาะสมดำรงตำแหน่งนายกฯ

จากนั้น นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) อภิปรายเห็นแย้งว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการประทำที่ขัดต่อข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ.2563 ข้อ41 ห้ามเสนอญัตติซ้ำ ซึ่งญัตติเสนอนายพิธาเป็นนายกฯนั้นตกไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 13 ก.ค. ที่ผ่านมาแล้ว ดังนั้น วันนี้จึงเสนออีกไม่ได้ และขออาศัยข้อบังคับ ข้อ32(1) เสนอญัตติว่า ไม่สามารถเสนอชื่อนายพิธาซ้ำได้อีกรอบ

อย่างไรก็ตาม มี ส.ส.จาก 8 พรรคร่วมรัฐบาลลุกขึ้นประท้วง ทั้งนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ระบุว่านายอัครเดชดำเนินการไม่ถูกต้อง เพราะวันนี้ที่ประชุมรัฐสภาต้องดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้ นายรังสิมันต์ ยังโต้แย้งด้วยว่า จะต้องทำตามระเบียบวาระการประชุม แต่สิ่งที่นายอัครเดชกระทำอยู่ไม่ได้อยู่ในระเบียบวาระ

นายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย เสนอว่า ขอให้มีการรับรองเสนอชื่อผู้ถูกเสนอชื่อให้เป็นนายกฯ เพื่อให้ญัตติสมบูรณ์ ก่อนจะดำเนินการคัดค้านต่อไป ซึ่งนายวันมูหะมัดนอร์ วินิจฉัยว่า ขอให้ดำเนินการตามขั้นตอนรับรองก่อน และให้นายอัครเดช รอ ทั้งนี้จากการรับรองชื่อนายพิธา พบว่ามีส.ส.ที่รับรอง รวม 304 คน

ด้านนายวิโรจน์ กล่าวว่า ตอนนี้เรากำลังถกกันผิดประเด็น เพราะตามระเบียบวาระให้พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งได้รับตำแหน่งนายกฯ ตนทราบดีว่ากำลังเอานิยามคำว่าญัตติ คือข้อเสนอเพื่อให้ที่ประชุมลงมติไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง ซึ่งตามข้อบังคับที่ 29 ต้องเสนอเป็นลายลักษณ์อักษร หรือถ้าไม่เสนอล่วงหน้าก็ต้องเข้าข้อบังคับที่ 32 ซึ่งผู้ที่ได้รับความเห็นชอบให้เป็นนายกฯ ไม่อยู่ในมาตรานี้ แต่อยู่ในข้อบังคับที่ 136

“ผมอยากเตือนทุกคนว่า ให้ไปอ่านรัฐธรรมนูญมาตรา 5 ให้ดี ข้อบังคับไม่ได้ใหญ่กว่ารัฐธรรมนูญ ยืนยันว่าการพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคตคลเป็นนายก ไม่ใช่ญัตติ และถ้าตีความว่าเป็นญัตติ ต้องบอกด้วยว่าถ้ามีผลกระทบกระเทือนให้บันทึกด้วยว่าจะเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว”นายวิโรจน์ กล่าว

นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า การที่นายอัครเดชเชื่อว่าการเสนอโหวตนายกฯเป็นญัตติ แล้วตอนนี้ก็ยังเสนอญัตติซ้อนญัตติอีกว่าการโหวตนายกฯขัดข้อบังคับข้อ41 ซึ่งตามข้อบังคับการเสนอญัตติซ้อนญัตติทำไม่ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีสมาชิกหลายคนลุกขึ้นโต้เถียงกันอย่างเข้มข้น โดยส.ว. สนับสนุนนายอัครเดช พร้อมย้ำว่าญัตติเสนอชื่อพิธานั้นต้องตกไปตามข้อบังคับ แต่ยังถูกส.ส.พรรคก้าวไกล โต้แย้งเป็นระยะๆ

กระทั่งนายวันมูหะมัดนอร์ เสนอให้ใช้ข้อบังคับ ข้อ151 ให้ที่ประชุมลงมติเพื่อหาข้อยุติการตีความข้อบังคับการประชุมรัฐสภา แต่ปรากฎว่าก็ยังมีการถกเถียงกันว่าอาศัยข้อบังคับ ข้อ151 ไม่ได้ ทำให้ที่ประชุมเสียเวลากับประเด็นดังกล่าวกว่า 3 ชั่วโมงแล้ว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ชงไทยบี้เมียนมา งดขายน้ำมันให้ เจรจาสันติภาพ

"โรม" เสนอให้ไทยงดขายน้ำมันให้ "เมียนมา" ปูดใช้ไทยฟอกเงินเครือข่ายซื้ออาวุธที่ใช้ปฏิบัติการ เตือนถูกดึงไปเอี่ยวร่วมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

'รังสิมันต์'แนะ 3แนวทางแก้ปัญหาเมียนมา!

กมธ.ความมั่นคงเชิญหน่วยงานเกี่ยวข้องถกสถานการณ์เมียนมา 'โรม' ชี้ปัญหาในเมียนมาก็เป็นปัญหาของไทย เหตุคนหนีอพยพข้ามแดน ลั่นไทยอยู่ในฐานะที่น่าไว้วางใจที่สุด ควรเป็นตัวกลางในการเจรจา

'รทสช.' ลั่นเห็นด้วยกับแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาลทุกประการ!

'รวมไทยสร้างชาติ' ย้ำจุดยืนเดิมที่มั่นคงแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องไม่แตะหมวด 1 หมวด 2 ยันการทำประชามติ 3 ครั้งใช้งบมาก แต่หลีกเลี่ยงไม่ได้ต้องปฏิบัติตามคำวินิจฉัยศาลและรัฐธรรมนูญ

'วันนอร์'มั่นใจคนไทยเกินครึ่งมาใช้สิทธิ์ประชามติเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ

'ปธ.สภา' ชี้ช่องรัฐบาลใช้กฎหมายเดิมทำประชามติได้ แค่ถาม ปชช.อยากแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่ ระบุหากต้องการแก้ ก็เสนอเข้ามาช่วงเปิดวิสามัญได้ เชื่อคนออกมาใช้สิทธิเกินครึ่ง