'รังสิมันต์' ยัน 'พิธา' ไม่ยื่นศาล รธน. แม้เสียหายโดยตรง มติห้ามเสนอชื่อโหวตนายกฯซ้ำ จ่อชงสภาทบทวน

“ก้าวไกล” เมินยื่นร้องศาลรธน. วินิจฉัยเสนอชื่อ “พิธา” ซ้ำ ซัดเป็นกิจการสภา ไม่เกี่ยวองค์กรภายนอก เสียงแข็งดันญัตติขอทบทวนมติ 19 ก.ค. ต่อ หวั่นสร้างบรรทัดฐานเสนอชื่อบุคคลดำรงตำแหน่งสำคัญอื่นได้แค่ครั้งเดียว

16 ส.ค.2566 - ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกพรรคก้าวไกล แถลงภายหลังศาลไม่รับคำร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้วินิจฉัยมติที่ประชุมรัฐสภาห้ามเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีซ้ำในสมัยประชุมเดียวกัน ว่าศาลไม่ได้พิจารณาในเนื้อหาสาระข้อเท็จจริง แต่เป็นการพิจารณาเกี่ยวกับเทคนิคและกระบวนการ ทั้งยังชี้ด้วยว่าผู้ร้องเรียนไม่ใช่ผู้ถูกละเมิดสิทธิเสรีภาพโดยตรง ทั้งนี้ พรรคก้าวไกลยืนยันตลอดว่ากรณีเช่นนี้รัฐสภาควรจะว่ากันเองได้ ไม่จำเป็นต้องให้องค์กรภายนอก เช่นศาลรัฐธรรมนูญเข้ามา จึงเป็นที่มาเมื่อวันที่ 4 ส.ค. พรรคก้าวไกลเสนอญัตติให้ทบทวนมติที่ประชุมรัฐสภาเมื่อวันที่ 19 ก.ค. ซึ่งญัตตินั้นมีผู้รับรองถูกต้อง ดังนั้น โอกาสที่จะมีการเลือกนายกฯครั้งต่อไป พรรคก้าวไกลยืนยันที่จะเสนอญัตติดังกล่าว

“การเป็นแคนดิเดตนายกฯ เป็นสถานะตามรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่ว่าเสนอแล้วสุดท้ายในรอบแรกไม่ผ่าน แล้วจะมาบอกว่าไม่มีสถานะนั้นแล้ว การพิจารณากันแบบนี้เป็นการเล่นการเมืองโดยไม่พิจารณาบนข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย” นายรังสิมันต์ กล่าว

เมื่อถามว่าหลังจากนี้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกฯ ในฐานะผู้ได้รับความเสียหายโดยตรงจะยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เราไม่ยื่นแน่นอน เพราะยืนยันมาโดยตลอดว่าเรื่องนี้เป็นกิจการของสภา ศาลรัฐธรรมนูญไม่ควรเข้ามา จึงเป็นที่มาที่เราอยากใช้กลไกสภาอย่างถูกต้อง

ถามต่อว่าเสียงจะพอหรือไม่ เนื่องจากพันธมิตรร่วมรัฐบาลได้แยกวงไปแล้ว นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องหลักการ และไม่ได้เสนอเพื่อตัวเอง หรือเพื่อให้นายพิธากลับมาเป็นแคนดิเดตนายกฯอีกด้วยซ้ำ เพราะวันนี้นายพิธาไม่ได้อยู่ในจุดนั้นแล้ว แต่การเสนอของเราเป็นไปตามหลักการที่ถูกต้อง แคนดิเดตนายกฯจะเป็นใครล้วนได้ประโยชน์จากข้อเสนอของพรรคก้าวไกลทั้งสิ้น ยกเว้นบางฝ่ายจะวางหมากให้การเสนอแคนดิเดตเกิดขึ้นได้เพียงครั้งเดียว ยกตัวอย่างเช่น พรรคก้าวไกลไม่ผ่าน และอีกบางพรรคไม่ผ่าน แล้วหวังว่าตัวเองจะได้ประโยชน์จากตรงนี้ หรือเป็นการปูทางไปสู่นายกฯคนนอก แต่นาทีนี้ต้องยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องอาศัยเสียง2ใน3 ของสมาชิกทั้งสองสภาเท่าที่มีอยู่

ถามถึงญัตติที่พรรคก้าวไกลยืนยันจะเสนอต่อจากการประชุมรัฐสภาคราวที่แล้ว แต่นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ได้ใช้อำนาจประธานวินิจฉัยให้ตกไปแล้ว นายรังสิมันต์ ชี้แจงว่ายอมรับว่าตอนนี้มีปัญหาสถานะญัตติคืออะไร เพราะโดยกระบวนการมีผู้รับรองถูกต้อง รวมถึงญัตติของนายสมชาย แสวงการ สว. ด้วย โดยหลักก็ต้องพิจารณาต่อไป ไม่มีอำนาจในข้อบังคับการประชุมรัฐสภาที่จะให้นายวันมูหะมัดนอร์วินิจฉัย ในวันประชุมครั้งนั้นนายวันมูหะมัดนอร์ไม่ได้อ้างข้อกฎหมาย ได้แต่ชี้แจงเพียงว่าขอให้รอความชัดเจนจากศาลรัฐธรรมนูญเสียก่อน เข้าใจว่าเป็นเจตนาหวังดีของนายวันมูหะมัดนอร์ว่าให้กระบวนการมีความชัดเจนก่อนแล้วจึงค่อยพิจารณา

ถามอีกว่าผลจากการที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้อง ต่อจากนี้จะทำให้แคนดิเดตนายกฯแต่ละคน มีสิทธิ์เสนอได้เพียงครั้งเดียว นายรังสิมัน กล่าวว่า กังวลว่าจะไปสู่จุดนั้น จึงเป็นที่มาในการเสนอให้ทบทวนมติ เพราะอาจกลายเป็นบรรทัดฐาน เรื่องการเสนอชื่อบุคคลในรัฐสภาไม่ใช่มีเฉพาะนายกฯเท่านั้น แต่มีอีกหลายกรณีที่มีความสำคัญ จึงไม่อยากให้สร้างบรรทัดฐานที่ผิดเช่นนี้ รัฐสภาของเรายังทบทวนได้

“รอคุยกับประธานรัฐสภา ตามปกติจะต้องนัดพรรคการเมืองคุยกันแล้วหารือ เบื้องต้นถ้าพิจารณาจากการประชุมครั้งที่แล้ว ผมเองเสนอ และโดยหลักต้องพิจารณาญัตติของผมก่อน แต่ว่ามันก็มีประเด็นที่จะต้องพิจารณาว่าคำวินิจฉัยของประธาน ที่ตกลงแล้วมีการถกเถียงกันแล้วนำสู่การปิดประชุม มีสถานะอย่างไร ซึ่งพวกเราเชื่อว่ามีผู้รับรองถูกต้อง เป็นญัตติแล้ว” นายรังสิมันต์ ระบุ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ที่ปรึกษาโรม ชี้นับหนึ่งล้างสแกมเมอร์ข้ามชาติ กังขาไม่ออกหมายจับ-กลต.ไม่ขยับ

น.ส.สฤณี อาชวานันทกุล นักวิชาการอิสระ ที่ปรึกษา ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ(นายรังสิมันต์ โรม) โพสตเฟซบุ๊กว่าหลังจากที่ ปปง. แถลงข่าวเรื่องอายัดทรัพย์

'โรม' ไล่บี้นายกฯ ปลด 'ธรรมนัส' พ้นรัฐบาล หลัง ปปง. ยึดทรัพย์ 'เบน สมิธ'

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ระบุถึงกรณีที่ ปปง. ยึดทรัพย์ยิม เลียก-เบน สมิธ หรือเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์

มติเอกฉันท์! ศาลรธน. ไม่รับคำร้อง 'เรืองไกร' กล่าวหารัฐสภาแก้ รธน.ล้มล้างการปกครอง

‘ศาลรธน.’ มีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้อง ‘เรืองไกร’ ปมกล่าวหาประธานรัฐสภา–สมาชิกรัฐสภาใช้สิทธิล้มล้างการปกครอง ชี้การประชุมร่วมแก้รัฐธรรมนูญยังไม่ปรากฏพฤติการณ์เข้าข่ายมาตรา 49 แม้อัยการสูงสุดไม่ดำเนินการแต่ผู้ร้องมีสิทธิเข้าศาลโดยตรงก็ตาม

กมธ.ความมั่นคง จี้นายกฯ ใช้สตาร์ลิงค์กระจายอินเทอร์เน็ตช่วยระบบกู้ภัยน้ำท่วมหาดใหญ่

'โรม' เสียใจน้ำท่วมหาดใหญ่ เผย ‘กมธ.มั่นคงฯ’ มีมติ ส่งหนังสือด่วนที่สุดถึง 'นายกฯ' แนะ 4 ข้อ ให้นำสตาร์ลิงค์ ที่สเเกมเมอร์ใช้มาช่วยแก้น้ำท่วม พร้อม ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในช่วยอพยพประชาชน

รองจเรตำรวจ จวก กมธ. ใช้เวทีสภาฯสร้างสงครามข้อมูลข่าวสาร ชี้นำสังคม เป็นอันตรายต่อสำนวนคดี

"ไตรรงค์" โต้ "บิ๊กโจ๊ก" กล่าวหาตำรวจมีการใช้บัญชีม้าเป็นเรื่องปกติ ย้ำบัญชีม้าคือหัวใจองค์กรอาชญากรรม ชี้เป็นการสะท้อนถึงตัวผู้กล่าวหา ให้ประชาชนรับฟังข้อมูลรอบด้านจากข้อเท็จจริงและหลักฐาน เพราะคนที่พูดถูกให้ออกจากราชการ

คนเสื้อแดงกินแห้ว! ศาล รธน. ไม่รับวินิจฉัย ปม MOA 'ภูมิใจไทย-ปชน.'

ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้องในคดีที่นายนิยม นพรัตน์ (ผู้ร้อง) ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 กล่าวอ้างว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ผู้ถูกร้องที่ 1) และนายณัฐพงษ์