
‘เลขาฯ ป.ป.ช.’ กางกรอบเวลายื่นบัญชีทรัพย์สิน สส.ใหม่ เข้ารับตำแหน่ง 5 ก.ค. ต้องยื่นภายใน 2 ก.ย. ส่วน ครม. เริ่มนับวันถวายสัตย์ปฏิญาณ
25 ส.ค. 2566 – นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการยื่นแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ และ สส. ที่เข้ารับตำแหน่ง ว่า ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 102 ได้กำหนดให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีประกาศหลักเกณฑ์และวิธีการยื่นทรัพย์สินและหนี้สินของเจ้าพนักงานของรัฐต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. พ.ศ.2561 ที่กำหนดให้นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และ สส. มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. กรณีเข้ารับตำแหน่งภายใน 60 วัน
สำหรับนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี ให้ถือวันถวายสัตย์ปฏิญาณเป็นวันเข้ารับตำแหน่ง ส่วน สส. ให้ถือวันปฏิญาณตนในที่ประชุมสภาเป็นวันเข้ารับตำแหน่ง ซึ่งหากปฏิญาณตนเมื่อวันที่ 4 ก.ค.66 มีกำหนดยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินในวันที่ 5 ก.ค.66 – 2 ก.ย.66 หากปฏิญาณตนเมื่อวันที่ 12 ก.ค.66 กำหนดยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินวันที่ 13 ก.ค.66 – 10 ก.ย.66 โดยก่อนจะครบกำหนดอาจยื่นขอขยายเวลาได้ไม่เกิน 30 วัน โดยต้องยื่นคำร้อง พร้อมเหตุผลความจำเป็นต่อเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.
นายนิวัติไชย กล่าวว่า สำนักงาน ป.ป.ช. ขอย้ำว่า การยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินถือเป็นหน้าที่ที่ต้องดำเนินการตามกฎหมายกำหนด เนื่องจากเป็นมาตรการหนึ่งของการป้องกันและปราบปรามการทุจริตด้วยกระบวนการตรวจสอบถูกต้อง ความมีอยู่จริงของทรัพย์สินและการเปลี่ยนแปลงที่อาจผิดปกติของทรัพย์สินและหนี้สิน ถือเป็นต้นทางในการดำเนินการไต่สวนกรณีร่ำรวยผิดปกติ และยังเป็นการคัดกรองบุคคลเมื่อเข้าสู่ตำแหน่งทางการเมือง ไม่ให้ผู้ที่ไม่สุจริตมีโอกาสใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่กระทำการทุจริต รวมทั้งสร้างความโปร่งใสให้ระบบการเมืองและราชการ ซึ่งเมื่อทางสำนักงาน ป.ป.ช. ได้รับบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินดังกล่าวแล้ว จะได้มีการประกาศเปิดเผยเพื่อให้สังคมร่วมตรวจสอบอีกทางหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ขอเชิญชวนให้ผู้ที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินสามารถยื่นผ่านระบบออนไลน์ทางเว็บไซต์ของสำนักงาน ป.ป.ช. ได้ เพื่อความสะดวกรวดเร็วและความปลอดภัยของข้อมูล เนื่องจากผู้ใช้งานสามารถยืนยันตัวตนตามขั้นตอนได้ และยังสามารถจัดเก็บ หรือเรียกดูข้อมูลบัญชีทรัพย์สินของตัวเองในระบบได้ด้วย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ปชน.' โรยเกลือ 'นายกฯอิ๊งค์' 3 แผลใหญ่ ยื่นฟันหลายข้อหา แต่ไม่ถอดถอน
'วิโรจน์' เปิดแผนยุทธการโรยเกลือ 'นายกฯอิ๊งค์' 3 แผลใหญ่ 'ตั๋ว P/N - โรงแรมหรูเขาใหญ่ --ชั้น 14' ลุยร้อง ป.ป.ช. ฟันหลายข้อหา ยี้มรดกบาปรัฐประหาร ไม่ยื่นถอดถอน
‘อดีตสว.ดิเรกฤทธิ์’ ชี้ ‘ชั้น14-ฮั้วสว.’ พิสูจน์หลักนิติรัฐ-นิติธรรม จะมีอยู่จริงหรือไม่
หลักนิติรัฐและนิติธรรมจะมีอยู่จริง ผู้ใช้อำนาจต้องสุจริต ทุ่มเท และกล้าหาญเอาผิดคนทุจริตได้ ประชาชนต้องช่วยกันติดตาม มีส่วนร่วมวิพากษ์วิจารณ์ อย่าให้ใครทุจริต อืดอาด และหมกเม็ด
'หมอยง' ไขข้อโต้แย้ง 'วัคซีนไข้หวัดใหญ่' กับ Hippocratic Oath
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ข้อโต้แย้งวัคซีนไข้หวัดใหญ่ กับ Hippocratic Oath
ป.ป.ช. ลากตัว 'อดีตบิ๊ก พศ.' ประสานสหรัฐฯ ขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน
ป.ป.ช.ขยับแล้ว ประสานสหรัฐฯ ขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน “นพรัตน์” อดีตผอ.พศ. คดีเงินทอนวัด
'เรืองไกร' ขย้ำต่อ! ร้อง ป.ป.ช. สอบ 'นายกฯอิ๊งค์' พ่วง 'อธิบดีสรรพากร'
'เรืองไกร' ร้อง ป.ป.ช. สอบ 'นายกฯอิ๊งค์' ฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง ปมตั๋วสัญญาใช้เงินส่อหนีภาษี พร้อมสอบ 'อธิบดีสรรพากร' เข้าข่ายผิด ม.154 หรือไม่
เรืองไกร ร้อง ป.ป.ช. สอบ ‘ก่อแก้ว’ รวยผิดปกติ
เรืองไกร ร้อง ป.ป.ช. สอบบัญชีทรัพย์สิน ก่อแก้ว ที่เพิ่มขึ้นเข้าข่ายร่ำรวยผิดปกติ หรือไม่