ปชป. เตรียม 15 ขุนพล ซักฟอกนโยบายรัฐบาล ไร้ปัญหากับก้าวไกล ได้เวลาอภิปราย 2 ชม. 15 นาที “จุรินทร์” ประเดิมคนแรกของพรรค ‘นายหัวชวน’ ร่วมด้วย
8 ก.ย. 2566 – ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการอภิปรายวันแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ระหว่างวันที่ 11-12 กันยายนนี้ ว่าพรรคประชาธิปัตย์ ได้รับการจัดสรรเวลาจากฝ่ายค้าน 2 ชั่วโมง 15 นาที แต่ใจจริงอยากได้ 3 ชั่วโมง แต่ได้เท่านี้ก็ไม่เป็นไร ไม่มีปัญหา เพราะเสียงสส. เราไม่มากนัก และไม่ขัดข้องหมองใจใดๆ โดยพรรคประชาธิปัตย์จะเน้นอภิปรายทั้งด้าน การเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ซึ่งมี สส. แจ้งความจำนงอภิปรายมา 15 คน และตนจะเป็นผู้อภิปรายคนแรกในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ถัดจากพรรคก้าวไกล นอกจากนั้นจะมีนายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ และ สส. ใหม่ของพรรคอีกหลายคน ที่ได้เตรียมการไว้
นายจุรินทร์ กล่าวว่า จะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ในการตรวจสอบนโยบายของรัฐบาล โดยจะเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ ตรงไปตรงมา ตามเนื้อผ้า ให้คำเสนอแนะ และตั้งคำถามที่บางนโยบายยังขาดความชัดเจน ซึ่งเป็นการตั้งคำถามแทนประชาชนที่บางเรื่องคลุมเครือและบางนโยบายไม่ตรงปก ส่วนจะเน้นตรงไหน ขอให้รอวันแถลง
“ยกตัวอย่างบางเรื่อง เช่น กรณีที่มีการสัญญาไว้ในช่วงหาเสียง แต่ไม่มีในนโยบาย และไม่มีเยอะด้วย โดยจะให้ความเห็นตามเนื้อผ้าตรงไปตรงมา สร้างสรรค์เป็นประโยชน์ในการบริหารราชการแผ่นดินและประชาชนผู้ลงคะแนนเลือกตั้ง” หัวหน้าพรรค ปชป. ระบุ
นายจุรินทร์ ยืนยันว่าจะทำหน้าที่ในฐานะฝ่ายค้านอย่างเต็มกำลังความสามารถ เป็นฝ่ายค้านของประชาชน พร้อมยืนยันไม่มีปัญหาในการทำงานกับพรรคก้าวไกล หรือพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่นๆ เพราะป็นภาคบังคับ และเป็นเรื่องปกติ บางเรื่องเห็นตรงกันแต่พรรคประชาธิปัตย์ยังคงจุดยืนเรื่องความแตกต่าง เช่นไม่เห็นด้วยที่จะแตะต้องมาตรา 112 ที่เรายังยึดและประกาศมาตั้งแต่ต้น อะไรที่ต้องทำหน้าที่ร่วมกันเช่นตรวจสอบรัฐบาล เป็นหน้าที่ตรวจสอบแทน ประชาชนซึ่งเข้าใจว่าพรรคก้าวไกลก็จะตระหนักในตรงนี้ อย่างไรก็ตามยังไม่ถึงขั้นมีการแชร์ข้อมูลร่วมกับพรรคก้าวไกล เพราะการอภิปรายนโยบายไม่ใช่เรื่องใหม่ ทุกพรรครู้หน้าที่เป็นอย่างดี
ส่วนตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ที่ยังติดปัญหาอยู่นั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า เป็นภารกิจของก้าวไกล ซึ่งยังไม่ถึงเวลาที่จะบอกว่าพรรคประชาธิปัตย์พร้อมที่จะรับตำแหน่งดังกล่าวหรือไม่ เพราะเป็นสิทธิ์ที่พรรคก้าวไกลจะพิจารณาก่อนจนกว่าจะมีข้อยุติ แต่ขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นนั้นจึงไม่ขอต่อประเด็นนี้
นายจุรินทร์ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการเลือกหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ว่า เป็นเรื่องภายในพรรคยืนยันไม่มีลับลมคมใน และขอจัดการกันภายในพรรค ซึ่งขณะที่แม้ยังไม่มีกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ แต่กรรมการบริหารพรรคชุดรักษาการก็มีอำนาจเต็มในการบริหาร แต่ยืนยันว่าไม่ได้อยากอยู่รักษาการไปนานๆ แต่ต้องขอให้มีเวลาบริหารจัดการภายในก่อน ซึ่งเบื้องต้นได้มีการคุยกันภายในพรรคประชาธิปัตย์แล้ว แต่จะนานแค่ไหนกว่าจะได้ข้อสรุปนั้นยังไม่ทราบ เมื่อถึงเวลาจะเรียนให้ทราบ
ส่วนกรณีพรรคได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี 16 สส. ลงมติเห็นชอบให้นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น หัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวว่า หลังจากมีข้อร้องเรียนว่าขัดกับมติพรรคแล้ว แต่ไม่ขอเปิดเผยข้อมูล แม้ไม่ใช่เป็นความลับ ซึ่งทั้งหมดจะเป็นไปตามข้อบังคับพรรค หากมีผลออกมาเป็นอย่างไรก็จะดำเนินการไปตามที่ได้ตรวจสอบ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จนลง! ป.ป.ช. เปิดเซฟ 'พิธา' รวย 63.5 ล้าน ให้น้องชายกู้เงิน
ป.ป.ช. เปิดเซฟ 'พิธา' มี 63.5 ล้านบาท ให้น้องชายกู้ 13 ล้านบาท มีห้องชุด 15 ล้านบาท สะสมพระเครื่อง 8 องค์ 2 ล้านบาท
'ภูมิธรรม' โต้สื่อเมียนมาแฉไทย จ่ายไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยันตัดไฟแล้วตั้งแต่ มิ.ย. 67
'ภูมิธรรม' แจงปมสื่อเมียนมาแฉไทยจ่ายไฟให้คอลเซ็นเตอร์ ยันตัดไฟชายแดนแล้ว 2 จุด 'แม่ระมาด-แม่สอด' ตั้งแต่ มิ.ย. 67 ชี้เมียนมา-จีนต้องช่วยกันด้วย ซัด กฟภ. อ้างไม่รู้ความมั่นคงได้ยังไง
ขึ้น 'รถไฟฟ้า-รถเมล์' ฟรี 7 วัน! รัฐบาลล้วงงบกลางแก้ฝุ่น PM2.5
นายกฯ สั่งคมนาคม ให้ประชาชนขึ้น 'รถไฟฟ้า - รถขสมก.' ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค. แก้ปัญหา PM 2.5 เตรียมชงครม.ใช้งบกลางชดเชย 140 ล้านบาท พร้อมตั้ง 8 จุตรวจจับควันดำ
'แก้วสรร' แพร่บทความ 'อำนาจนอกระบบของทักษิณ'
นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการอิสระ อดีตรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ออกบทความเรื่อง “อำนาจนอกระบบของทักษิณ" มีเนื้อหา ดังนี้
บี้ 'อิ๊งค์' ปกป้อง 'เอกนัฏ' ล่าไอ้โม่งลงขันเปลี่ยนตัว รมว.อุตสาหกรรม
24 ม.ค. 2568 - นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ "ปกป้อง เอกนัฏ" โดยระบุว่า ติดตามข่าวการตอบกระทู้ถามสด ของนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่องการปิดโรงงานน้ำตาลไทยอุดรธานี จ.อุดรธานี ถึงการเลือกปฏิบัติในการรับซื้ออ้อยเผาของ นายธีระชัย แสนแก้ว สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย รู้สึกตกใจกับคำตอบของนายเอกนัฏ ตอนหนึ่งในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ว่ามีการลงขันจำนวนเงิน 200- 300 ล้านบาท เพื่อย้ายนายเอกนัฎ ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่สำหรับการเมืองไทย ที่มีกลุ่มทุนอิทธิพลเหนือการเมือง ใช้เงินลงขันด้วยเงินหลักร้อยล้านบาท เพื่อเปลี่ยนตัวผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ถ้าหากเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ขอให้กำลังใจนายเอกนัฎ ในการต่อสู้กับความไม่ถูกต้อง และควรจะเปิดเผยชื่อตัวการลงทุนย้ายนายเอกนัฎออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี หากไม่สามารถเปิดเผยชื่อต่อสังคมได้ ก็ควรนำเรื่องนี้ไปเรียนให้กับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้มีอำนาจในการปรับคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ทราบว่ามีกลุ่มบุคคลหนึ่ง ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลเหนือการเมือง สามารถใช้เงินทุนโยกย้ายเปลี่ยนแปลงผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีได้ หากนางสาวแพทองธาร ยังเอาไม่อยู่ เพราะไม่มีอำนาจที่แท้จริง ก็ต้องนำเรื่องนี้ให้ถึงมือของนายทักษิณ ชินวัตร ผู้มีอำนาจทางการเมืองสูงสุด เป็นเจ้าของรัฐบาลตัวจริง และสามารถสั่งการเปลี่ยนแปลงคณะรัฐมนตรีได้แต่เพียงผู้เดียว ถ้าหากเรื่องนี้เป็นความจริง นางสาวแพทองธาร จะต้องปกป้องนายเอกนัฎ เพราะการดำเนินนโยบายห้ามไม่ให้โรงงานน้ำตาลรับซื้ออ้อยเผา เป็นมาตรการป้องกันมลพิษ PM 2.5 ตามนโยบายของนางสาวแพทองธาร แต่ถ้าเมื่อนายเอกนัฎได้ปฏิบัติหน้าที่ตามนโยบายของนางสาวแพทองธารแล้ว แต่ไปสะดุดต่อ นางสาวแพทองธารในฐานะหัวหน้ารัฐบาล จะต้องรับผิดชอบ และสืบหาตัวไอ้โม่งผู้อยู่เบื้องหลังการลงขัน เพื่อเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีอุตสาหกรรมให้ได้ ขอให้สังคมเรียกร้อง กดดันให้รัฐบาล เปิดโปงขบวนการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีออกมาให้สังคมรับรู้ เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่า รัฐบาลชุดนี้ไม่ได้อยู่ภายใต้อิทธิพลกลุ่มทุนใดๆ ทั้งสิ้น.
'นายกฯอิ๊งค์' ขอบคุณผู้นำอาร์เมเนีย หนุนเริ่มต้นเจรจา FTA ไทย-ยูเรเชีย
'นายกฯอิ๊งค์' ขอบคุณผู้นำอาร์เมเนีย สนับสนุนเริ่มต้นเจรจา FTA ไทย-สหภาพเศรษฐกิจยูเรเชีย พร้อมเพิ่มพูนการค้า ดึงศักยภาพ ศก. ร่วมกัน