ตามคาด ‘ก้าวไกล’ มีมติขับ ‘ปดิพัทธ์’ พ้นสมาชิกพรรค

28 ก.ย.2566 - พรรคก้าวไกล ออกแถลงการณ์กรณีให้ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา พ้นจากสมาชิกภาพ โดยมีเนื้อหาดังนี้

เรียนพี่น้องประชาชนผู้ทรงอำนาจสูงสุดในประเทศ

นับจากนี้ไป พรรคก้าวไกลจะมุ่งมั่นเดินหน้าทำงานเต็มที่ในฐานะ “ฝ่ายค้าน” เราจะทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลอย่างตรงไปตรงมา พร้อมกับผลักดันวาระการเปลี่ยนแปลงที่ก้าวหน้า และเตรียมความพร้อมในการเป็นรัฐบาลที่ดีของประชาชนในการเลือกตั้งครั้งถัดไป

ในวันนี้ (28 ก.ย. 2566) คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่และผู้แทนราษฎรของพรรคก้าวไกลจึงได้ประชุมร่วมกัน เพื่อวางแนวทางการทำงานที่รองรับเป้าหมายของพรรค ดังต่อไปนี้:

1. ที่ประชุมร่วมฯ เห็นตรงกันว่า พรรคก้าวไกลควรเดินหน้าเป็น “ฝ่ายค้านโดยสมบูรณ์” ตามเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน โดยให้หัวหน้าพรรคคนใหม่ นายชัยธวัช ตุลาธน รับตำแหน่ง “ผู้นำฝ่านค้านในสภาผู้แทนราษฎร” เพื่อกำกับทิศทางการทำหน้าที่ในสภาฯ ของฝ่ายค้าน

2. ที่ประชุมร่วมฯ เข้าใจว่า การตัดสินใจดังกล่าวจะทำให้ สส. จากพรรคก้าวไกล ไม่สามารถดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรหรือรองประธานสภาผู้แทนราษฎรได้ ตามที่บัญญัติในรัฐธรรมนูญ มาตรา 106

3. ที่ประชุมร่วมฯ รับทราบจากหัวหน้าพรรคว่า ทางคณะกรรมการบริหารพรรคได้หารือประเด็นดังกล่าวกับ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคก้าวไกลแล้ว โดย นายปดิพัทธ์ ได้แสดงความประสงค์ว่าต้องการทำหน้าที่ในฐานะรองประธานสภาผู้แทนราษฎรต่อไป เพื่อผลักดันให้สภา มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และยึดโยงกับประชาชนมากขึ้น ตามนโยบายที่ได้แถลงไว้ก่อนหน้า รวมถึงเพื่อช่วยผลักดันให้กระบวนการตรวจรับอาคารรัฐสภา ซึ่งมีสัญญาก่อสร้างมูลค่ากว่า 12,000 ล้านบาท มีความโปร่งใส

4. ที่ประชุมร่วมฯ เห็นด้วยว่าภารกิจที่นายปดิพัทธ์ ตั้งใจขับเคลื่อนจะนำไปสู่การยกระดับการทำงานของสภา และเป็นการปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน แต่ที่ประชุมร่วมฯ ยังคงยืนยันถึงความสำคัญของการทำหน้าที่เป็น “ฝ่ายค้านโดยสมบูรณ์” ซึ่งจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้หาก นายปดิพัทธ์ ยังคงดำรงสถานะเดิมในฐานะรองประธานสภา จากพรรคก้าวไกล

5. ที่ประชุมร่วมฯ จึงมีมติว่า ในเมื่อ นายปดิพัทธ์ ยังคงยืนยันความประสงค์จะทำงานในฐานะรองประธานสภาต่อ พรรคก้าวไกลจึงจำเป็นต้องให้นายปดิพัทธ์ออกจากการเป็นสมาชิกพรรคของพรรคก้าวไกล ตามบทบัญญัติแห่งข้อบังคับพรรคก้าวไกลและรัฐธรรมนูญ เพื่อให้พรรคก้าวไกลสามารถทำหน้าที่เป็น “ฝ่ายค้านโดยสมบูรณ์” ได้ อันเป็นเงื่อนไขที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อการทำงานของพรรคหลังจากนี้

6. ที่ประชุมร่วมฯ หวังว่า แม้ นายปดิพัทธ์ จะไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคก้าวไกลอีกต่อไป แต่เขาจะยังขับเคลื่อนนโยบายตามที่ได้เคยให้คำมั่นสัญญาไว้ก่อนถูกรับเลือกโดยสภาผู้แทนราษฎร และต้องวางตนเป็นกลางต่อทุกพรรคการเมืองในการปฏิบัติหน้าที่ตามที่ถูกกำหนดในรัฐธรรมนูญ มาตรา 80

พรรคก้าวไกลขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกคน มาร่วมกับเราในการเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ไปด้วยกัน .

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘ชลน่าน’ โยน กก.บห.เพื่อไทย เคาะเสนอร่างนิรโทษฯ ประกบ ‘ก้าวไกล’ หรือไม่

นพ.ชลน่าน ระบุให้ กก.บห.เพื่อไทยเคาะเสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม ประกบร่วมกับของพรรคก้าวไกลหรือไม่

จ่อชงร่างพรบ.สร้างเสริมสังคมสันติสุขเข้าสภาฯ นิรโทษคดีการเมือง เว้นคดี 112-ทุจริต-อาญาร้ายแรง

รวมไทยสร้างชาติ-พรรคร่วมรัฐบาล ยกร่างพรบ.นิรโทษกรรม เตรียมเสนอเข้าสภาฯ ประกบร่างพรรคก้าวไกล โดยใช้ชื่อร่างพรบ.สร้างเสริมสังคมสันติสุขฯ นิรโทษกรรมคดีชุมนุมทางการเมืองให้กับแกนนำ ประชาชน และแนวร่วมทั้งคดีแพ่ง-อาญา แต่ไม่พ่วงคดี112-ทุจริต-อาญาร้ายแรง

ลาม! สส.กรุณพล ยุฟ้อง 'ต้อม ยุทธเลิศ' ข้อหาฉ้อโกงปมระดมทุนสร้างหนัง

จบไม่ลง! สส.กรุณพล เรียกร้องคนที่โอนเงินให้ 'ต้อม ยุทธเลิศ' นำไปสร้างหนังต่อต้านเผด็จการ ในโครงการ 'นายทุน 100 บาท สร้างหนัง 100 ล้าน' ฟ้องร้องดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกง เพราะตั้งแต่ปี 2563 จนถึงวันนี้ยังไม่มีการสร้างหนังจริง

'สส.รักชนก' นับถอยหลัง! ทำหนังสือวอนศาลเลื่อนอ่านคำพิพากษาคดี 112

นับถอยหลัง 'สส.ไอซ์ รักชนก' ระทึกศาลนัด 13 ธันวาอ่านคำพิพากษาคดี 112 เผยออกได้สองทางหนักสุดจำคุก 3-15 ปี-ไม่ให้ประกันตัวต้องพ้นสมาชิกภาพการเป็นสส.ทันที เจ้าตัวทำหนังสือขอให้เลื่อนการอ่านคำพิพากษาออกไป เพื่อให้การทำหน้าที่ในฐานะตัวแทนประชาชนไม่ติดขัด

อัด 'คู่หูคู่ฮา' หมกมุ่นมาตรา 112

อดีตหัวหน้าศูนย์ ศรภ. ระบุมาตรา 112 เกี่ยวพันเรื่องความมั่นคง และการคุ้มครองประมุขของประเทศ อัด 'ชัยธวัช-ธนาธร' คู่หูคู่ฮาหมกมุ่นกับการนิรโทษกรรมพวกทำผิดมาตรา 112 ทั้งที่มีหลายสิบเรื่องที่ก้าวไกลในฐานะพรรคฝ่ายค้าน ต้องติดตามตรวจสอบ 

9 ธันวารู้เรื่อง 'เดียร์' ปล่อยคลิปปลุกปชป.ฟื้นศรัทธา-อุดมการณ์!

'มาดามเดียร์' ปล่อยคลิปหลังเปิดตัวชิงหัวหน้าปชป. ปลุกชาวประชาธิปัตย์ทั่วประเทศ ฟื้นฟูศรัทธา-อุดมการณ์ สร้างการเมืองที่เป็นธรรมและเท่าเทียม กลับมาเป็นสถาบันการเมืองที่ยั่งยืนอีกครั้ง