25 พ.ย.2566 - นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไข รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ใน 4 ภาคของไทย โดยการรับฟังความคิดเห็นประชาชนคืบหน้าไปกว่าครึ่งทางแล้ว เหลืออีก 2 ขั้นตอน คือการรับฟังความคิดเห็นกลุ่มชาติพันธุ์ในภาคเหนือ และกลุ่มชาวมุสลิมในภาคใต้
โดยเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2566 คณะทำงานฯ ได้เลือกให้ประชาชนในพื้นที่อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร เป็นตัวแทนกลุ่มสังคมชนบท และสังคมเกษตรกร ในการแสดงความคิดเห็น สำหรับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในขณะที่ภาคกลาง คณะทำงานฯ ได้ลงพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2566 โดยเป็นตัวแทนกลุ่มผู้ใช้แรงงานในภาคอุตสาหกรรม และสังคมเมือง ในการแสดงความคิดเห็น ส่วนภาคเหนือ จะได้จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 ณ มหาวิทยาลัยพายัพ จังหวัดเชียงใหม่ โดยประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เป็นตัวแทนกลุ่มประชาชนในพื้นที่ท่องเที่ยว ประชากรกลุ่มชาติพันธุ์ ในการแสดงความคิดเห็น และภาคใต้ คณะทำงานฯ ได้เลือกให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดสงขลา เป็นตัวแทนกลุ่มประชาชนในพื้นที่ชายแดน กลุ่มชาวมุสลิม ในการแสดงความคิดเห็น โดยจะจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ณ มหาวิทยาลัยทักษิณ จังหวัดสงขลา ในวันที่ 7 ธันวาคม 2566 นี้
ในการประชุมวันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 ของคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ นายนิกร จำนง ประธานอนุกรรมการฯ เผยว่าการลงพื้นที่มาแล้ว 2 ครั้งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ทำให้พบว่า ประชาชนมีความตื่นตัวและสนใจเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในประเด็นเกี่ยวกับสิทธิและเสรีภาพของตนเองเป็นอย่างมาก ประชาชนเกือบทั้งหมดเห็นสมควรให้จัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน และเกือบทั้งหมดมีความตั้งใจที่จะไปใช้สิทธิออกเสียงประชามติ
“รัฐบาลตั้งใจรับฟังเสียงของประชาชนทุกคน อยากให้หาจุดร่วมและเป็นที่ยอมรับให้มากที่สุด จึงได้ลงพื้นที่และเปิดรับฟังความคิดเห็นให้ทั่วถึง เพื่อให้ได้มาซึ่งรัฐธรรมนูญที่มีความเป็นประชาธิปไตยมากที่สุด เชื่อว่าทุกคนมีความเห็นที่เหมือนและแตกต่าง และยืนยันว่ารัฐบาลมีเจตจำนงที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เกิดความเป็นประชาธิปไตย เกิดเป็นรัฐธรรมนูญที่ทุกคนสามารถยอมรับได้” นายชัยกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พรบ.งบ 67 มีผลบังคับใช้แล้ว นายกฯ เชื่อมั่นจะช่วยให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พ.ร.บ. งบฯ 2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท มีผลบังคับใช้แล้ว โดยแบ่งได้ ดังนี้ งบกลาง 6.15 แสนล้านบาท
นายกฯปลื้มแบงก์รัฐขานรับลดดอกเบี้ย 0.25%
นายกฯ ชื่นชมมาตรการสถาบันการเงินของรัฐ ขานรับนโยบายประกาศลดดอกเบี้ย 0.25% ช่วยเหลือลูกค้ารายย่อย และกลุ่มเปราะบาง เป็นระยะเวลานาน 6 เดือน เริ่มตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2567 เชื่อมั่นเป็นการเพิ่มโอกาสให้ประชาชน
'หมอชัย' โนคอมเมนต์ นายกฯ ทาบ 'จักรพล' นั่งโฆษกรัฐบาล
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวที่นายกรัฐมนตรีทาบทามนายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง
รัฐบาลตีปี๊บ ประกวด 'ข้าวหอมมะลิไทย' ช่วยยกคุณภาพชีวิตเกษตรกร
รัฐบาลหนุนเกษตรกรและโรงสี จัดประกวดข้าวหอมมะลิไทยปี 2566 เฟ้นหาและอนุรักษ์พันธุ์ข้าวไทยคุณภาพชั้นเลิศ พร้อมขยายช่องทางการจำหน่าย
โฆษกรัฐบาล โต้ยิบข้อครหาเงินดิจิทัลเอื้อเจ้าสัว หลังครม.เห็นชอบหลักการ
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในที่ประชุมครม. มีการขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ภายหลังจากที่มีการประชุมหารือไปหลายรอบสุดท้ายได้ข้อสรุปเป็นหลักการ ของโครงการเงื่อนไขผู้ที่ได้รับ 50 ล้านคน อายุ 16 ปีขึ้นไป มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน และมีรายได้ต่อปีไม่เกิน 840,000 บาท
'หมอชัย' สยบข่าวเปลี่ยนตัวโฆษกรัฐบาล ยันนายกฯไม่ส่งสัญญาณ
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการปรับเปลี่ยนเปลี่ยนแปลงโฆษกรัฐบาล ว่า ไม่มีนะ ตนไม่เคยได้ยินข่าว และขอย้ำว่าไม่มีตนกองเชียร์ไม่เยอะ