‘ชูศักดิ์’ ชี้ที่มาของผู้ยกร่างจำเป็น ย้ำร่างรธน.ฉบับใหม่ ต้องใช้ 'สสร.’ 100%

‘ชูศักดิ์’ เชื่อ ที่มาของผู้ยกร่างจำเป็น ย้ำ ‘ร่างรธน.ฉบับใหม่’ ต้องใช้ ‘สสร.100%’ เพื่อให้ยึดโยงกับปชช. มอง ทุกกระบวนการ ควรเกิดขึ้นโดยเร็ว เพื่อนับหนึ่ง แนะ ระบุชัด ทำรัฐประหารนิรโทษกรรมไม่ได้-รัฐประหารต้องหมดไป ‘ราเมศ’ ยัน สสร.ควรมาจากการเลือกตั้ง เพื่อให้ปชช.มีส่วนร่วม

10 ธ.ค.2566-ที่ลานประชาชน รัฐสภา ในการเสวนา ‘รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ หน้าตาเป็นอย่างไร’ เนื่องในวันรัฐธรรมนูญ นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวในการเสวนาช่วงหนึ่งว่า เราตั้งเป้าไว้ว่ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ควรจะมีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) มายกร่างเพื่อให้เห็นว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่มาจากประชาชน ทำเพื่อประชาชน เป็นไปเพื่อประชาชน หากเป็นเช่นนี้แล้วมี สสร. คิดว่าเราจะประสบความสำเร็จ ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับ สสร.ว่า จะยกร่างอย่างไร แต่เชื่อว่าหากกระบวนการมี สสร.ที่เป็นตัวแทนของประชาชนมายกร่างรัฐธรรมนูญจะเป็นประชาธิปไตยแน่นอน ขณะนี้หลายฝ่ายพยายามอยู่ หากไม่สำเร็จ ไม่สามารถร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้นั้น ตนคิดว่าจะย่ำอยู่กับที่ และใช้ร่างฉบับนี้ก็จะไม่เป็นประโยชน์กับประชาชน

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องมีการยกเลิกหรือแก้ไขมาตรา 256 ที่ปัจจุบันเราติดกับอยู่กับมาตรานี้ เพราะเวลาจะแก้ไขมาตรานี้เราติดอยู่กับเงื่อนไขที่ระบุว่า ต้องมีเสียงของสว. สนับสนุน 1 ใน 3 ที่ผ่านมาจึงจะเห็นว่าเรายกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญไปหลายประเด็น แต่ท้ายที่สุดก็ไม่เคยสำเร็จสักครั้งด้วยเหตุผลว่าเสียงของสว. ไม่ถึง 1 ใน 3 ตนคิดว่าเราต้องสกัดมาตรา 256 ออกไปเพื่อทำให้รัฐธรรมนูญนี้เป็นพลวัต และสามารถแก้ไขได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ ยังเชื่อว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้มีปัญหาเรื่องกระบวนการถ่วงดุลอำนาจระหว่างฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายตุลาการ รวมถึงการถ่วงดุลอำนาจขององค์กรอิสระ ฉะนั้น ที่มาขององค์กรอิสระ ศาลรัฐธรรมนูญ ที่ผ่านมาคือปัญหาของประเทศว่าเราไม่ได้รับความเป็นธรรม ท้ายที่สุดก็ไม่สามารถตรวจสอบองค์กรอิสระ ศาลได้ หากวินิจฉัยอะไรออกมา คนนั้น คนนี้ก็พ้นจากตำแหน่ง เพราะเราไปมอบอำนาจให้เขาจนไม่สามารถถ่วงดุลอำนาจกันได้

นายชูศักดิ์ กล่าวว่า การปรับองค์กรในรัฐธรรมนูญเพื่อให้เกิดความสมดุลของอำนาจเป็นเรื่องสำคัญ ตนเห็นด้วยกับแนวคิดของนักวิชาการหลายคนว่า ต่อไปนี้องค์กรอิสระควรจะมีที่มาจากรัฐสภา อย่างไรก็ตาม เรามีรัฐธรรมนูญผ่านมาหลายฉบับ แต่มีจำนวนมากที่มาจากรัฐประหาร เกิดจากการตั้งคณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากรัฐประหาร กลายเป็นรัฐธรรมนูญที่มาจากประชาธิปไตยมีจำนวนน้อยกว่ารัฐธรรมนูญที่มาจากรัฐประหาร ฉะนั้น รัฐประหารจึงเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศและเป็นอุปสรรคสำคัญของประชาธิปไตย เราต้องเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญว่าห้ามให้มีการรัฐประหาร หากใครกระทำรัฐประหารไม่มีอายุความ ไม่มีการนิรโทษกรรม สำคัญที่สุดคือต้องทำให้ศาลและกระบวนการยุติธรรมไม่สามารถยอมรับรัฐประหารได้ และเรื่องรัฐประหารต้องหมดไป

นายชูศักดิ์ กล่าวถึงกระบวนการการยกร่างรัฐธรรมนูญด้วยว่า ต้องมีการทำประชามติถามประชาชนก่อนว่าสมควรจะให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ ความเห็นของตนดั่งเดิมเห็นเหมือนกับที่นายชัยธวัช ระบุว่าตั้งมีการประชามติ 3 ครั้ง คือถามไปตอนที่ยังไม่มีร่างเข้าสู่สภาฯ แต่เมื่อประชาชนเห็นควรจึงมาแก้มาตรา 256 เพื่อให้มีส.ส.ร. จากนั้นก็ถามประชาชนอีกครั้ง แต่ขณะนี้มีความเห็นของฝ่ายหนึ่งที่ไปดูคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอย่างละเอียดแล้วพบว่าประเด็นเรื่องการทำประชามติกี่ครั้งนั้น เราไม่เคยถามศาลรัฐธรรมนูญเลย และยังเป็นเรื่องที่ยังถกเถียงกันอยู่ว่าจะทำประชามติทั้งหมดกี่ครั้ง ซึ่งหากทำประชามติ 2 ครั้งก็มีคนบอกว่าจะประหยัดเงินไป 4,000 ล้านบาท

“ยืนยันว่าการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องมาจากสสร. และ สสร.ควรจะต้องมาจากการเลือกตั้งของประชาชน เพราะเชื่อว่ารัฐธรรมนูญที่ดีนั้น กระบวนการยกร่าง ที่มาของผู้ยกร่างจำเป็นต้องยึดโยงกับประชาชน ย้ำว่ากระบวนการ สสร. ควรจะต้องเกิดขึ้นและควรจะเกิดขึ้นโดยเร็ว เพื่อที่จะให้กระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เดินหน้านับหนึ่งได้”

ขณะที่นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวช่วงหนึ่งในการเสวนาตอนหนึ่งว่า การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ เชื่อว่าประชาชนทุกคนต้องการรัฐธรรมนูญ ที่เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ เราจะเห็นว่าที่มาของรัฐธรรมนูญปี 2560 มาจากกระบวนการส่งต่ออำนาจ เนื้อหา มีหลายประเด็นที่ลิดรอนสิทธิเสรีภาพประชาชน กระบวนการการร่างไม่ชอบธรรม เนื้อหาไม่ชอบธรรม เมื่อนำร่างมาให้ประชาชนทำประชามติ คนที่คัดค้านก็ถูกจับ คนที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญปี 2560 ถูกจับไปเท่าไหร่ ดังนั้น กระบวนการการดำเนินคดีกับผู้เห็นต่าง จะให้ความชอบธรรมกับรัฐธรรมนูญปี 2560 อย่างไร

นายราเมศ กล่าวว่า กระบวนการแก้ไขก็ยาก เพราะล็อกไว้ด้วยเสียง สว. ที่ต้องมีเสียงถึง 1 ใน 3 หรือ 84 คน จะผ่านได้อย่างไร ทางพรรคประชาธิปัตย์ จึงเสนอทางแก้ไขให้ง่ายขึ้น ทั้งการแก้ไขเรื่องความเหลื่อมล้ำ การกระจายอำนาจ และกระบวนการการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) แต่ที่ห่วงคือ อยากให้ประชาชนมีส่วนร่วมทั้งหมด แต่การกำหนดกฎเกณฑ์ยกร่าง เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เนื้อหารอบคอบมากขึ้น เราควรมีพื้นที่ให้นิสิตนักศึกษา เข้ามามีส่วนร่วมในการร่างรัฐธรรมนูญด้วย เราเห็นด้วยที่ สสร. ต้องมาจากการเลือกตั้งโดยประชาชน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ก้าวไกล เดือดแทน ‘หมอชลน่าน’ ทุ่มเทเหนื่อยสุด โดนคนทิ้งพรรคเสียบเก้าอี้

‘ณัฐชา’ มอง ปรับ ครม.เศรษฐา 1/1 ‘เพื่อไทย’ ยังรักษาคาแรคเตอร์ ‘สมบัติผลัดกันชม’ เก้าอี้ รมต. เหมือนเดิม สงสัย ทำไมเอาคนทิ้งพรรคอย่าง ’สมศักดิ์‘ แทน ’หมอชลน่าน‘ เหตุเหนื่อยสุดแบกรับสถานการณ์ช่วงเลือกตั้ง-จัดตั้งรัฐบาล

เอาแล้ว 'ราเมศ' ชี้ นายกฯ ต้องรับผิดชอบคุณสมบัติ รมต. ถุงขนม

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ว่า ขอแสดงความยินดีกับรัฐมนตรีใหม่ทุกคน ขอให้ปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศเป็นที่ตั้ง หลายคนมีความเหมาะสมแต่ก็ต้องติดตามในภาคปฏิบัติว่าจะทำหน้าที่เพื่อตอบแทนพี่น้องประชาชนหรือตอบแทนใคร

'ราเมศ' ย้อน 'วันชัย' แยกให้ออก โจรกลับใจ หรือ โจรกลับมาโกย

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กรณีที่ นายวันชัย สอนศิริ ระบุถึงคนที่ออกมาท้วงติงนายทักษิณ ชินวัตร เปรียบเสมือนลิเกหลงโรงนั้นว่า การตรวจสอบ

'ชัยเกษม' ออกตัวไม่เกี่ยวปรับครม. ผู้บริหารพรรคจะใช้ให้ทำอะไรก็ได้ สบายๆ

นายชัยเกษม นิติสิริ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย เดินทางมาไหว้ศาลพระภูมิเจ้าที่ ศาลตา ศาลยาย โดยผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า การเดินทางมาไหว้วันนี้เกี่ยวอะไรกับการปรับ ครม.หรือไม่

'ราเมศ' อัดราชทัณฑ์แจง 5 ข้อ ตอกย้ำให้เห็นกระบวนการอุ้ม 'ทักษิณ' ป่วยทิพย์

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีกรมราชทัณฑ์ เผยแพร่เอกสารชี้แจง กรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไม่ต้องเข้าเรือนจและรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ว่า กรมราชทัณฑ์ต้องระลึกว่าทุกคำตอบคือหลักฐานสำคัญ