กมธ.ทหาร นำทีมถก 'สุทิน' กระชับความสัมพันธ์ เพิ่มความร่วมมือตรวจสอบ

กมธ.ทหาร นำทีมถก 'สุทิน' กระชับความสัมพันธ์ เพิ่มความร่วมมือตรวจสอบ กองทัพ เสนอไอเดีย 'พลทหารปลอดภัย สร้างความมั่นใจ ดึงชายไทยสมัครเกณฑ์ทหาร'

2 ก.พ.2567 - เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม (ศรีสมาน ) นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ประธานคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎรพร้อมคณะ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนก่อน เข้าพบนายสุทิน คลังแสงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถึงการเดินทางมาในวันนี้ว่า ทางคณะกรรมาธิการการทหาร และกองทัพจะต้องทำงานร่วมกัน จึงได้มาหารือในวันนี้ เพื่อให้เข้าใจบทบาทการทำงานของกันและกัน โดยเฉพาะการติดตามตรวจสอบ เรื่องความโปร่งใส ภายในกองทัพการดำเนินกิจการในกองทัพ ซึ่งมีการพูดคุยกันหลายเรื่อง รวมทั้งเรื่องของเรือดำน้ำและการกู้เรือหลวงสุโขทัย

กรณีปัญหาที่ดินทำกินทับซ้อนกับพลเรือน ว่าจะดำเนินการอย่างไรเพื่อให้ประชาชนได้คลี่คลายปัญหาในเรื่องที่ดินทำกิน รวมไปถึงการจัดการเรื่องเงินนอกงบประมาณ เพื่อทำให้ประชาชนได้ไว้วางใจ ในความโปร่งใส และให้ประชาชนได้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับกองทัพมากขึ้น เพราะหากไม่สามารถสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่าง พลเรือนกับกองทัพได้ ก็จะเป็นปัญหาความไม่เข้าใจกัน

โดยเฉพาะเรื่องที่กองทัพจะจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ซึ่งมีความจำเป็นแต่อาจจะทำให้ประชาชนตั้งสมมุติฐานในทางลบ และตั้งข้อสงสัยในแง่ลบอยู่ตลอดเวลา สถานการณ์เช่นนี้ไม่เป็นผลดีต่อกองทัพ จึงถือว่าเป็นความจริงใจของกรรมการทหาร

นานวิโรจน์ กล่าวว่า ส่วนไฮไลท์ในการพูดคุยกันในวันนี้คือเรื่องของคณะกรรมาธิการการทหารจะเปิดตัวโครงการพลทหารปลอดภัยที่มีรองคณะกรรมาธิการการทหารเป็นหัวหน้าโครงการ ก็จะได้หารือกับ นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อขอความร่วมมือ กรณีที่มีการร้องเรียน เกี่ยวกับสวัสดิภาพของทหารเกณฑ์และหากพบปัญหาเหล่านี้ก็จะได้พูดคุย อย่างเร่งด่วนกับบุคคลที่เกี่ยวข้องในกองทัพได้ทันที

โดยให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นผู้มอบหมายเพื่อสกัดกั้นการกระทำที่ไม่ถูกต้องหรือการลงโทษที่ผิดระเบียบ โดยมีเป้าหมายว่าต้องไม่มีทหารเกณฑ์บาดเจ็บหรือเสียชีวิต และปัญหาต่างๆจะถูกคลี่คลายในทันทีในการโอนย้ายไปอยู่กับผู้ฝึกที่มีจิตใจดี เพื่อทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองเกิดความสบายใจ ดังนั้นวันนี้สาระสำคัญที่สุดคือการเปิดตัวโครงการพลทหารปลอดภัย เพื่อทำให้พลทหารและพ่อแม่ผู้ปกครองเกิดความมั่นใจว่าพลทหารมีความปลอดภัยตั้งแต่การตรวจเลือดก็จะทำให้มีการสมัครเข้ามาเป็นพลทหารมากขึ้นในปีต่อไป

“หากประชาชนรู้สึกว่าการอยู่ในค่ายทหารมีความปลอดภัยและมีการดูแลสวัสดิภาพที่ดีก็เชื่อว่าจะทำให้มีผู้ที่จะประสงค์เป็นทหารมากขึ้นต่อไปและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความร่วมมือนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม”นายวิโรจน์ กล่าว

นายวิโรจน์ กล่าวย้ำอีกว่า โครงการนี้จะมีการฝึกอบรมและขอความร่วมมือจากกระทรวงกลาโหม ส่งทหาร ระดับบังคับบัญชาเข้ามาอบรมเกี่ยวกับพ.ร.บ. อุ้มหายและซ้อมทรมาน เพื่อแสดงให้เห็นว่ากรรมาธิการการทหาร ได้ให้ความร่วมมือกับกองทัพอย่างรวดเร็วที่สุด สกัดกั้นไม่ให้เกิดความรุนแรง หรือความสูญเสียและบาดเจ็บใดๆ โดยเฉพาะการ ลงโทษลงทัณฑ์ ที่ผิดระเบียบรวมถึงการลงโทษที่ผิดต่อหลักสิทธิมนุษยชน หากทำหมดแล้ว สุดท้ายหากหยุดไม่สามารถหยุดยั่งความรุนแรงได้ และการทำที่เข้าข่ายความผิดตามพ.ร.บ. อุ้มหายและซ้อมทรมานได้ ทางกรรมาธิการการทหาร ก็จะรวบรวมพยานหลักฐาน ข้อเท็จจริงทั้งหมดจะส่งให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ทางอัยการและสำนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายตามพ.ร.บ.อุ้มหายฯ ต่อไป

นอกจากนี้ยังจะมาขอความร่วมมือจากนายสุทิน ในเรื่องของการขอข้อมูล เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกองทัพ เพราะในยุคก่อนๆมีการทำหนังสือมาถึงหน่วยงานต่างๆเพียงหนึ่งครั้งเมื่อไม่ได้รับคำตอบทุกอย่างก็เงียบหาย แต่มติของคณะกรรมาธิการการทหารในชุดนี้ มีความชัดเจนว่าจะทำหนังสือ 3 ครั้งครั้งที่1. ทำหนังสือถึงหน่วยงานโดยตรง แต่ทุกครั้งจะมีสำเนาถึงนายสุทิน ครั้งที่2. จะตามถึงนายสุทินโดยตรงในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดเพื่อสั่งการให้หน่วยงานนั้นๆ ให้ข้อเท็จจริงกับคณะกรรมาธิการการทหาร ถ้ายังไม่ส่งตามเวลาที่กำหนดก็จะตามในครั้งที่ 3 คือจะทวงถามไปถึงนายสุทินอีกครั้ง ว่าขณะนี้ยังไม่ได้รับความร่วมมือ เพราะฉะนั้นคณะกรรมาธิการทหาร จะเข้าใจเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ นอกเสียจากว่า นายสุทินในฐานะรมว.กลาโหม ก็มีเจตนาให้ความร่วมมือ ซึ่งเรื่องนี้ก็จะพูดคุยอย่างตรงไปตรงมากับนายสุทินเพื่อให้การทำงานเป็นไปด้วยความราบรื่น

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นิด้าโพลชี้ประชาชนไม่เชื่อแก้ พ.ร.บ.กลาโหม จะหยุดรัฐประหารได้

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง “หยุดรัฐประหาร!” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 22-23 เมษายน 2567 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ

'เศรษฐา1/1'เศรษฐกิจ-การเมืองนำ เว้นระยะ'ความมั่นคง-กองทัพ'

โฉมหน้า “คณะรัฐมนตรีเศรษฐา 1/1” ที่ออกมา นอกจากจะเป็นการสับเปลี่ยนหมุนเวียนตัวบุคคลของพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว เป้าหมายที่ฉายภาพชัดต่อทิศทางการบริหารงานของรัฐบาล

ส่องงบ 68 'กลาโหม' ปรับลดบุคลากร-ตัดกิจกรรมสร้างภาพลักษณ์ จัดซื้ออาวุธเพิ่มขึ้น

ภายหลังที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา ได้ผ่านความเห็นชอบ รายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 วงเงิน 3,752,700 ล้านบาท โดยเป็นการตั้งงบแบบขาดดุล เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2567

'ชัยธวัช' กระตุกปรับครม.หมุนเก้าอี้ตามโควต้า หวังรมต.คุมกห.ดันแก้กม.ปฏิรูปกองทัพต่อ

'ชัยธวัช' ชี้ปรับครม.ขอเน้นคนเหมาะกับงานมากกว่าหมุนเก้าอี้ตามโควต้าทางการเมือง ไม่ส่งผลดีต่อรัฐบาล ทำให้ประชาชนผิดหวัง หวังรมต.คุมกลาโหม ดันแก้ร่างกม.ปฏิรูปกองทัพต่อ