'เศรษฐา' เผยหากเวลาตรงกันคงได้พบ 'ทักษิณ' ที่เชียงใหม่

“เศรษฐา” เผย หากเวลาตรงกันคงได้พบ “นายทักษิณ” ที่เชียงใหม่ ไม่กังวลฝ่ายค้านนำเรื่องปมอดีตนายกฯทักษิณอภิปรายไม่ไว้วางใจ ยืนยันอดีตนายกฯออกมาตามกฎหมาย พร้อมเผยเตรียมให้ทีมงานแถลงหลังทัวร์ต่างประเทศ มีผลงานเป็นที่ประจักษ์

8 มี.ค.2567 - เวลา 17.40 น. ตามเวลาท้องถิ่น ณ นครปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงภารกิจการลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 15-17 มีนาคมนี้ ว่า จะไปติดตามเรื่องสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันโดยจะมีการหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่และฝ่ายความมั่นคงในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและไปติดตามโครงการพระราชดำริด้วย

เมื่อถามว่า การลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ในครั้งนี้จะมีโอกาสได้พบกับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่จะเดินทางกลับบ้านที่จังหวัดเชียงใหม่เพื่อเยี่ยมบรรพบุรษหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หากมีโอกาสก็จะได้พบกันและได้เจอกับนายทักษิณหนึ่งครั้งแล้ว เจอครั้งที่สองคงไม่เป็นไร เพราะเป็นคนรู้จักกันอยู่แล้วหากสะดวกก็คงได้พบกัน แต่เบื้องต้นยังไม่ได้นัดหมายกับนายทักษิณ เพราะไม่ทราบว่าท่านจะเดินทางไปที่ไหนเวลาไหน แต่คนที่รู้จักกัน คงแวะเข้าไปพูดคุยเป็นธรรมดา

เมื่อถามว่า ที่ฝ่ายค้านจะนำเรื่องนายทักษิณ เข้าไปอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ฝ่ายบริหารมีหน้าที่ตอบข้อซักถามของฝ่ายนิติบัญญัติอยู่แล้ว ส่วนตัวไม่ได้กังวลเพราะเป็นไปตามกฎหมาย นายทักษิณก็ออกมาตามกฎหมายทุกอย่าง และเราก็ไม่ได้เข้าไปก้าวก่ายอะไรกับใครทั้งสิ้น ถ้าเกิดมีเรื่องข้องใจอันใดก็เป็นไปตามกลไกการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

นายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันว่า พร้อมที่จะชี้แจงทุกเรื่องและรัฐมนตรีทุกคนก็พร้อมที่จะชี้แจงเช่นกันซึ่งในขณะนี้รัฐบาลพยายามเร่งทำงานทุกอย่างและกลางเดือนนี้จะมีการแถลงว่า การที่รัฐบาลเดินทางมาต่างประเทศมีผลงานอย่างไรบ้าง รวมไปถึงการลงทุนของแต่ละบริษัทไปถึงขั้นตอนใดแล้ว ประชาชนจะได้สบายใจ ขณะเดียวกันก็จะได้วางแผนการรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยด้วย

เมื่อถามว่า การที่ฝ่ายการเมืองออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่านายกรัฐมนตรีเดินทางต่างประเทศแต่ไม่มีผลงาน นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนไม่ขอตอบเพราะเป็นเพียงเป็นวาทะกรรมทางการเมือง ผลงานรัฐบาลมีหรือไม่ขอให้ประชาชนตัดสินใจและขอโอกาสให้ทีมงานได้อธิบาย ซึ่งการเดินทางลงพื้นที่ทั้งในและต่างประเทศเป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเอเปก อาเซียน -ออสเตรเลีย ,อาเซียน-ญี่ปุ่น ซึ่งไม่ไปไม่ได้ และเมื่อเดินทางไปแล้วก็ใช้โอกาสในการพบปะภาคเอกชนเพื่อส่งเสริมการลงทุนในประเทศ ส่วนตัวขอให้เกียรติทีมงานเป็นคนตอบเพราะเป็นความภาคภูมิใจไม่ใช่เพียงนายกรัฐมนตรีแถลงคนเดียว ยืนยันว่าตนไม่ห่วง เป็นเรื่องธรรมดา ไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่ทราบ แต่เดี๋ยวจะทราบว่ารัฐบาลได้ทำอะไรไปบ้าง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ก.ตร. ไฟเขียวแต่งตั้ง 43 นายพลสีกากี 'สุรพงษ์ ชัยจันทร์' ผงาดที่ปรึกษาพิเศษตร.

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เป็นประธานเพื่อประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 3/2567 โดยมีวาระการคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษ

นายกฯ เผย ก.ตร. มีมติส่งคำร้อง 'บิ๊กโจ๊ก' ให้ฝ่ายวินัยพิจารณาอีกรอบ ปมสั่งช่วยราชการ

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 3/2567 ว่า วันนี้วาระสำคัญของการประชุมนอกจากแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิ ยังมีเรื่องที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร้องขอความเป็นธรรมทั้งหมด ทั้งที่มีต่อตนในฐานะนายกรัฐมนตรี และประธาน ก.ตร.

นายกฯ มั่นใจคุณสมบัติ 'พิชิต' ถามกฤษฎีกาแล้ว อุบ 'มาริษ' แทน 'ปานปรีย์'

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีการร้องเรียนให้มีการตรวจสอบคุณสมบัติของ นายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และเตรียมร้อง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ

จากวังสราญรมย์ถึงตึกไทยคู่ฟ้า “ทูตปู”เลขาฯส่วนตัวทักษิณ สู่ตัวเต็งรมว.ต่างปท.คนใหม่

ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้ารัฐบาล และเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ใช้เวลาแค่หนึ่งคืนก็เคาะออกมาแล้วว่าจะดัน ทูตปู มาริษ เสงี่ยมพงษ์ อดีตทีมงานหน้าห้อง นายกรัฐมนตรี ตึกไทยคู่ฟ้า สมัยทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี

'ศิริกัญญา' มอง 'ขุนคลังคนใหม่' ทำงานได้เต็มที่ ไม่ต้องแบ่งเวลามาเป็นเซลส์แมนประเทศ

น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.)ในส่วนของกระทรวงการคลัง ว่า ปรากฎว่ามีรัฐมนตรีในกระทรวงการคลังถึง 4 คน ซึ่งน่าจะมากที่สุดในประวัติศาสตร์ อันที่จริงกรมในกระทรวงก็มีไม่ได้มากคงแบ่งกันดูแลคนละกรมครึ่ง