‘วิโรจน์’ ชมหวาน ชี้งบประมาณซื้ออาวุธบางทีมีความจำเป็น ชม ‘ทัพเรือ-ทัพอากาศ’ ให้ความร่วมมือ

‘กมธ.การทหาร’ ขน สส. สัมมนา ‘บทบาทกองทัพกับท้องถิ่นปทุมธานี’ ด้าน ‘วิโรจน์’ ชี้ งบประมาณซื้ออาวุธ บางทีมีความจำเป็น ชมหวาน ‘ทัพเรือ-ทัพอากาศ’ ให้ความร่วมมืออย่างดี หนุน ‘เรือฟริเกต’ เหตุเห็นโอกาส ผิดหวัง ‘พรรคร่วม รบ.’ ไม่เอาด้วย ตีเช็กเปล่า เอื้อ ‘นายกฯ’

10 มี.ค. 2567 – ที่ห้องอาหารพริ้มเพลิน จ.ปทุมธานี คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร สภาผู้แทนราษฎร นำโดยนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธาน กมธ. จัดงานสัมมนาในหัวข้อการใช้พื้นที่ทหาร บทบาทหน้าที่ของทหารกับท้องถิ่นในการพัฒนาประเทศ เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนถึงการใช้งบของกองทัพ โดยมี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปทุมธานี ในฐานะตัวแทนส่วนท้องถิ่น และ สส.พรรคก้าวไกลร่วมงานด้วย

นายวิโรจน์ กล่าวเปิดงานว่า การใช้งบประมาณจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพส่วนใหญ่บางอย่างมีความจำเป็น ล่าสุดจะจัดซื้อปืนก็มีความจำเป็น แต่พอประชาชนทราบก็เหมือนมีกระแสต้าน ไม่อยากให้ซื้อ อยากให้ปรับลดงบประมาณ

“ผมก็ตั้งคำถามว่าถ้าตำรวจไม่มีปืน แล้วตำรวจจะปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างไร ถูกหรือไม่ เพราะฉะนั้นกลับมาที่กองทัพและทหารก็เหมือนกัน ผมว่าหลายสิ่งหลายอย่างมีความจำเป็นต้องซื้อ แต่ทำไมวันนี้พอจะซื้ออย่างนั้นอย่างนี้ ประชาชนเกิดแรงต้านทันทีเพราะอะไร” นายวิโรจน์ กล่าว

นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า เพราะความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างพลเรือนกับทหารวันนี้มันสั่นคลอน เหมือนคนที่เราไม่ไว้วางใจ อีกฝ่ายหนึ่งก็จะขยับ ประชาชนก็จะมองไม่ดีเอาไว้ก่อน ทำให้การจัดซื้อจัดจ้าง สิ่งที่มีความจำเป็นต่อความมั่นคงและการปฏิบัติหน้าที่ของทหารถูกลดทอนประสิทธิภาพลง ดังนั้น วันนี้ตนว่าบทบาทของ กมธ.การทหารที่สำคัญที่สุดคือการประสานให้ประชาชนกับกองทัพกลับมามีความไว้เนื้อเชื่อใจ และเข้าอกเข้าใจกันในเชิงเหตุผล ตรวจสอบซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคประชาชนตรวจสอบกองทัพอย่างสมเหตุสมผล อย่างมีเนื้อหาสาระ ไม่ได้ตรวจสอบในลักษณะที่มีการอคติหรือเกลียดชัง

ล่าสุดทุกคนตกใจ เพราะเห็นเรือฟรีเกตวงเงิน 1.7 หมื่นล้าน ตกใจว่าทำไม กมธ.การทหารไม่ได้คัดค้าน เราก็คิดว่าถ้ารัฐบาลกับพรรคที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลยกมือ เรือฟริเกตก็ต้องผ่าน แต่ปรากฎว่ากองทัพเรือเตรียมเนื้อหาไว้เป็นดิบดี ตัวแทนจากก้าวไกลยกมือให้ผ่าน ขณะที่พรรครัฐบาลตัดงบเรือฟริเกต เชื่อว่าจะนำงบส่วนนี้ไปเข้าสู่งบกลาง ถือเป็นการตีเช็กเปล่าไปให้นายกรัฐมนตรี

นายวิโรจน์ ออกตัวว่า ตนไม่ได้เชียร์ให้ซื้อ “เดี๋ยวไปหาว่าวิโรจน์กินยาลืมเขย่าขวดแล้วมาเชียร์ให้ซื้อเรือฟริเกต” ถามว่าทำไมถึงสมเหตุสมผล ก็เพราะเรือฟริเกตนี้จะถูกต่อในประเทศไทย น่าจะเป็น ครั้งแรกที่จะมีการต่อเรือรบในประเทศไทย เกิดการจ้างงานมูลค่าหลายพันล้านบาท เป็นการการต่อเรือด้วยมือของเราเองครั้งแรก และจะทำให้ลดต้นทุนในการบำรุงรักษาเวลาของเราในระยะยาว และเรือฟริเกตปัจจุบันนี้เข้าใจว่ามีน้อยมาก

“สาเหตุที่สนับสนุนฟริเกต ไม่ใช่เรือดำน้ำ เพราะ เรือดำน้ำเป็นการเอาเงินประโยชน์ให้เขา โดยที่ไม่ได้ประโยชน์กลับมา รัฐบาลบอกว่ากลัวงบประมาณไม่พอ แต่ปัญหาคือตัดทิ้งแล้วเอาเข้างบกลาง ตกลงแล้วเราจะเชื่อน้ำงิ้วของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้หรือไม่ และเขาจะอ้างว่าไม่รู้ไม่ได้” นายวิโรจน์ กล่าว

นายวิโรจน์ กล่าวว่า พูดแล้วก็ยิ่งแค้น ถ้ามีกระป๋องจะเตะกระป๋องโชว์ ความฝันที่ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางการต่อเรือจบลงแล้ว แล้วนายกรัฐมนตรีก็เคยพูดว่าการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ไม่เป็นไรมาก ถ้ามีความเชื่อมโยงกับการพัฒนาเศรษฐกิจ

“ของไม่จำเป็น บาทเดียวเราก็ไม่จ่าย แต่ถ้ามันจำเป็นและเกิดประโยชน์ ต่อให้เป็นหมื่นล้าน แสนล้านก็ต้องจ่าย ก็ต้องหามาจ่าย ก็ต้องกู้มาซื้อ กู้มาลงทุน มันไม่เกี่ยวกับเงินมากหรือน้อย มันอยู่ที่จำเป็นและเกิดประโยชน์กับประชาชนหรือไม่ ดังนั้นอย่าไปคิดว่าหมื่นล้าน ทำไมถึงบอกว่าถูก 9-10 ปีก่อน เราซื้อเรือฟริเกต ที่ปัจจุบันได้รับพระราชทานชื่อว่าเรือรบหลวงภูมิพล ในวันนั้นวงเงินที่ซื้อ 1.5 หมื่นล้านบาท ถ้าไปซื้อมาในปัจจุบัน ไม่มีทางซื้อได้ในราคานี้ ยกเว้นต่อเอง” นายวิโรจน์ กล่าว

นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า ประชาชนจะไว้วางใจกองทัพได้ก็ต่อเมื่อมีความโปร่งใส มีการเปิดเผยข้อมูลกับสาธารณะอย่างตรงไปตรงมา ยอมรับคำวิพากษ์วิจารณ์ และชี้แจงตอบกลับในลักษณะที่เข้าอกเข้าใจประชาชน แต่ถ้าปิดหูปิดตาประชาชนความไว้เนื้อเชื่อใจจะเกิดขึ้นได้อย่างไร

“วันนี้ต้องขอบคุณอยู่ 2 เหล่าทำคือกองทัพเรือและกองทัพอากาศ ที่วันนี้ให้ความร่วมมือกับ กมธ.ดีมาก ส่วนผบ. ทบก็กำลังสร้างความสัมพันธ์เพื่อสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจกันมากขึ้น เข้าใจว่าการสื่อสารของกองทัพกับประชาชนบางครั้งมีข้อจำกัดแต่ถ้าสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจแล้วให้ กมธ.ช่วยในการประชาสัมพันธ์บอกเล่าเก้าสิบกับภาคประชาชน ซึ่งเชื่อว่ามันจะมีการวิพากษ์วิจารณ์อยู่แล้วแต่ถ้ามีการสื่อสารมากขึ้นจะทำให้เกิดการไว้เนื้อเชื่อใจกันมากที่สุด ซึ่งไม่ได้หมายความว่าเห็นด้วยเห็นดีไปตลอด แต่หมายถึงความโปร่งใส ตรวจสอบได้” นายวิโรจน์ กล่าว

นายวิโรจน์ ระบุว่า ในส่วนที่ดินสนามกอล์ฟของกองทัพอากาศ ตนคิดว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือจะโอนให้กับท้องถิ่นหรือไม่ ถ้าโอนให้กับท้องถิ่นได้ ก็จะประเสริฐที่สุด จะเป็นเรื่องดีที่สุด แต่ถ้ากองทัพยังดำเนินการต่อ ต้องชี้แจงให้ได้ว่าจะมีการจัดสรรให้กับนายทหารเท่าไหร่ มีความโปร่งใส มีการจ่ายเงินเข้ารัฐเท่าไหร่ เปิดให้ประชาชนได้เข้าใช้ในอัตราราคาที่เป็นธรรมได้หรือไม่ แต่หากจะดีที่สุดต้องโอนให้กับท้องถิ่นและให้บริหารจัดการเอง

ขณะที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า ตนเต็มใจอย่างยิ่งที่ต้องมาร่วมงาน เพราะถือว่าเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องปทุมธานีทั้งหมด ยืนยันว่าถ้าสมมุติเป็นอย่างที่นายวิโรจน์พูด ก็ถือว่าอยากได้สนามกีฬา และเราก็พร้อม เพราะในปีที่ผ่านมาเราอุดรูรั่วเรื่องทุจริตคอร์รัปชันไว้ ตนอยากเห็นการพัฒนา เชื่อว่าอยู่ที่วิธีการหารือ นอกจากนี้ จังหวัดปทุมธานีถือว่ายังไม่มีสนามกีฬาที่เป็นของจังหวัด มองว่าชาวปทุมธานีไม่ต่ำกว่า 5 แสนคนจะได้รับประโยชน์ในส่วนนี้

ตนอยากได้ ทำให้เป็นศูนย์กีฬาที่ออกกำลังกายของพี่น้องประชาชน เป็นปอดของพี่น้องประชาชน พี่น้องประชาชนทำไมต้องไปเสี่ยงอุบัติเหตุข้างนอก เช่น การปั่นจักรยาน สิ่งเหล่านี้ตนยืนยันว่า อบจ.พร้อมและตั้งงบประมาณผูกพันไว้รอแล้ว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'รังสิมันต์'แนะ 3แนวทางแก้ปัญหาเมียนมา!

กมธ.ความมั่นคงเชิญหน่วยงานเกี่ยวข้องถกสถานการณ์เมียนมา 'โรม' ชี้ปัญหาในเมียนมาก็เป็นปัญหาของไทย เหตุคนหนีอพยพข้ามแดน ลั่นไทยอยู่ในฐานะที่น่าไว้วางใจที่สุด ควรเป็นตัวกลางในการเจรจา

'ชัยธวัช'ลุ้นศาลรัฐธรรมนูญขยายเวลาสู้คดียุบพรรคเพิ่มอีกรอบ!

'ชัยธวัช' ลุ้นศาล รธน.ขยายเวลาสู้คดียุบพรรค มองเป็นข้อกล่าวหาที่ร้ายแรงต้องหาพยาน-หลักฐาน สู้อย่างเต็มที่ เชื่อปรากฎการณ์งูเห่าน้อยกว่า 'อนาคตใหม่' เหตุสถานการณ์ต่างกัน

'ก้าวไกล' หนุนแก้กฎหมายสกัดรัฐประหาร ลั่นกองทัพต้องอยู่ใต้รัฐบาลพลเรือน

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม มีข้อเสนอให้สภากลาโหมเห็นชอบร่างแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่…)

'ดร.อานนท์' ชงสูตรการเมืองทำลาย 'ก้าวไกล-ธนาธร' เชื่อยอมเจ็บเถิด จะได้จบ

ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒน บริหารศาสตร์ (NIDA) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า