โฆษกอัยการเผย อัยการสูงสุดไม่ยื่นฎีกาต่อ หลัง 2 ศาลยกฟ้องกลุ่มพันธมิตรฯ ปิดล้อมสภาฯ ปี 51 ชุมนุมขับไล่อดีตนายกฯสมัคร
27 มี.ค.2567 - นายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า สำนักงานอัยการสูงสุดมีความคืบหน้าคดีสำคัญที่สังคมและสื่อมวลชนให้ความสนใจโดยเป็นคดีที่อัยการสูงสุดไม่รับรองให้ฎีกาคดีฟ้องนายสนธิ ลิ้มทองกุล กับพวก เป็นผลให้คดีถึงที่สุด
ตามที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 10 ยื่นฟ้อง นายสนธิ ลิ้มทองกุล จำเลยที่ 1 นายพิภพ ธงไชย จำเลยที่ 2 นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ จำเลยที่ 3 นางมาลีรัตน์ แก้วก่า จำเลยที่ 4 นายประพันธ์ คูณมี จำเลยที่ 5 ตามคดีหมายเลขดำที่ อ.4924/2555 และคดีหมายเลขแดงที่ อ.590/2562
โดยคดีดังกล่าวศาลมีคำสั่งให้รวมพิจารณากับคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.275/2556 และคดีหมายเลขแดงที่อ.591/2562 คดีระหว่างพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 10 กับนายสมศักดิ์ โกศัยสุข จำเลยที่1 นายสุริยะใส กตะศิลา จำเลยที่ 2 นายอมร อมรรัตนานนท์ จำเลยที่ 3 นายสำราญ รอดเพชร จำเลยที่ 4 นายศิริชัยไม้งาม จำเลยที่ 5 นายสาวิทย์ แก้วหวาน จำเลยที่ 6 นายพิชิต ไชยมงคล จำเลยที่ 7 นายอำนาจ พละมี จำเลยที่ 8 นายกิตติชัย ใสสะอาด จำเลยที่ 9 นายประยุทธ วีระกิตติ จำเลยที่ 10 นายสุชาติ ศรีสังข์ จำเลยที่ 11 นายสมบูรณ์ ทองบุราณ จำเลยที่ 12 นายศุภผล เอี่ยมเมธาวี จำเลยที่ 13 นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก จำเลยที่ 14 นายพิเชฐ พัฒนโชติจำเลยที่ 15 และให้รวมพิจารณากับคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.3881/2557 และคดีหมายเลขแดงที่ อ.592/2562 คดีระหว่างพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 10 กับนายวีระ สมความคิด จำเลย (รวมทั้งหมด 3 คดีให้เป็นคดีเดียวกัน)
โดยกล่าวหาจำเลยทั้งหมด ฐานร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อการแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดิน หรือรัฐบาลโดยใช้กำลังข่มขืนใจ หรือใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน เป็นหัวหน้าหรือผู้มีหน้าที่สั่งการในการมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด ทำให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยผู้กระทำมีอาวุธ และเมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกแล้วไม่เลิกมั่วสุมร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการไม่กระทำการหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกขืนใจนั้นเอง หรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้นไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น โดยมีอาวุธหรือโดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป ร่วมกันหน่วงเหนี่ยว หรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใด ๆ ให้ผู้อื่นปราศจากจากเสรีภาพในร่างกาย
คดีทั้งหมดดังกล่าวศาลชั้นต้นมีคำพิพากษายกฟ้อง และศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนให้ยกฟ้องตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
คดีดังกล่าวต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 เว้นแต่กรณีอัยการสูงสุดเห็นว่าคดีมีเหตุอันควรที่ศาลสูงสุดจะได้วินิจฉัยก็ให้ลงชื่อรับรองในฎีกาได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 221
เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2567 อัยการสูงสุดได้พิจารณาแล้ว เห็นว่า ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องชอบด้วยข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายแล้ว จึงมีคำสั่งไม่รับรองฎีกาคดีดังกล่าว เป็นผลให้คดีถึงที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับคดีเกิดเมื่อระหว่างวันที่ 25 พ.ค.-7 ต.ค. 51 จำเลย ซึ่งเป็นแกนนำได้ชักชวนประชาชนเข้าร่วมชุมนุมที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อกดดัน ก่อความวุ่นวายให้ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีในสมัยนั้น ลาออก โดยปิดล้อมสถานที่ราชการ รัฐสภา เพื่อไม่ให้คณะรัฐมนตรี สส., สว. และเจ้าหน้าที่เข้าร่วมประชุมรัฐสภาเพื่อไม่ให้นายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โยนเลขาธิการสภาตัดสินใจปมรับมอบอาคารรัฐสภา
'รองอ๋อง' เผยคืบหน้าตรวจรับอาคารรัฐสภา หลังส่งความเห็นให้ อสส.พิจารณาแก้ไขสัญญารอบสุดท้ายได้ มั่นใจ คดีในมือ ป.ป.ช. ไม่มีผลอะไร ส่วนกรณี 'สส.ปชป.' พบพิรุธโยนให้ คกก. เป็นคนตรวจสอบ
'นิพิฏฐ์' คาใจยึดทรัพย์ 'ทักษิณ' 4.7หมื่นล้าน จ่อไปหา รมว.คลัง-อสส. ตอบคำถาม
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตส.ส.พัทลุง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า
อัยการนัดฟังคำสั่งคดี 'จักรภพ' 23 พ.ค. เจ้าตัวแย้มจ่อลุยการเมือง
อัยการนัดฟังคำสั่งคดี 'จักรภพ เพ็ญแข' ครอบครองอาวุธสงคราม 23 พ.ค.นี้ เจ้าตัวเชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรม จ่อลุยการเมืองหลังพ้นคดี ชี้ ‘ยิ่งลักษณ์’ ควรได้ความเป็นธรรมเหมือนทุกคน
‘จักรภพ’ เดินสายรายงานตัวอัยการ รับทราบข้อหาคดีอาวุธสงครามที่ฉะเชิงเทรา
จักรภพ แจ้งจะไปรายงานตัวที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาเกี่ยวกับอาวุธสงครามที่พบในจังหวัดฉะเชิงเทราเมื่อหลายปีก่อน
งามไส้! คุก 2 เดือน 'ลูก รมต.' เมาขับฝ่าด่าน
นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยความคืบหน้าเรื่องนี้ว่า วันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา พนักงานอัยการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลเเขวง 1
คณะทำงานคดีอุ้มทรมานลุงเปี๊ยก ฟันตำรวจอรัญฯ ข้อหา ม.157-พรบ.อุ้มหาย
นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน หัวหน้าคณะทำงานตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวนตามมาตรา 31 แห่ง พรบ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 ร่วมประชุมร่วมกับพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ใ