'รัฐสภา' ถกบรรจุวาระจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ 'ก้าวไกล' หนักใจยื่นดาบให้ศาลรธน.อีกแล้ว

29 มี.ค.2567 - เวลา 12.40 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม มีวาระพิจารณาญัตติ เรื่องขอให้รัฐสภามีมติขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 (2) ของนายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และคณะ เป็นผู้เสนอ

นายชูศักดิ์ กล่าวเปิดเสนอญัตติว่า ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาฯ แจ้งว่าร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา256 และเพิ่มเติมหมวด15/1การจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ ที่ตนและคณะเป็นผู้เสนอ ไม่ใช่ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ประธานรัฐสภาจึงไม่สามารถบรรจุเป็นวาระการประชุมรัฐสภาได้นั้น เท่ากับว่าประธานรัฐสภา เห็นว่ารัฐสภาไม่มีหน้าที่พิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติม แต่ตนเห็นว่าเป็นร่างแก้ไขเพิ่มเติมตามรัฐธรรมนูญ 2560 (2) และการเสนอญัตติเป็นไปตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 4/2564 แล้ว จึงชอบที่ประธานจะบรรจุเป็นระเบียบวาระ ดังนั้น ตนจึงขอเสนอญัตติตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ.2563 ข้อ31 ขอให้รัฐสภามีมติขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภา และขอให้ศาลพิจารณวินิจฉัยว่ารัฐสภาจะบรรจุวาระแก้ไขเพิ่มติมที่มีบทบัญญัติให้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยยังไม่มีผลประชามติ ได้หรือไม่ และหากว่ารัฐสภาสามารถบรรจุร่างได้แล้ว การจัดให้ประชาชนออกเสียงประชามติเสียก่อนว่าสมควรให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ จะสามารถกระทำในขั้นตอนที่รัฐสภาลงมติให้ความเห็นชอบรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมในวาระสาม โดยสอบถามไปพร้อมกับกรณีมาตรา256(8)ได้หรือไม่ หากไม่ได้จะต้องสอบถามในขั้นตอนใด

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า รู้สึกหนักใจที่จะต้องส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพราะทุกครั้งที่รัฐสภาส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะเกี่ยวกับการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ คือการยื่นดาบให้แก่ตุลาการ 9 คน ที่ถูกแต่งตั้งโดยกลุ่มคนที่ส่วนใหญ่ไม่อยากจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และให้กลุ่มคนดังกล่าวชี้ขาดรัฐสภาว่าทำได้ ทำไม่ได้ ซึ่งส่วนใหญ่ที่ผ่านมามักไม่เป็นคุณต่อกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่ที่หนักใจกว่านั้น ถ้าเกิดรัฐสภาเดินตามรัฐธรรมนูญอย่างเคร่งครัดจะไม่ต้องใช้เวลาหรือกำลังพิจารณาญัตตินี้ตั้งแต่ต้น

นายพริษฐ์ อภิปรายต่อว่า หากสงสัยในคำวินิจฉันศาลรัฐธรรมนูญที่ 4/2564 เราสามารถไปดูคำวินิจฉัยส่วนตนของตุลาการได้ เพื่อประกอบการวินิจฉัยของประธานรัฐสภา เมื่อตนศึกษาคำวินิจฉัยส่วนตนแล้วจะเห็นชัดว่าตุลาการมีความเห็นอย่างไร หากจะยึดตามความเข้าใจและข้อมูลของตน มี 5 ตุลาการบอกว่าประธานรัฐสภาบรรจุเข้าเป็นระเบียบวาระได้ และมี2ตุลาการวินิจฉัยคล้ายคำวินิจฉัยกลาง อีก1ตุลาการชัดเจนว่าบรรจุเป็นระเบียบไม่ได้จนกว่าจะทำประชามติ และอีก 1 ตุลาการชัดเจนว่ารัฐสภาไม่มีอำนาจแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉะนั้นพออนุมานได้ว่าคำวินิจฉัยกลางเปรียบเสมือนการสรุปรวบยอดบอกกับเราว่าประธานรัฐสภาสามารถบรรจุร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมของพรรคเพื่อไทยเป็นระเบียบวาระได้ และเชื่อว่าถ้ารัฐสภามีมติให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญจริงๆ ตุลาการที่เคยวินิจฉัยก็จะวินิจฉัยกลับมาเหมือนเดิม

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ปชน. ค้านนัดโหวตแก้ รธน. วาระ 3 หลังปีใหม่ หวั่นกระทบไทม์ไลน์ทำประชามติ

"ณัฐวุติ" ย้ำโหวตแก้ รธน. วาระ 3 ต้องเสร็จก่อนปีใหม่ หวั่นกระทบไทม์ไลน์ทำประชามติ เสี่ยงผิด MOA เชื่อไม่มีเงื่อนไขให้ สว. ควํ่าวาระ 3 เผย หลังโหวตเสร็จ ปชน. เตรียมชง 2 คำถามประชามติให้สภาฯ เคาะทันที

'วันนอร์' นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้รัฐธรรมนูญ วาระ 2

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ได้มีคำสั่งให้นัดประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ ระหว่างวันที่ 10 ธ.ค. และ ครั้งที่2 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ วันที่ 11 ธ.ค. เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่..) พ.ศ... ในวาระสอง ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.)

ขนลุก! กูรูใหญ่ สาปแช่งพรรคเพื่อไทย หลังข่าวซูเอี๋ยพรรคส้ม

ความคิดที่เพื่อไทยและประชาชนจะจับมือกันตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งแล้วเลื่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ คือท่าดีทีล้มละลายทางการเมือง

มติเอกฉันท์! ศาลรธน. ไม่รับคำร้อง 'เรืองไกร' กล่าวหารัฐสภาแก้ รธน.ล้มล้างการปกครอง

‘ศาลรธน.’ มีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้อง ‘เรืองไกร’ ปมกล่าวหาประธานรัฐสภา–สมาชิกรัฐสภาใช้สิทธิล้มล้างการปกครอง ชี้การประชุมร่วมแก้รัฐธรรมนูญยังไม่ปรากฏพฤติการณ์เข้าข่ายมาตรา 49 แม้อัยการสูงสุดไม่ดำเนินการแต่ผู้ร้องมีสิทธิเข้าศาลโดยตรงก็ตาม