'แรมโบ้' ฟาด 'หญิงหน่อย' เลิกตีกินการเมืองขายฝันแจก 3 พันผู้สูงอายุ

‘แรมโบ้’ ฉะ ‘หญิงหน่อย’ หยุดขายฝันตีกินการเมือง ประชาชนรู้ไส้รู้พุงหมดแล้ว ข้องใจบำนาญผู้สูงอายุเดือนละ 3 พัน เอางบจากไหน เย้ยดีจริงทำไมยุคเป็นรัฐบาลถึงไม่ทำ

7 ม.ค. 2565 – นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่าลงพื้นที่หาเตียงให้ชาวบ้านที่ติดโควิดวุ่นทั้งวัน เลยไม่เห็นข่าวที่นายกรัฐมนตรีสั่งให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ตรวจสอบนโยบายบำนาญประชาชนเดือนละ 3,000 บาท ของพรรคไทยสร้างไทย ว่าผิดกฎหมายไหม ทำได้จริงไหม พร้อมยืนยันว่าทำได้จริง ถ้าไทยสร้างไทยเป็นรัฐบาล และคุณหญิงสุดารัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี ทำได้แน่นอน และทันที โดยบอกให้นายกประยุทธ์ ลาออกแล้วจะทำให้ดู

“ในที่สุดคุณหญิงสุดารัตน์ได้แสดงธาตุแท้ออกมาจนได้ว่าอยากเป็นรัฐบาล อยากเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนที่สองรองจากนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซะจนเต็มประดา จนลืมไปว่าจุดจบของอดีตนายกฯหญิงคนแรกเป็นอย่างไร คุณหญิงสุดารัตน์ คงลืมไปว่าตัวเองเคยร่วมสังฆกรรมกับรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร ที่หนีคดี จนระหกระเหินในต่างประเทศนานนับปี ร้องขออยากกลับแผ่นดินเกิดในประเทศไทยใจจะขาดมาแล้ว และคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเป็นผู้ร่วมคนหนึ่งที่ทำให้ประชาชนคนไทยและประเทศไทยล่มจมมาแล้ว มาครั้งนี้มาแก้ตัวใหม่ สร้างพรรคใหม่ของตัวเองหลังจากไม่ลงรอยกับนายเก่า แต่ก็ยังยึดนโยบายประชานิยมของนายเก่ามาเรียกคะแนนสงสารจากประชาชนอยู่ดี” นายเสกสกล ระบุ

ทั้งนี้ หากคุณหญิงสุดารัตน์ คิดว่าการให้เงินบำนาญผู้สูงอายุดีจริง ทำไมในช่วงที่เป็นรัฐบาลจึงไม่คิดทำ ถ้าคิดว่าทำได้จริง ไม่มีปัญหาหรือไม่เป็นภาระต่องบประมาณประเทศ อย่าสักแต่ว่าได้พูดๆ ไปโดยไม่คิดถึงผลเสียที่มันจะตามมา  การให้เงินมากๆ กับประชาชนหรือผู้สูงอายุอย่างที่คุณหญิงสุดารัตน์โฆษณาหาเสียง ใครๆ ก็ต้องการทั้งนั้น แต่ในฐานะที่เป็นนักการเมืองมานาน เป็นอดีตรัฐมนตรีมาแล้ว ก็น่าจะรู้ดีว่ามันจะมีผลกระทบอะไรตามมาหรือไม่  หรือคุณหญิงจะใช้วิธีกู้เงินมาอีก มาสร้างภาระให้ประชาชนที่เกิดมาก็ต้องเป็นหนี้เหมือนในสมัยรัฐบาลทักษิณ ที่กู้เงินมาทำนโยบายประชานิยม จนทำให้รัฐบาลที่รับช่วงมาต้องมาตามล้างตามเช็ดให้

นายเสกสกล กล่าวว่า ปัจจุบันผู้สูงอายุ ได้รับเงินเบี้ยคนชราตามเกณฑ์อัตราอายุ คือ 60 ปี 600  อายุ 70 ปี 700 อายุ 80 ปี 800 และอายุ 90 ปี ได้รับ 1,000 ตลอดไป  และในช่วงสถานการณ์โควิดแพร่ระบาด รัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้มีการจ่ายเงินเพื่อเป็นการเยียวยาประชาชน ไม่ใช่เพียงแค่ผู้อายุเท่านั้น เพราะนายกฯเห็นถึงความยากลำบากและความเดือดร้อนของประชาชน เป็นการพูดจริง ทำจริง ช่วยจริงและประชาชนก็ชื่นชอบ คุณหญิงสุดารัตน์ อย่ามาใช้วิธีพูดหาเสียงไปก่อนเพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อ ทำได้หรือไม่ค่อยมาดูกันอีกที อย่างนี้ไม่ได้ หยุดหลอกลวงประชาชนได้แล้ว เป็นถึงอดีตรัฐมนตรี ต้องมีความรับผิดชอบต่อคำพูดด้วย งบประมาณจะเอามาจากตรงไหน วิธีไหน บอกประชาชนไปด้วย  อย่ามาตีกินเพื่อแค่ผ่านการเสียงของพรรคตัวเองไปเท่านั้นมันไม่ได้ ประชาชนเขารู้ไส้รู้พุงหมดแล้ว เลิกใช้วิธีเอาดีใส่ตัว เอาชั่วให้คนอื่นได้แล้ว ไม่เช่นนั้นมันจะเข้าตัวจนหมดอนาคตทางการเมืองครั้งสุดท้ายของคุณหญิงจนสิ้นอนาคตทางการเมืองได้

“ผมยืนยันว่า สิ่งที่นายกฯ ห่วงใยในเรื่องการการหาเสียงพรรคการเมืองทุกพรรค ต้องเอานโยบายนำไปปฎิบัติหรือนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์จริงต่อประชาชนได้และสามารถทำได้จริง ไม่ใช่นโยบายขายฝัน ที่เที่ยวไปหลอกต้มตุ๋นพี่น้องประชาชนให้หลงเชื่อ เพียงเพื่อหวังคะแนนเสียงโดยไม่ดูตาม้าตาเรือว่าสามารถทำได้หรือไม่ ดังตัวอย่างเช่น คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เคยพาผู้สมัคร สส.พรรคเพื่อไทยหาเสียงใน กทม. ประกาศจะให้บริการค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย แต่สุดท้าย ประชาชนเลือกมาเป็นรัฐบาลเป็นนายกฯแล้วก็ทำไม่ได้ การหาเสียงแบบนี้ผิดกฎหมาย ต้มตุ๋นประชาชนหรือไม่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง ควรจะมีบทลงโทษพรรคการเมืองเช่นนี้อย่างเด็ดขาดถึงขั้นยุบพรรคไปเลยหรือไม่” นายเสกสกล ระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'สุวัจน์' หวนคืนชื่อเดิม 'พรรคชาติพัฒนา' แต่งตั้ง สส.แจ้ เป็นรองหัวหน้าพรรค

พรรคชาติพัฒนากล้า เปิดการประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2567 นำโดยนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า , นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ,

'ชัยเกษม' ออกตัวไม่เกี่ยวปรับครม. ผู้บริหารพรรคจะใช้ให้ทำอะไรก็ได้ สบายๆ

นายชัยเกษม นิติสิริ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย เดินทางมาไหว้ศาลพระภูมิเจ้าที่ ศาลตา ศาลยาย โดยผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า การเดินทางมาไหว้วันนี้เกี่ยวอะไรกับการปรับ ครม.หรือไม่

ไทยในสายตาต่างชาติ: สมัยรัชกาลที่เจ็ด (ตอนที่ 20: การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 ในสายตาผู้ช่วยทูตทหารฝรั่งเศส)

(ต่อจากตอนที่แล้ว) ในรายงานลงวันที่ 24 กันยายน 1932 (พ.ศ. 2475) ของพันโท อองรี รูซ์ ผู้ช่วยทูตทหารบกและทหารเรือประจำสยาม ประจำสถานอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำสยาม มีความว่า

'เผ่าภูมิ' ปัดนายกฯ ส่งสัญญาณนั่งเก้าอี้รัฐมนตรี

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวได้เดินทางมารับเอกสารกรอกแบบฟอร์มตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรี เรียบร้อยแล้ว ว่า ตนไม่ให้คอมเมนท์ ยืนยันว่าขณะ

อดีตบิ๊กข่าวกรองเตือนสติ! อย่าหลับตาพูดลืมตาดูสถานการณ์โลกด้วย

นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ