“อนาคตไกล” ชี้ กระบวนการยุบพรรคก้าวไกล ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยในข้อกฎหมายอย่างมี เหตุผล ยอมรับกันได้ทุกฝ่าย มีผลกระทบ 44 ส.ส.ฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง ส่งผลตัดสิทธิการเมืองตลอดชีพ
8 ส.ค.2567 - เวลา 11.30 น. ที่พรรคอนาคตไกล นายภวัต เชี่ยวชาญเรือ กล่าวว่า การที่องค์คณะศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล ตัดสิทธิ กก.บห.พรรคก้าวไกล เป็นระยะเวลา 10 ปี และห้ามจดทะเบียนตั้งพรรคการเมืองใหม่และเป็น กก.บห.พรรคการเมืองอื่นภายใน 10 ปี หากพิจารณาข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง 9 ข้อ ที่ฝ่ายกฎหมายหรือแกนนำพรรคก้าวไกลแถลงปิดคดีนอกศาล ไม่ใช่ข้อเท็จจริงใหม่ คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 3/2567 ผูกพันทุกองค์กร และสู้คดีแพ้ทุกประเด็น เพราะคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ที่ 3/2567 เสร็จเด็ดขาดและผูกพันทุกองค์ตามมาตรา 211 วรรคท้าย ไม่ใช่เป็นการยื่นคำร้องซ้ำหรือฟ้องซ้ำหรือดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำ ตามที่นักการเมืองบางพรรคหรือนักกฎหมายบางคนพูดตามหน้าสื่อ โดยขาดความรู้ทางกฎหมายมหาชนและไม่รู้จริง องค์คณะศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์วินิจฉัยตรงกันข้ามหมดทุกประเด็น แถมตอกหน้าท่านทูตและอุปทูต 18 ประเทศที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีต สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ชักศึกเข้าบ้าน ให้รู้จักกาละเทศะทางการฑูต มารยาทในทางการทูต โดยให้ยึดกฎหมายภายในของแต่ละประเทศ พูดง่ายๆ ห้ามแทรกแซงกิจการในประเทศไทย เป็นคำวินิจฉัยที่องค์คณะศาลรัฐธรรมนูญได้เก็บรายละเอียดทุกประเด็นมาวินิจฉัยอุดช่องว่างทั้งหมด รวมถึงประเด็น กกต.ให้พรรคก้าวไกลชี้แจง และให้ความเป็นธรรมแก่พรรคก้าวไกลแล้ว ก่อนยื่นคำร้องต่อศาล แต่ข้อเท็จจริงตรงนี้ ประชาชนไม่เคยทราบมาก่อนเพราะมีการปิดบังข้อเท็จจริง พอศาลได้อ่านคำวินิจฉัย ทำให้ทราบว่า ทั้ง กกต.และศาลรัฐธรรมนูญให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย เปิดโอกาสให้พรรคก้าวไกลผู้ถูกร้อง ในการต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที่แล้ว ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยในปัญหาข้อกฎหมายและปัญหาข้อเท็จจริง อย่างมีเหตุผล สอดคล้องต้องกัน ที่ประชาชนทั้งประเทศได้ติดตามรับฟังคำวินิจฉัยขององค์คณะของศาลรัฐธรรมนูญ ยอมรับกันได้ทุกฝ่าย องค์คณะศาล ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ พฤติการณ์ต่างๆก่อนหน้าศาลวินิจฉัย ล้วนเป็นการกดดันศาล ไม่ทำให้ศาลหวั่นไหวในการทำหน้าที่ได้ เป็นตัวอย่างแก่พรรคการเมืองอื่นทุกพรรคการเมือง ห้ามรณรงค์หาเสียงแก้ไข ปอ.มาตรา 112
เมื่อถามว่า การยุบพรรคในต่างประเทศเคยเกิดขึ้น หรือไม่ และในประเทศไทยเกิดขึ้นกี่ครั้ง นายภวัต เชี่ยวชาญเรือ โฆษกพรรคอนาคตไกล กล่าวว่า ในต่างประเทศเกิดขึ้นหลายประเทศ โดยเฉพาะเยอรมัน ที่ท่านทูตหรืออุปทูตได้หารือกับนายพิธาฯ ในปัญหาวิกฤติประชาธิปไตย โดยประเทศเยอรมันเอง เคยเกิดกรณีศาลรัฐธรรมนูญเยอรมันมีการยุบพรรคการเมือง ถึง 3 ครั้ง ได้แก่ ครั้งที่ 1 ในปี 2466 ยุบพรรคแรงงานชาตินิยมเยอรมนี (พรรคนาซีของฮิตเลอร์) ครั้งที่ 2 .ในปี 2495 ยุบพรรคสังคมนิยม หรือพรรค SRP ครั้งที่ 3 ในปี 2499 ยุบพรรคคอมมิวนิสต์ หรือพรรค KPD แนวคิดก้าวกร้าวและเป็นปฏิปักษ์ต่อหลักการพื้นฐานของหลักประชาธิปไตย ส่วนที่เกิดในครั้งที่ 4 ในปี 2544 ศาลได้วินิจฉัยยกคำร้องในการยุบพรรคชาติประชาธิปไตย ส่วนในประเทศไทย เกิดขึ้นหลายครั้งหลายหน คำสั่งยุบพรรคการเมือง ของ กกต.ต่อพรรคก้าวไกล เป็นพรรคการเมืองลำดับที่ 111 หากพิจารณาถึงศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรค โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญ 2560 ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล เป็นพรรคการเมืองใน ครั้งที่ 3 องค์คณะศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยประโยคทองว่า “พฤติกรรมล้มล้างการปกครองฯร้ายแรงยิ่งกว่าปฎิปักษ์การปกครอง”
ส่วนเมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล ส่งผลให้ทิศทางการเมืองไทยเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ นายภวัต เชี่ยวชาญเรือ โฆษกพรรคอนาคตไกล กล่าวว่า ผลการยุบพรรคไม่กระทบต่อฝ่ายรัฐบาล แต่อาจได้เสียงจากงูเห่าเพิ่ม เพราะพรรคก้าวไกลที่ศาลยุบพรรคเป็นฝ่ายค้าน ทำให้ เสียงฝ่ายค้านลดลง ทำให้เสถียรภาพของรัฐบาลแข็งแกร่งขึ้น ในอภิปรายไม่วางใจแบบลงมติ ก็จบข่าว เว้นแต่คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 14 สิงหาคม 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เกิดอุบัติเหตุการเมือง ทำให้ตกเก้าอี้ จะทำให้คณะรัฐมนตรีสิ้นสภาพ นำไปสู้การตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ผลการวินิจฉัยของศาล การสิ้นสภาพสมาชิกภาพความเป็น สส.ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101(10) ยังไม่สิ้นสมาชิกภาพความเป็น สส.ไป จำนวน 142 คน สภาพบังคับรัฐธรรมนูญต้องย้ายไปสังกัดพรรคการเมืองใหม่ภายใน 60 วันนับแต่วันที่ศาลวินิจฉัยยุบพรรค มิฉะนั้น จะสิ้นสภาพความเป็น ส.ส. ส่วนสมการทางการเมือง ส.ส.ที่เคยสังกัดพรรคการเมืองที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรค เป็นฝ่ายค้าน และถูกตัดสิทธิเพียงเฉพาะ กก.บห.ที่เกี่ยวข้อง สมการทางการเมืองยังไม่มีผลเปลี่ยนแปลงการเมืองไทย ให้พี่น้องประชาชน สังเกตจากรังผึ้งแตก ส.ส.รายใด งูเห่าคนไหน ยังไม่รีบย้ายไปสังกัดพรรคการเมืองที่กลุ่มนี้ จะย้ายไปสังกัด พยายามเล่นตัว สร้างราคา ลูกเล่น ถ่วงเวลาอ้างยังมีเวลาอีกยังไม่ครบ 60 วัน งูเห่าพวกนี้ เพื่อโก่งราคาค่าตัวให้สูงขึ้น ก่อนตัดสินใจในนาที่สุดท้าย ย้ายไปสมสู่รังงูเห่าใหม่ ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดพิษณุโลก กกต.จะต้องจัดการเลือกตั้งซ่อมใหม่ เพราะ รองอ๋อง รองประธานรัฐสภา สิ้นสภาพความเป็น สส.เขตเลือกตั้ง
ส่วนที่ถามว่า ผลสะเทือนยุบพรรคก้าวไกล สึนามิทางการเมือง คลื่นสงบหรือยัง นายภวัต กล่าวว่า ยังมีประเด็นหลงเหลืออยู่ ในการลงชื่อเสนอญัตติในการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ของ 44 สส.ของพรรคก้าวไกลในขณะนั้น ให้การเมืองร้อนระอุได้อีก แม้ย้ายไปอยู่รังใหม่ แม้ลงชื่อเสนอแก้กฎหมาย เป็นการทำทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ ก็ตาม แต่การแก้ไขมาตรา 112 ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าเป็นการล้มล้างการปกครอง ผู้ร้องควรคัดคำวินิจฉัยให้ศาลรัฐธรรมนูญส่งให้แก่ ปปช.จะทำให้หลักฐานมีน้ำหนักยิ่งขึ้น ในขณะนี้ คดีอยู่ในระหว่างพิจารณาของ ปปช. ส่งผลคาบเกี่ยวกับกรณีฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญมาตรา 235 วรรคหนึ่ง (1) หาก ปปช.ชี้มูล และสำนวนให้อัยการสูงสุดหรือยื่นฟ้องเอง ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หากศาลชี้ว่า มีความผิด ศาลย่อมเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้งใด ตามมาตรา 235 วรรคสี่ ตัดสิทธิในการลงสมัครฯและดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆตลอดชีพ ได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศาลรธน. ไม่รับคำร้อง 'วัฒนา' คดีบ้านเอื้ออาทรคุก 99 ปี
ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้องของ “วัฒนา เมืองสุข” ที่ยื่นขอให้วินิจฉัยความชอบด้วยรัฐธรรมนูญข
ศาลรัฐธรรมนูญ นัดไต่สวน 'ภูมิธรรม-ทวี' แทรกแซงคดีฮั้ว สว.
ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้องในคดีที่ ประธานวุฒิสภาส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
'นิกร' หวัง 29 มี.ค.2569 เลือกตั้งพร้อมทำประชามติ
'นิกร' เชื่อลงล็อก 29 มี.ค.69 เลือกตั้งพร้อมทำประชามติ ประหยัดงบ 5 พันล้าน รับ วาระสามล่อแหลมเหตุใช้เสียง 1 ใน 3 มอง สส.-สว. ต้องคุยทำความเข้าใจ
ประธาน กมธ.แก้รัฐธรรมนูญคาด 2 ปีได้เห็นการเปลี่ยนผ่านประเทศ!
ปธ.กมธ.แก้รัฐธรรมนูญยันหลักการปรับกลไกทำรัฐธรรมนูญ เพื่อปลดล็อกสู่ รธน.ฉบับใหม่ คาด 2 ปีเศษจะได้เห็นการเปลี่ยนผ่านประเทศ
ศาลรธน.ยังไม่นัดวินิจฉัยสถานะ 'ภูมิธรรม-ทวี' ปมแทรกแซงคดีฮั้วสว. รอความเห็นพยาน
ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการพิจารณาคำร้องที่ประธานวุฒิสภาส่งคำร้องของสมาชิกวุฒิสภาที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 42
มติเอกฉันท์! ศาลรธน. ไม่รับคำร้อง 'เรืองไกร' กล่าวหารัฐสภาแก้ รธน.ล้มล้างการปกครอง
‘ศาลรธน.’ มีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้อง ‘เรืองไกร’ ปมกล่าวหาประธานรัฐสภา–สมาชิกรัฐสภาใช้สิทธิล้มล้างการปกครอง ชี้การประชุมร่วมแก้รัฐธรรมนูญยังไม่ปรากฏพฤติการณ์เข้าข่ายมาตรา 49 แม้อัยการสูงสุดไม่ดำเนินการแต่ผู้ร้องมีสิทธิเข้าศาลโดยตรงก็ตาม

