“อนาคตไกล” ชี้สมการสูตรคณิตศาสตร์การเมืองไทย การจับขั้วรัฐบาล อยู่ที่การต่อรองตำแหน่งทางการเมือง ตัวชี้วัด จัดตั้งรัฐบาลผสม พรรคการเมืองใด รวบรวมเสียงเกิน 250 เสียงขึ้นไป จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31
15 ส.ค.2567 - ที่พรรคอนาคตไกล นายภูษิต มิ่งขวัญ รักษาการเลขาธิการพรรคอนาคตไกล กล่าวถึงคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมาก 5 ต่อ 4 วินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญเนื่องจากไม่มีความซื่อสัตย์สุจริต เป็นที่ประจักษ์ กรณีแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมตรี ว่าจากคำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธณรมนูญ จะเป็นบรรทัดฐานในการแต่งตั้งรัฐมนตรี ที่จะต้องตรวจสอบคุณสมบัติให้ครบถ้วนก่อนเสนอทูลเกล้าฯ ไม่ใช่ โยนภาระให้ข้าราชการประจำสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ต้องตรวจสอบ ที่เรียกว่ารำไม่ดี โทษปี่โทษกลอง
นายภูษิต กล่าวต่อว่าแต่ในมิติทางการเมือง นายเศรษฐา ทวีสิน ได้ทำตามคำสั่งของผู้บารมีเหนือพรรคการเมืองคนหนึ่ง จึงตกเก้าอี้ ยังไม่เข็ด วานนี้แกนนำรัฐบาลเดิมรวมตัวกันที่บ้านจันทร์ส่องหล้าแล้วมีมติที่ปล่อยออกมาทางสื่อจะเสนอชื่อ นายเกษม นิติสิริ จากพรรคเพื่อไทยเป็นนายรัฐมนตรีคนต่อไป สามารถกระทำได้หรือไม่ เพราะมีสถานะเป็นนักโทษที่พักโทษ และไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย แทรกแซงการทำหน้าที่ กก.บห.พรรคเพื่อไทย ได้หรือไม่
รักษาการเลขาธิการพรรคอนาคตไกล กล่าวว่าคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญล่าสุด หักปากกาเซียน เป็นตัวอย่างของนายรัฐมนตรีคนต่อไป หากแต่งตั้งบุคคลใดให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นคณะรัฐมนตรี ต้องพิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติอย่างเคร่งครัดก่อนเสนอทูลเกล้าฯ ตามหลักความรับผิดชอบร่วมของฝ่ายบริหาร ไม่ใช่ว่ากระทำตามอำเภอใจ จนขาดความซื่อสัตย์สุจริตเชิงประจักษ์
จะอ้างว่า ประกอบแต่ธุรกิจ ไม่ได้เป็นนักการเมืองมาก่อน ไม่มีความรู้ทางด้านกฎหมาย แล้วที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และคณะที่ปรึกษานายรัฐมนตรี จะตั้งไว้เพื่ออะไร แม้กระทั่งตั้ง ศ.ดร.วิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายรัฐมนตรี ยังเอาไม่อยู่ เพราะศาลรัฐธรรมนูญย่อมตัดสินตามกฎหมาย ไม่ใช่การรัฐประหารเงียบเหมือนนายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า ที่อารมณ์ค้างตั้งแต่ยุบพรรคก้าวไกล รู้แต่ทฤษฎี แต่ในทางปฏิบัติ ไม่มีประสบการณ์ทางกฎหมาย ไม่เคยว่าความ ไม่เคยทำหน้าที่ในการสืบพยานในศาล อ่ามเกมกฎหมายไม่ออก สอนแต่ทฤษฎีในมหาวิทยาลัย ประเทศชาติไม่ต้องการนักการเมืองมือสมัครเล่นในการบริหารราชการแผ่นดินเพราะประเทศชาติเป็นหนูทดลอง ไม่ได้ ประเทศพัง เสียหาย
.
นายภูษิต กล่าวด้วยว่า ส่วนใครจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปนั้น สมการสูตรคณิตศาสตร์การเมืองไทย การจับขั้วรัฐบาล อยู่ที่การต่อรองตำแหน่งทางการเมือง ตัวชี้วัด จัดตั้งรัฐบาลผสม พรรคการเมืองใด รวบรวมเสียงเกิน 250 เสียงขึ้นไป จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 โดยในวันที่ 16 ส.ค. สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร มีหนังสือด่วน ถึง ส.ส.สมาชิกรัฐสภา นัดประชุมวาระพิเศษเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 159 ที่อาคารรัฐสภา
"หากพิจารณาถึงตัวเลขพรรครัฐบาลเดิม มีจำนวน 314 เสียง ส่วนฝ่ายค้านเดิม มีจำนวน 178 เสียง อยู่ที่ว่า ขั้วรัฐบาลเดิม จะตกลงตำแหน่งกันได้หรือไม่เพราะตัวแปร คือ การจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรี กระจายไปยังพรรคร่วมรัฐบาล หากตกลงกันไม่ได้ แม้พรรคเพื่อไทยจะเคาะรายชื่อตามมติพรรคจะเป็นนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หรือนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ตามตะกร้าที่เสนอไว้ตามมาตรา 88 รัฐธรรมนูญก็ตาม แต่อยู่ที่แกนนำรัฐบาลผสม ใครจะรวบรวมเสียงได้มากที่สุด
จุดตัด คือ 251 เสียง แต่ สส.ในสภาล่าสุดมีเพียง 492 คน กึ่งหนึ่ง 246 คน หากพิจารณาจากสมการทางการเมือง เสียงในสภา 2 พรรคใหญ่ ลำดับ 1 กับลำดับ 2 หากเพื่อไทยไม่รังเกียจ มาตรา 112 สามารถจับขั้วกันได้ พรรคเพื่อไทย 141 เสียง พรรคประชาชน 143 เสียง รวมเป็น 284 เสียง สามารถตั้งรัฐบาลขั้วใหม่ได้ ส่งผลให้พรรคการเมืองที่ร่วมรัฐบาลเดิม ตกเป็นฝ่ายค้านทั้งหมด ตัวแปรอยู่ที่ตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ แบ่งกันลงตัวหรือไม่ ว่าพรรคเพื่อไทยจะใช้เกมการเมืองแบบไหน เพราะหากไปจับพรรคประชาชน ประชาชนจะเกิดคำถามทันที ไหนว่า ไม่เอามาตรา 112
ส่วนตัวเลือกนายกรัฐมนตรี หากพิจารณารายชื่อ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ยังไม่มีบารมีเพียงพอ ปัญหาความร้อนแรงทางการเมืองจะตกแก่ผู้เป็นบิดา คือ นายทักษิณ ชินวัตร ทันที แม้เป็นสิทธิที่ได้รับแต่งตั้งตามรัฐธรรมนูญ หากเลือกนายชัยเกษม นิติสิริ ตามมติบ้านจันทร์ส่องหล้า จะเจอปัญหากรณี การสั่งไม่ฟ้องนายพิชิต ชื่นบาน อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ขณะดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุด ขณะนั้น การให้สินบนเจ้าหน้าที่ศาลฎีกาฯ ถุงขนม 2 ล้าน ทำให้นายเศรษฐา ทวีสิน ตกเก้าอี้ไปแล้ว เป็นความเสี่ยงของพรรคเพื่อไทย
หากพิจารณาถึงแคนดิเดตนายรัฐมนตรีจากพรรคอื่น เชื่อว่า จะถูกนำมาหยิบยกอำนาจต่อรอง ว่า จะเสนอใครเป็นนายกรัฐมนตรี ดังจะเห็นว่า ในการตั้งนายกรัฐมนตรี อยู่ที่การรวบรวมเสียงในสภาว่า ให้ใครมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หากเกมการเมืองใช้สูตรตั้งรัฐบาลเดิม อาจมีงูเห่าสส.พรรคประชาชน โหวตสวนสนับสนุนให้ก็ได้ เพราะเป็นเอกสิทธิ์ของ สส.โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี โดยที่ สมาชิกวุฒิสภาชุดใหม่ ไม่มีสิทธิ์โหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ได้อีกตามบทเฉพาะกาล มาตรา 272"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อนุทิน' สวน พท. ใครทำงานห่วย ยุครัฐบาลนิด-อิ๊งค์ ติดโพลอันดับ 2
'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'
มติเอกฉันท์! ศาลรธน. ไม่รับคำร้อง 'เรืองไกร' กล่าวหารัฐสภาแก้ รธน.ล้มล้างการปกครอง
‘ศาลรธน.’ มีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้อง ‘เรืองไกร’ ปมกล่าวหาประธานรัฐสภา–สมาชิกรัฐสภาใช้สิทธิล้มล้างการปกครอง ชี้การประชุมร่วมแก้รัฐธรรมนูญยังไม่ปรากฏพฤติการณ์เข้าข่ายมาตรา 49 แม้อัยการสูงสุดไม่ดำเนินการแต่ผู้ร้องมีสิทธิเข้าศาลโดยตรงก็ตาม
คนเสื้อแดงกินแห้ว! ศาล รธน. ไม่รับวินิจฉัย ปม MOA 'ภูมิใจไทย-ปชน.'
ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้องในคดีที่นายนิยม นพรัตน์ (ผู้ร้อง) ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 กล่าวอ้างว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ผู้ถูกร้องที่ 1) และนายณัฐพงษ์
ลุ้นกันยาวๆ 24 ธ.ค.ศาล รธน.นัดไต่สวนพยานคดี 'ภูมิธรรม-ทวี' จุ้นคดีฮั้ว สว.
ศาล รธน.นัดไต่สวนพยานคดีสถานะ 'ภูมิธรรม-ทวี' จุ้นคดีฮั้วเลือก สว. 24ธ.ค.นี้ พร้อมไม่อนุญาต 'สราวุธ' ถอนตัวจากการพิจารณาคดี
ตีตก 2 คำร้อง! ศาล รธน. ไม่วินิจฉัย MOA ตั้งรัฐบาลอนุทิน เหตุไม่มีหลักฐานชัดล้มล้างการปกครอง
ศาล รธน.ตีตกปม MOA "ณัฐพงษ์-อนุทิน" ให้ สส.ปชน-ภท. โหวตนายกฯ เหตุไม่มีหลักฐานชี้ชัดใช้สิทธิล้มล้างปกครอง เป็นการประกาศเจตจำนงร่วมทางการเมือง
ป.ป.ช.รับเรื่องไต่สวน 'เศรษฐา' โยกงบใช้หนี้ 3.5 หมื่นล้านโปะแจกเงินหมื่น
นายสุรพงษ์ อินทรถาวร รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะรักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึง


