เลขาฯเพื่อไทย เผยต้องระมัดระวังมากขึ้น จัดตั้ง ครม.ชุดใหม่ รับอาจจะช้าแต่ชัวร์

“สรวงศ์” เผยฟัง “ภูมิธรรม” ปรับโควตา รมต. เป็นหลัก บอกไม่ทราบรัฐมนตรีเพื่อไทยขยับ ให้รอโปรดเกล้าฯ นายกฯก่อน ชี้ตั้ง ครม. ช้าแต่ชัวร์ ต้องระมัดระวัง

17 ส.ค.2567 - นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายหลังหลังจากที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้รับการโหวตในสภาให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ถึง โควตารัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ที่ออกมาระบุว่าอาจจะมีการพูดคุยกันใหม่ ว่า ขอให้ฟังจากนายภูมิธรรมเป็นหลัก เพราะ เรื่องของฝ่ายบริหารตนไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวตอนนี้ ซึ่งคาดว่าน.ส.แพทองธาร คงจะต้องแจ้งมาอีกครั้งว่าจะเป็นอย่างไร

เมื่อถามว่าสำหรับรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรคเพื่อไทยมีการปรับเปลี่ยนหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบเพราะในขณะนี้ต้องรอให้มีการโปรดเกล้าฯก่อน ให้ น.ส. แพทองธาร เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอย่างสมบูรณ์ก่อน แล้วค่อยกลับมาพูดถึงฝ่ายบริหาร

ถามอีกว่ามีหลายคนมองว่าการที่ น.ส.แพทองธารมาจากตระกูลชินวัตร แล้วในอนาคตอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุทางการเมืองอย่างที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยจะมีวิธีการ อย่างไรหากมีเหตุเกิดขึ้นจริง นายสรวงศ์ กล่าวว่า ตนมองว่าอย่าให้เกิดขึ้นดีกว่า ซึ่งส่วนตัวมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ทำให้หลายฝ่ายต้องระมัดระวัง และจากที่ตนได้พูดคุยมาไม่ใช่เพียงฝ่ายการเมืองเท่านั้น แม้กระทั่งฝ่ายข้าราชการประจำก็รู้สึกว่าต้องมีความระมัดระวังมากขึ้น เพราะเมื่อการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญออกมาค่อนข้างที่จะกว้าง เพราะเมื่อตีความคุณสมบัติและมีคำว่าจริยธรรมเข้ามา จึงมองว่าการที่จะจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นมาในตอนนี้หลายฝ่ายจะต้องวิเคราะห์ให้ดี และอาจจะต้องมีการส่งตีความรายบุคคลเพื่อป้องกัน และอาจจะต้องส่งให้กฤษฎีกาช่วยตรวจสอบและมีการออกเป็นลายลักษณ์อักษร เพราะจากกรณีของนายเศรษฐา ที่แต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน ให้เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นเพียงการสอบถามไปโดยไม่มีลายลักษณ์อักษร จึงต้องมีความระมัดระวังเพิ่มมากขึ้น

เมื่อถามต่อว่าหากต้องมีการตีความคุณสมบัติเป็นรายบุคคล ก็จะทำให้การจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่มีความล่าช้าเกิดขึ้น นายสรวงศ์ กล่าวว่า หากการจัดตั้งล่าช้าแต่ชัวร์ก็จะไม่เกิดปัญหา ดีกว่ารีบตั้งแล้วมีปัญหาตามหลังเพราะเมื่อมีปัญหาแล้วการบริหารประเทศก็จะชะงัก อย่างเช่นกรณีเมื่อวาน (16 ส.ค.) ภายหลังจากมีการเลือกนายกรัฐมนตรีแล้วเสร็จ ทางฝ่ายสภาก็มีการแก้ไขเอกสารหลายรอบ ซึ่งฝ่ายราชการเองก็ต้องระวังเช่นกันเพราะเป็นผู้เสนอชื่อเนื่องจากมีบทเรียนในครั้งที่ผ่านมาและถึงแม้ว่าผู้เสนอชื่อจะเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรแต่ในส่วนของข้าราชการ ก็กลัวว่าหากเกิดอะไรขึ้นมาก็จะได้รับความเดือดร้อนตามไปด้วยดังนั้นทุกคนจึงต้องระมัดระวัง และมองว่าช้าแต่ชัวร์จะดีกว่าเพราะไม่ว่าอย่างไรขณะนี้ประเทศไทยก็มีรัฐบาลรักษาการอยู่


ถามย้ำว่า น.ส. แพทองธาร ได้มีการพูดคุยกับ สส. อย่างไรภายหลังจากได้รับการโหวต ให้เป็นนายกรัฐมนตรี นายสรวงศ์ กล่าวว่า น.ส.แพทองธาร ได้ขอบคุณ สส. ที่โหวตเลือกตนให้เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งโดยส่วนตัวของ น.ส.แพทองธารเป็นคนทำงานเป็นทีมอยู่แล้ว และมั่นใจว่ามีทีมที่ดี ไม่ว่าจะเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรค คนรุ่นเดียวกัน หรือรุ่นน้องในพรรค น.ส.แพทองธาร ก็มองว่าทุกคนคือทีมเดียวกัน ซึ่งก็ต้องมองไปข้างหน้าว่าการบริหารประเทศจะเป็นอย่างไร และต้องพูดตามตรงว่าคนภายนอกที่มองเข้ามากับคนที่ปฏิบัติอยู่หน้างานจริงก็มีมุมที่มองต่างกัน ซึ่งตนในฐานะเลขาธิการพรรค ขอให้ประชาชนให้โอกาส น.ส.แพทองธารในการทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อภิสิทธิ์-อดีตนายกรัฐมนตรี มอง 'จุดเสี่ยง' รัฐบาลเพื่อไทย ระเบิดการเมือง วางไว้เองหลายลูก

แม้ขณะนี้จะไม่ได้มีตำแหน่งทางการเมืองใดๆ แต่สำหรับ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์" การแสดงทัศนะหรือความคิดเห็นทางด้านการเมือง

‘หนู’ ลั่นฟังแค่ ‘อิ๊งค์’ ยันร่วมรัฐบาลเป็นไฟต์บังคับ ‘ทักษิณ’ พูดไม่นำพา

"อนุทิน" ลั่น! รับสัญญาณจากนายกฯ อิ๊งค์เท่านั้น ยันที่ "ทักษิณ" พูดไม่ได้หมายถึงรัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทย "ท่านทักษิณพูดถึงพรรคที่ไม่เข้าร่วมประชุม ผมก็ไม่นำพาไปฟังอะไรมาก"

'อนุทิน' ยันไม่ใส่ใจคำพูด 'ทักษิณ' โชว์ห้าวตะเพิดพรรคร่วมฯ ขอฟังแค่นายกฯอิ๊งค์

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวผ่านรายการข่าวเที่ยง ทางไทยพีบีเอส ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวในการสัมมนาพรรคเพื่อ

ไม่ต้องปิดบังอีกต่อไป! สื่ออาวุโส ชี้อำนาจเด็ดขาดนำมาซึ่งการฉ้อฉลแบบเบ็ดเสร็จ

นายเทพชัย หย่อง สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าไม่ต้องอ้อมค้อม ไปต้องปิดบังอีกต่อไป ใครใหญ่ที่สุดตอน