'อนาคตไกล' เตือนนายกฯอิ๊งค์ ระวังซ้ำรอย 'เศรษฐา' แนะต้องรอบคอบแต่งตั้งรมต.

“อนาคตไกล” ยกคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญบรรทัดฐานคดีเศรษฐา แนะ นายกรัฐมนตรี “แพทองธาร ชินวัตร” ตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรีรายบุคคลให้ละเอียดก่อนเสนอทูลเกล้าคณะรัฐมนตรี

20 ส.ค.2567 - ที่พรรคอนาคตไกล นายภูษิต มิ่งขวัญ รักษาการเลขาธิการพรรคอนาคตไกล หยิบยกคดีนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยเมื่อวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา ในสาระสำคัญเรื่องของความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และคำวินิจฉัยมีผลผูกพันต่อรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล องค์กรอิสระ และหน่วยงานของรัฐ มาตรา 211 วรรคสี่ เตือนนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ว่าเมื่อได้รับโปรดเกล้าฯดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้ว และต้องมีรัฐมนตรีในการบริหารราชการแผ่นดินประจำกระทรวงต่างๆ นางสาวแพทองธาร ต้องตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรี ก่อนเสนอทูลเกล้าให้ละเอียดรอบคอบ

โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญได้กำหนดลักษณะคุณสมบัติลักษณะไว้ตามมาตรา 160 ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตให้เป็นประจักษ์ ไม่มีพฤติการณ์อันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงและต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 98 ของรัฐธรรมนูญ

"หากยังเกรงใจพรรคร่วม ที่เสนอรายชื่อมาที่กำหนดไว้ให้ส่งรายชื่อไม่เกินวันนี้ กรณีของคุณเศรษฐา อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นตัวอย่างที่ต้องนำไปถอดบทเรียนในการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีต้องไม่มีคุณสมบัติต้องห้ามเชิงประจักษ์"

รักษาการเลขาธิการพรรคอนาคตไกล กล่าวต่อว่าในส่วนของรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีในรัฐบาลนางสาวแพทองธาร1 นั้น เท่าที่ติดตามข่าวจากสื่อยังไม่แน่ว่าเป็นบุคคลใดบ้าง เพราะในทางการเมืองอาจสับขาหลอก รายชื่อที่นำเสนอทางสื่ออาจหลุดโผ ต้องดูของจริงในราชกิจจานุเบกษาว่า คณะรัฐมนตรีมีบุคคลใดบ้าง

อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาจากรายชื่อเดิมในรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี น่าเป็นห่วงหลายคน เพราะแม้ไม่มีคุณสมบัติต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 แต่จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เป็นการตีความตามเจตนารมณ์ร่างรัฐธรรม ฉบับ 2560 เป็นบรรทัดฐาน มีระดับความกว้างกว่าในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตและจริยธรรม

ทั้งนี้เมื่อพิจารณา จากเนื้อแท้กฎหมายมหาชน มีความแตกต่างกว่าการตีความตามกฎหมายเอกชน เพราะกฎหมายเอกชน ตีตวามตามบทบัญญัติลายลักษณ์อักษรในการพิจารณาคดีของศาลยุติธรรม แคบกว่า ศาลการเมืองหรือศาลรัฐธรรมนูญที่ตีความกว้างออกไป ดังนั้น การยึดหลักบรรทัดฐานของศาลรัฐธรรมนูญ แม้จะเป็นมติ 5 ต่อ 4 แต่ในมาตรา 211 วรรคสอง บัญญัติว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้ถือเสียงข้างมากเว้นแต่รัฐธรรมนูญจะบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น

ดังนั้น การแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีในชุดรัฐบาลนาวสาวแพทองธาร ชินวัตร ต้องตรวจสอบประวัติอย่างละเอียด เป็นไปตามหลักความรับผิดชอบร่วมในการทำหน้าที่ฝ่ายบริหาร ในระบบรัฐสภา กรณีมีประวัติเคยกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด แม้กระทำผิดนอกราชอาณาจักร แม้ไม่ขาดคุณสมบัติมาตรา 98 เพราะกระทำผิดนอกราชอาณาจักร แต่หากพิจารณาความซื่อสัตย์สุจริตไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดและจริยธรรม ค่อนข้างมีปัญหาว่า ระดับจริยธรรมค่อนข้างรุนแรงเพราะไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ขัดต่อมาตรา 235 วรรคหนึ่ง(1) ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่ อย่างไร

นายภูษิต กล่าวด้วยว่า แม้อดีตรัฐมนตรีบางคน ส่งคนไปสอบแทนในรั้วพ่อขุน จะอ้าง พรบ.ล้างมลทินแล้ว แต่อย่าลืมว่า แนวคำพิพากษาศาลฎีกา วินิจฉัยไว้เป็นบรรทัดฐานว่า การล้างมลทิน ไม่ได้เป็นการล้างการกระทำ หมายความว่า การกระทำยังมีอยู่ อันแสดงให้เห็นความซื่อสัตย์สุจริตให้เป็นประจักษ์หรือไม่

"ดังนั้นการเร่งรีบในการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี จะเกิดปัญหาในภายภาคหน้าอย่างแน่นอน ตนเห็นว่า ควรใช้ความระมัดระวังเยี่ยงวิญญูชนทั่วไปที่ต้องตรวจสอบคุณสมบัติให้ละเอียด เกิดความสง่างาม การแต่งตั้งไม่ควรเกิดจากใบสั่งของบุคคลใด สุ่มเสี่ยงต่อนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี อาจมีเสียวสันหลังตกเก้าอี้นายกรัฐมนตรีได้ จะยกข้ออ้างแบบนายเศรษฐาว่ามีประสบการณ์ทำแต่ธุรกิจขายบ้าน ขาดประสบการณ์ในการบริหารราชการแผ่นดิน หรืออ้างว่า ไม่รู้กฎหมายไม่ได้" นายภูษิต กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อภิปรายไม่ไว้วางใจสาวไส้‘นายใหญ่’ หรือทิ้งทวนเวทีสุดท้าย‘25สส.ปชน.’

ภายหลังเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้มีการรวบรวมญัตติของ พรรคร่วมฝ่ายค้าน ว่าแต่ละพรรคจะอภิปรายรัฐมนตรีคนไหน และมีข้อกล่าวหาเป็นอย่างไร เพื่อนำมาเรียบเรียงเขียนเป็นญัตติเดียว

'วิสุทธิ์' เชื่อฝ่ายค้านขออภิปรายไม่ไว้วางใจ 5 วัน ไม่มีเรื่องใหม่ ก็เอามาจากกระทู้ถามสด

นายวิสุทธิ์ ไชณยรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีฝ่ายค้านจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยตั้งประเด็นไว้ 20 ประเด็นว่า ไม่น่าจะมีปัญหา

ความเป็นมาของรัฐธรรมนูญฉบับที่ 4 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2490 (ตอนที่ 48)

ก่อนจะเกิดรัฐธรรมนูญฉบับที่ 4 หรือรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2490 เรามีรัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 คือฉบับ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 และฉบับที่ 3 คือฉบับ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2489 ผู้เขียนได้ชี้ให้เห็นแล้วว่า รัฐธรรมนูญฉบับที่ 2