
‘พรรคประชาชน’ รับพ่ายเลือกตั้ง ‘นายกอบจ.ราชบุรี’ อ้างเวลาหาเสียงน้อย ปัดศึกกระดูกคนละเบอร์ มั่นใจสนามหน้าชนะแน่นอน เตรียมเปิดตัวผู้สมัครเพิ่ม พ.ย.นี้
2 ก.ย. 2567 – ที่โรงแรม ณ เวลา อ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี ช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. ที่ผ่านมา แกนนำพรรคประชาชน ประกอบด้วย นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน, นายศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรคประชาชน และ นายชัยรัตน์ ศักดิ์อิสระพงศ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ราชบุรี ในนามพรรคประชาชน ร่วมแถลงข่าวหลังทราบผลการเลือกตั้งนายกอบจ.ราชบุรี อย่างไม่เป็นทางการ
โดยนายชัยรัตน์ ได้กล่าวขอบคุณชาวราชบุรีทุกคนที่ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งในวันนี้ และที่ให้ความไว้วางใจแก่ตน คะแนนวันนี้เมื่อเทียบกับการเลือกตั้งนายก อบจ.ในนามคณะก้าวหน้า เมื่อปี 2563 ถือว่าเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจาก 7 หมื่นกว่าคะแนน แสดงว่าการทำงานของเราในพื้นที่หลายปีที่ผ่านมาออกดอกผล ประชาชนเปิดใจให้พวกเรามากขึ้น และแสดงให้เห็นว่าผู้ที่เห็นด้วยกับนโยบายและความคิดของเรามีมากขึ้น แม้วันนี้อาจจะยังไม่ชนะการเลือกตั้งนายก อบจ. แต่จากวันพรุ่งนี้ไปตนและพรรคประชาชนจะยังคงมุ่งมั่นทำงานในพื้นที่ ทำนโยบายพัฒนา จ.ราชบุรีให้ดีกว่าเดิมต่อไป และจะทำให้ประชาชนเปิดใจให้โอกาสเราในอนาคตให้มากขึ้น จนประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งในราชบุรีต่อไป
ส่วนที่นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา ผู้สมัครนายก อบจ. หมายเลข 2 มีคดีอยู่ในชั้นของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลคดีซากหมู คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องพิจารณาเรื่องผลการเลือกตั้ง จากนั้นจึงเป็นหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทย ต้องมีคำตอบและแนวทางที่ชัดเจน เพื่อไม่ให้ส่งผลการทำงาน อบจ.และเป็นเหมือนการเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี
ด้านนายณัฐพงษ์ ระบุว่า ขอขอบคุณประชาชนทุกคนที่ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งในวันนี้ รวมถึงชาวราชบุรีที่ทำงานอยู่ห่างไกลก็เดินทางกลับมาใช้สิทธิกันเป็นจำนวนมาก นี่คือความสำเร็จอย่างหนึ่งจากการที่ทุกพรรคการเมืองรวมทั้งพรรคประชาชนได้รณรงค์อย่างแข็งขัน ส่วนผลการเลือกตั้งเมื่อเทียบกับสมัยที่ลงในนามคณะก้าวหน้าได้คะแนนเพิ่มมาเท่าตัว สะท้อนให้เห็น ว่าการรณรงค์อย่างแข็งขัน และการทำงานในพื้นที่อย่างเข้มข้น ทำให้ประชาชนให้ความสำคัญกับการเมืองท้องถิ่นมากขึ้น และมอบความไว้วางใจให้เรามากขึ้น
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า พรรคประชาชนจะยังคงเดินหน้าทำงานในการผลักดันนโยบายต่างๆ ผ่านการเมืองในระดับประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการทำหน้าที่ในสภาฯ ที่กำลังจะมีการอภิปรายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 วาระ 2 – 3 การแถลงนโยบายต่อรัฐสภาของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ รวมถึงการเลือกตั้งซ่อม สส.พิษณุโลก เขต 1 ในวันที่ 15 ก.ย.นี้ และอีกหลายภารกิจที่เราขอทำหน้าที่อย่างเข้มข้นต่อไป
ส่วนที่หลายคนมองว่าศึกเลือกตั้งนายก อบจ. นั้นเหมือนศึกกระดูกคนละเบอร์ คงไม่เกี่ยวกัน เพราะทุกสนามการเลือกตั้งพ่อแม่พี่น้องประชาชนตัดสินใจจากนโยบาย เชื่อมั่นว่าทุกนโยบายเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ผลเลือกตั้งมีหลายปัจจัยซึ่งเสียงของประชาชนสำคัญสุด ดังนั้นสิ่งสำคัญของทุกพรรคการเมือง รวมถึงพรรคประชาชนคือ การออกแบบระบบเลือกตั้งให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิมากที่สุด เพื่อได้ตัวแทนและนโยบายที่สะท้อนความต้องการของพี่น้องประชาชน นอกจากหาเสียงลงพื้นที่ให้หนักมากขึ้น พรรคประชาชนยังอยู่ในระหว่างการศึกษา แก้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น พ.ศ.2562 ซึ่งทุกพรรคจะได้ประโยชน์ร่วมกัน
ขณะที่ศรายุทธิ์ กล่าวว่า สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคประชาชนได้พยายามทำอย่างเต็มที่แล้ว ตั้งแต่รับทราบการลาออกของอดีตนายก อบจ. ได้ตัดสินใจส่งผู้สมัครลงในนามพรรคประชาชนก่อนการเลือกตั้ง 45 วัน คะแนนที่ได้มาจึงน่าพึงพอใจแล้ว แม้จะยังไม่ประสบผลสำเร็จ
นายศรายุทธิ์ ยอมรับว่า สนามการเมืองระดับชาติกับท้องถิ่นมีความแตกต่างกัน แม้เนื้อหาสาระไม่ต่างกัน ในสนามการเมืองระดับชาติความหวังของประชาชนเป็นปัจจัยสำคัญ และประชาชนสามารถมีส่วนร่วมได้อย่างเต็มที่ ขณะที่การเมืองท้องถิ่นต้องสร้างนโยบายที่ตอบโจทย์ประชาชนให้เชื่อมั่นให้ได้ แต่เนื่องจากเวลาที่จำกัดจึงทำให้ยังไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนไว้วางใจได้ ต้องยอมรับว่าการเปลี่ยนใจประชาชนให้มั่นใจและเชื่อมั่นต้องอาศัยเวลา
นายศรายุทธิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.ในพื้นที่อื่นๆ พรรคประชาชนมีการเตรียมทีมผู้สมัครมาตั้งแต่สมัยพรรคก้าวไกล โดยมี 5 จังหวัดที่ได้ประกาศเปิดตัวไปแล้ว และมีอีก 10 – 15 จังหวัดที่ยังอยู่ในกระบวนการ หลังจากนี้ไปในจังหวัดที่เหลือ พรรคประชาชนจะยังคงมุ่งมั่นเตรียมความพร้อม ทั้งการทำนโยบายให้ประชาชนยอมรับ และการทำให้ทีมงานมีความเข้มแข็งมากขึ้นเพื่อความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งในสนามต่อไป โดยคาดว่าในเดือน พ.ย.นี้ จะมีการเปิดตัวนายก อบจ.ที่จะส่งลงสมัครในนามพรรคประชาชนอย่างเป็นทางการต่อไป โดยมั่นใจว่ารอบนี้จะมีนายก อบจ. ที่ส่งลงในนามพรรคประชาชนที่ชนะแน่นอน ส่วนจะเป็นจังหวัดใดนั้น ขอให้พี่น้องประชาชนรอติดตามกันต่อไปอย่างใกล้ชิด.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รัฐบาลปึ้กพ่วงงูเห่า โหวต‘อิ๊งค์’ท่วมท้น/ปิดฉากซักฟอกถลก2พ่อลูกดีลปีศาจ
ดีลแลกประเทศวันสุดท้ายร้อนฉ่า! รังสิมนต์สับ 2 ไอ้โม่งทำให้เกิดดีลปีศาจชั้น 14 ร
‘อิ๊งค์’สะกดอารมณ์ฝ่าซักฟอก2วัน รอลุ้นคะแนนโหวต-งูเห่าสมทบ!
ผ่านศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 151 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ใช้เวลา 2 วัน 24-25 มีนาคม ก่อนลงมติวันนี้ 26 มีนาคม 2568 ซึ่งลีลาของ “นายกฯ อิ๊งค์” ในการแจงข้อซักฟอกถือว่าสามารถสะกดอารมณ์ได้ดี ไม่ปล่อยหมัดเด็ดตรงๆ ใส่ฝ่ายค้าน แต่ใช้ความนิ่งตอบเจ็บๆ ในบางช่วงเช่นกัน
สภาเดือดพลั่ก! สส.ปชน. เปิดโปงปฏิบัติการไอโอกองทัพ พาดพิงสถาบัน แห่ประท้วงวุ่น
ระหว่างที่นายชยพล สท้อนดี สส.กทม.พรรคประชาชน กำลังอภิปรายไปได้ประมาณ 15 นาที นายพิเชษฐ์เชื้อ เมืองพาน ซึ่งทำหน้าที่เป็นประธานในขณะนั้น ได้กล่าวตักเตือนว่า การนำเสนอสไลด์ในลักษณะตัดแปะ
'สิทธิพล' ซัด 'แพทองธาร' เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ปล่อยต่างชาติแย่งงานคนไทย
นายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายนายกฯกำลังปล่อยให้ผู้ประกอบการต่างชาติทำลายเศรษฐกิจไทยไม่ว่าจะเป็น การทำลายงานคนไทยทั้งที่หลายอาชีพสงวนไว้เพื่อคนไทยเท่านั้น ทำลายอุตสาหกรรมตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ
สับ 'เพื่อไทย' ไม่ได้เก่งเศรษฐกิจอย่างที่คุยโม้ ความสำเร็จในอดีตแค่โชคช่วย สมัยลุงตู่ยังดีกว่านี้
นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปราย โดยกล่าวขอบคุณ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ได้ทำให้คนไทยทั้งประเทศตาสว่าง ได้เรียนรู้ว่ารัฐบาลเพื่อไทยไม่ได้เก่งกาจด้านเศรษฐกิจ ความสำเร็จในอดีตได้มาเพราะโชคช่วย
'ปกรณ์วุฒิ' ยันจบศึกซักฟอกก่อนเที่ยงคืน ลงมติพรุ่งนี้ 10 โมงเช้า
นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี