'พริษฐ์' หวั่นรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ใช้ไม่ทันเลือกตั้งครั้งหน้า!

'พริษฐ์' ห่วง รธน.ฉบับใหม่ คลอดไม่ทันก่อนเลือกตั้งครั้งหน้า เผย ยื่นร่างแก้ รธน. ทบทวนเงื่อนไขยุบพรรค-นิยามมาตรฐานทางจริยธรรม เลิกให้ศาล รธน.ผูกขาดการตีความ เปลี่ยนเป็นระบบแสดงความรับผิดชอบ

18 ก.ย.2567 - ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงการยื่นร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2560 ของพรรค ปชน.ว่า เป็นการเดินคู่ขนานเร่งรัดกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ให้มีความชอบธรรมทางประชาธิปไตยโดยเร็ว ด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ในประเด็นที่มีความสำคัญจำเป็นเร่งด่วน ซึ่งพรรค ปชน.ยื่นร่างแก้ไขประเด็นการลบล้างผลพวงจากรัฐประหาร ยกเลิกยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ยกเลิกมาตรามาตรา 279 ที่เกี่ยวกับประกาศและคำสั่ง คสช. รวมถึงเพิ่มหมวดการป้องกันรัฐประหารไปแล้ว คาดว่าจะพิจารณาในวันที่ 25 ก.ย.นี้

นายพริษฐ์ กล่าวต่อว่า ส่วนร่างแก้ไขเพิ่มเติมที่กำลังดำเนินการ คือการแก้อำนาจของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ โดยมี 2 ประเด็น ได้แก่ 1.ทบทวนแก้ไขอำนาจการยุบพรรค ซึ่งจะต้องมีการยื่นร่างแก้ไข พ.ร.ป.พรรคการเมือง เพื่อให้สถาบันการเมืองยึดโยงกับประชาชน รวมถึงเงื่อนไขการยุบพรรค ซึ่งคาดว่าจะมีร่างฉบับกลางที่เซ็นร่วมกันในกรรมาธิการ (กมธ.) พัฒนาการเมืองฯ และอาจจะมีร่างของพรรคการเมืองอื่นยื่นประกบ

2.ทบทวนอำนาจเกี่ยวกับมาตรฐานทางจริยธรรม ที่ถูกเพิ่มเข้ามาในรัฐธรรมนูญ 2560 ซึ่งไม่ใช่ว่าเราไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องจริยธรรม แต่ต้องการให้ผู้ดำรงตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญ สามารถปฏิบัติงานด้วยมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างสุจริต อย่างไรก็ตาม การที่รัฐธรรมนูญ 2560 นำมาตราฐานทางจริยธรรมมาบรรจุในกฎหมาย อาจเกิดปัญหาได้ เพราะเป็นเรื่องที่มีความเป็นนามธรรมสูง แต่ละคนนิยามไม่เหมือนกัน แต่กลับให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้ผูกขาดนิยามมาตรฐานทางจริยธรรม และบังคับใช้กับทุกองค์กร ดังนั้นเมื่อมีการยื่นเรื่องให้วินิจฉัย องค์กรที่วินิจฉัยไต่สวนคือศาลรัฐธรรมนูญ เรามองว่าเรื่องนี้เป็นปัญหา จึงเสนอให้เปลี่ยนเป็นความรับผิดชอบทางการเมือง เช่น หากเกิดกรณีการแต่งตั้งบุคคลมาเป็นรัฐมนตรี จะต้องแสดงความรับผิดชอบต่อกระแสข้อวิจารณ์ทางสังคม ซึ่งท้ายที่สุดจะส่งผลไปถึงคูหาเลือกตั้ง

“สิ่งที่เรามองว่าเป็นปัญหาคือการนำเรื่องที่เป็นนามธรรมในจริยธรรมกำหนดไว้ในตัวบทกฎหมาย และให้อำนาจกับองค์กรกลุ่มเดียวในการนิยามมีบทบาทหลักในการตีความวินิจฉัย สิ่งที่ต้องการเห็นคือการปรับปรุงกำกับจริยธรรม อย่างแรกมองว่าเรื่องจริยธรรมสำหรับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองสิ่งสำคัญคือความรับผิดรับผิดชอบทางการเมือง“ นายพริษฐ์กล่าว

นายพริษฐ์ กล่าวว่า ส่วนร่างแก้ไขเพิ่มเติมในประเด็นเดียวกันของพรรคอื่น ต้องดูเนื้อหารายละเอียด แต่มองว่าหลายพรรคเห็นปัญหาคล้ายกัน แต่แนวทางการแก้ไขอาจแตกต่าง อย่างไรก็ตาม ทุกพรรคการเมืองที่ยื่นร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ จะไปจบที่การพิจารณาร่วมกันในที่ประชุมรัฐสภา หากภาพรวมเห็นปัญหาตรงกัน แต่แตกต่างกันในรายละเอียด มองว่าเป็นโอกาสดีที่จะรับประกัน และถกเถียงเพิ่มเติมในชั้น กมธ.

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองอย่างไรที่นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่ารัฐบาลชุดนี้ยังมีจุดยืนการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เหมือนเดิม คือไม่แก้หมวด 1 และหมวด 2 นายพริษฐ์ กล่าวว่า จุดยืนของพรรคประชาชนยังคงเหมือนเดิม ซึ่งเห็นต่างกับทางรัฐบาล ทั้งนี้การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ผ่านมา ยังไม่เคยเห็นการยกเว้นปรับปรุงเนื้อหาหมวด 1 เพียงแต่วางกรอบไว้ว่า การแก้ไขจะไม่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงระบบการปกครองหรือรูปแบบรัฐ อีกทั้งที่ผ่านมา ในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ก็มีการปรับปรุงหมวด 1 และหมวด 2 ซึ่งไม่ได้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการปกครองแต่อย่างใด

นายพริษฐ์ กล่าวต่อว่า ส่วนคำถามประชามติ พรรคประชาชนให้ความสำคัญ แม้รัฐบาลจะมีจุดยืนไม่ต้องการแก้ไขเนื้อหาในหมวด1 และหมวด 2 แต่คำถามประชามติควรถามในลักษณะที่เปิดกว้าง และไม่นำเงื่อนไขดังกล่าวมากำหนดไว้ในคำถาม หากรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยังคงยืนยันประเด็นคำถามเดิม ซึ่งเป็นการถามสองเรื่องในคำถามเดียวกัน กังวลว่าจะเกิดความไม่ชัดเจนกับประชาชนที่เห็นด้วยในบางส่วนของคำถาม ทำให้ส่งผลไปถึงการลงประชามติ ซึ่งพรรคประชาชนประเมินว่า โอกาสที่จะทำให้ประชามติผ่านความเห็นชอบลดน้อยลง

เมื่อถามว่า ต้องเจรจากับฝั่งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) หรือไม่ เพราะต้องพึ่งเสียงเห็นชอบ 1 ใน 3 นายพริษฐ์ กล่าวว่า หลังจากนี้คงต้องมีการพูดคุยกันทุกฝ่าย และมองว่าในวันที่ 25 ก.ย.นี้ จะเป็นครั้งแรกที่จะได้เห็นสภาชุดใหม่เข้ามามีส่วนการพิจารณารัฐธรรมนูญ ต้องดูท่าทีการอภิปรายและการแสดงความเห็น รวมถึงการลงมติ ว่ามีจุดยืนอย่างไร ทั้งนี้ ยังไม่มีการพูดคุยกันกับ สว. แต่คาดหวังว่าร่างแก้ไขเพิ่มเติมที่บรรจุระเบียบวาระไว้แล้ว ซึ่งมีเรื่องลบล้างผลพวงจากการทำรัฐประหาร ป้องกันการทำรัฐประหารในอนาคต รวมถึงลบล้างผลพวงคำสั่ง คสช. ทุกฝ่ายทางการเมืองจะมีจุดร่วมกัน เพื่อรักษาไว้ซึ่งระบอบประชาธิปไตย และไม่ต้องการให้เกิดรัฐประหารขึ้นอีกในอนาคต แม้จะเห็นต่างกันเชิงนโยบาย

เมื่อถามว่า ประเมินกรอบเวลาการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ในช่วงเวลา 3 ปีที่เหลืออยู่ของรัฐบาลอย่างไร นายพริษฐ์ กล่าวว่า กระบวนการทำฉบับใหม่อาศัยเวลา หากเดินตามรถแบบของรัฐบาล ที่ต้องทำประชามติ 3 ครั้ง และ 1 ปีที่ผ่านมายังไม่ได้เริ่มดำเนินการ ทำให้เวลาถูกบีบ และตัวแปรเยอะเกินกว่าจะฟันธงได้

“ยอมรับกังวลใจมีความเสี่ยงหากรัฐบาลไม่วางแผนอย่างรอบคอบ อาจจะไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่บังคับใช้ก่อนการเลือกตั้งครั้งต่อไปอย่างที่รัฐบาลเคยสัญญาไว้ ฝ่ายค้านไม่ได้นิ่งนอนใจรอชมอย่างเดียว และพยายาม ยื่นข้อเสนอและ เร่งรัด กระบวนการตรงนี้ให้รัฐบาลดำเนินการโดยเร็วที่สุด” นายพริษฐ์กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไม่พลาด! 'ศรีสุวรรณ' ร้อง ป.ป.ช.สอบนักการเมือง-นักธุรกิจถ่ายภาพร่วม 'เบน สมิธ'

'ศรีสุวรรณ' ร้อง ป.ป.ช.สอบนักการเมือง-นักธุรกิจถ่ายภาพร่วมกับเบน สมิธ เข้าข่ายผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่

ปชน.พร้อมงัดข้อ พท.ยัน ส.ส.ร.ต้องเลือกตั้ง 100%

'ปชน.' ย้ำจุดยืน ส.ส.ร. ต้องเลือกตั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ แม้ 'เพื่อไทย' เตรียมรื้อตั้งใหม่ ชี้ ข้อเสนอเคยถกกันแล้วใน กมธ. พร้อมขอความจริงใจทุกฝ่ายช่วยผลักดัน

'พริษฐ์' ชง 4 ข้อเสนอรัฐบาลแก้น้ำท่วมหาดใหญ่แนะ 'กต.' ประสานต่างชาติช่วย!

'ไอติม' ชง 4 ข้อเสนอรัฐบาลแก้น้ำท่วมหาดใหญ่ ชี้ต้องบูรณาการทุกหน่วยงาน-มีฐานข้อมูลกลาง ลั่นทุกวินาทีมีค่า บอกมาช่วยทุกคนวันนี้ไม่ได้แต่อาหาร-น้ำต้องถึงมือผู้ประสบภัย แนะ 'กต.' ประสานนานาชาติเข้าช่วย

'พรรคส้ม' โบ้ย 'อนุทิน' ยุบสภา 12 ธ.ค.ไม่เป็นผลดีต่อตัวเอง ซัดเหมือนผู้รับเหมาทิ้งงาน

'พริษฐ์' ชี้หาก 'อนุทิน' ยุบสภา 12 ธ.ค.ไม่เป็นผลดีต่อตัวเองแน่นอน เหตุประกาศเป็นแคนดิเดตนายกฯไปแล้ว ซัด เหมือนผู้รับเหมาทิ้งงาน-ปิดกิจการหนี้การตรวจสอบ เชื่อเจตนารมณ์ รธน.ระบุชัด ไม่อยากให้ยุบสภาหนีซักฟอก ปัดตอบผิด MOA หรือไม่

เปิดผลลงมติ ปชน.โหวตแพ้ 'เลือกผู้ร่างทางอ้อม' ดัน 'สูตร 20 หยิบ 1' ป้องกันการผูกขาด

'ไอติม' เปิดผลลงมติกมธ.แก้รธน. ปชน.โหวตแพ้เรื่องการยืนยันให้ประชาชน 'เลือกผู้ร่างทางอ้อม' แต่ผลักดันเรื่อง 'สูตร 20 หยิบ 1' เพื่อป้องกันการผูกขาดได้สำเร็จ เดินหน้า เรื่องคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ร่าง