'นิกร' หวัง 2 สภาเห็นพ้องหาข้อยุติแก้กม.ประชามติได้ทันเลือกนายกอบจ.

'นิกร' หวัง 2 สภาเห็นพ้องหาข้อยุติแก้กม.ประชามติได้ทันเลือกนายกอบจ. บอก หากไม่ทันก็ไม่มีพรรคไหนเสีย มีแต่ปชช.เสียโอกาส ชี้ ท่าที 'ภูมิใจไทย' แก้รธน.ไม่ใช่เรื่องด่วนแต่ไม่มีเหตุที่จะดึง

4 ต.ค.2567 - ที่รัฐสภา นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีหลายพรรคการเมืองมีแนวโน้มว่าจะถอยการแก้การแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ว่า หลายพรรคการเมืองเคยมีนโยบายที่บอกกับประชาชนว่าจะทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ รวมถึงรัฐบาลชุดนี้ก็มีนโยบายซึ่งมีผลผูกพัน อย่างไรก็ต้องทำ แต่ตอนนี้คือมีการแฉลบซึ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญควรมีน้ำหนักตามสมควร โดยตอนที่จัดทำกฎหมายประชามติมีข้อเสนอ ข้อสังเกต และข้อคิดเห็นมาจากกระทรวงมหาดไทยที่ลงนามโดยนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่ารัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายฉบับใหญ่ที่ผูกพันประชาชน ควรจะมีเกณฑ์ขั้นต่ำ โดยร่างกฏหมายของพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ที่มีการเสนอเข้ามานั้น เขาใช้เสียงชั้นครึ่งคือเขาต้องออกมาใช้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิ์ แต่ที่จะต้องได้เสียงสนับสนุนเกินกึ่งหนึ่งของผู้ที่ออกมาใช้สิทธิ์ ผู้มีสิทธิ์ก่อนนั้น เรามาขอเขาให้ลดระดับลง เขาก็ยอมลดระดับลงมาเหลือ 1 ใน 4 ถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ ซึ่งเราก็เอาตามเสียงข้างมากของคณะกรรมาธิการ (กมธ.)

เมื่อถามถึง กรณีที่วุฒิสภามีมติให้กลับไปใช้เสียงข้างมากสองชั้นในการทำประชามติ นายนิกร กล่าวว่า การพิจารณาของ กมธ.วุฒิสภา ก็มีการแฉลบมาเยอะในขณะที่มีการพิจารณาเป็นรายมาตรา ซึ่งการแก้ไขตามมาตรานั้นเป็นเหตุอ้างได้ในชั้นของวุฒิสภา จึงทำให้วุฒิสภาไหลไปทางนั้น แต่ถามว่าขณะนี้สิ้นหวังหรือยัง ก็ยัง เรายังมีโอกาสอยู่คือสามารถประเมินกันได้เลยว่าหากแก้มาในหลักการเช่นนี้ ต้องกลับมาสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรเพื่อนำมายืนยัน ซึ่งตนเชื่อว่าสภาผู้แทนราษฎรจะยืนยันว่าไม่เห็นด้วยกับวุฒิสภาแน่นอน เพราะเป็นหลักการใหญ่ ซึ่งหากไม่เห็นด้วยก็จะต้องมีการตั้ง กมธ.ร่วมกัน

นายนิกร กล่าวต่อว่า วันที่ 9 ต.ค. สภาผู้แทนราษฎรจะมีการพิจารณาเรื่องนี้เพื่อยืนยัน ซึ่งจะต้องยืนยันอยู่แล้วไม่เช่นนั้นหน้าตาของสภาผู้แทนราษฎรจะอยู่ตรงไหน ถูกบีบมาเช่นนี้ โดยจะต้องมีการเสนอชื่อคนที่จะไปเป็นกมธ. 10 คน หลังจากนั้นก็จะต้องกลับเข้าไปสู่การพิจารณาของวุฒิสภาในวันที่ 15 ต.ค. เพื่อเสนอชื่อบุคคลที่จะเป็น กมธ.อีก 10 คน ส่วนวันที่ 16-23 ต.ค. กมธ.ร่วมต้องตกลงกันให้ได้ โดยภายในวันที่ 28 ต.ค. วุฒิสภาจะต้องยืนยันและเห็นด้วยกับข้อคิดเห็นของกมธ.ร่วม ซึ่งหากทั้ง 2 สภาฯ เห็นด้วยวันที่ 30 ต.ค. ก็จะมีผลและวันที่ 31 ต.ค. สามารถส่งให้นายกรัฐมนตรีนำขึ้นทูลเกล้าฯ ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ในวันที่ 2 ก.พ. 68 ที่จะมีการเลือกนายก อบจ. ก็ยังทันอยู่ เพราะตอนแรกยังกังวล เนื่องจากเกรงว่าวุฒิสภาจะดึง

เมื่อถามว่า ยังมีหวังที่จะทำประชามติรอบแรกทันการเลือกนายก อบจ.ใช่หรือไม่ นายนิกร กล่าวว่า ตนกังวลว่าจะเลยเถิด เพราะอำนาจของสภาผู้แทนราษฎรสามารถที่จะข้ามวุฒิสภาไปได้เลย คือแค่ยืนยันแล้วรอ 6 เดือนที่จะกลับไปใช้เสียงข้างมาก 1 ชั้นในการทำประชามติ ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) สามารถกำหนดเองได้ ทั้งนี้ หากผ่านการพิจารณาของสภาฯ แล้วต้องกลับเข้ามาที่สภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ยกร่างแก้ไขมาตรา 256 ซึ่งหากถึงขั้นที่ข้ามวุฒิสภาไปแล้ว ก็จะเกิดปัญหาว่าเขาจะให้ 72 เสียงกับเราหรือไม่ และไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขรายมาตราหรือทั้งฉบับ เราก็จะไม่ได้รับเสียงจากสว.เลย ตนยังห่วงตรงนี้อยู่ และมองว่าเรายังควรมีวุฒิสภาอยู่ แต่ไม่ควรที่จะมีปัญหากันเดี๋ยวจะลุกลาม เพราะกฎหายทุกฉบับต้องผ่านระบบนี้อยู่

เมื่อถามว่า ท่าทีของพรรคภูมิใจไทย เขามองว่าไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนแล้ว นายนิกร กล่าวว่า ก็ไม่ใช่ แต่ก็ไม่มีเหตุที่จะมาดึงตรงนี้ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องเร่งด่วนแต่เป็นเรื่องของกฎหมายฉบับหนึ่งที่ควรจะเป็นอย่างไร และเราก็ไม่สามารถจะไปพูดได้ว่าภูมิใจไทยเกี่ยวข้องกับวุฒิสภาอย่างมีนัยยะสำคัญ เราอาจจะมองได้แต่พูดไม่ได้ เรื่องนี้อย่าไปคิดว่าใครจะได้อะไร แต่ให้คิดมุมกลับว่าใครจะเสียอะไร ซึ่งที่จะเสียแน่ๆ คือรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของประชาชน แล้วใครจะเป็นคนรับผิดชอบ

เมื่อถามว่า ตามไทม์ไลน์ที่วางไว้หวังว่าจะทันรัฐบาลชุดนี้หรือไม่ นายนิกร กล่าวว่า ”หวังเช่นนั้น และหวังมา 20 ปีแล้ว เราไม่ถอย หากมันจบ เราก็หวังต่อไปว่า 180 วัน ก็ 180 วัน เราจะสามารถดีกันได้ เราต้องมาร่วมกันทั้ง 2 สภา ต้องยอมถอยกัน ไม่ใช่ต่างคนต่างยืน แล้วก็ไม่ได้อะไรเลย ไม่มีพรรคไหนหรือสภาไหนเสีย มีแต่ประชาชนเสียโอกาส“

เมื่อถามถึงจุดยืนของพรรคชาติไทยพัฒนา นายนิกร กล่าวว่า เราอยากได้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับอยู่แล้ว เพียงแค่ไม่มีการแก้ไขมาตราเหมือนนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะหากแก้ไขรายมาตราเราจะไปคิดแทนประชาชน ซึ่งเราต้องการรัฐธรรมนูญที่มาจากประชาชน สามารถแก้ไขได้บ้างไม่ใช่แก้ไขไม่ได้เลย และเราต้องการสสร.เพื่อต้องการลดความขัดแย้ง เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้มาจากทหาร

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'จตุพร' แนะ แก้รธน.ต้องกินทีละคำอย่าเหลี่ยมคูกินทีละกะละมัง สุ่มเสี่ยงถูกคว่ำล้มครืนลง

'จตุพร' แนะการเมืองยึดมติ กมธ. ปมผ่านแก้ รธน.วาระสอง เตือนอย่าชิงเหลี่ยมคู ขอให้กินทีละคำอย่าโลภอยากกินทีละกะละมัง หวั่นถูกคว่ำจบเห่ ย้ำฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ลงมติ ม.152 ดีกว่าซักฟอก 151 ชี้เวลาเหมาะอภิปรายช่วงสัปดาห์สุดท้าย มกรา 69 พูดเสร็จได้ยุบสภาเลย

ชทพ.ไม่มีล่มสลาย! 'นิกร' ลั่นแค่ปรับยุทธศาสตร์ ดัน 'กัญจนา' คัมแบ็กหัวหน้าพรรค

‘นิกร’ ยัน ‘ชาติไทยพัฒนา’ ไม่ล่มสลาย แค่ปรับยุทธศาสตร์ ดัน ‘กัญจนา’ คัมแบ็กนั่งหัวหน้าพรรค ชี้ สส.ย้ายซบ ภท.ไทยเพื่อผลักดัน รธน.ประชาชน

'จุลพันธ์ ' ดักคอ 'อนุทิน' ห่วงอะไรถึงกลัวตรวจสอบ แย้มร่างญัตติไว้แล้วยื่นเมื่อไหร่เป็นอำนาพท.

'จุลพันธ์' ดักคอ 'อนุทิน' ห่วงอะไรถึงกลัวตรวจสอบ แย้ม ร่างญัตติไว้แล้วยื่นเมื่อไหร่เป็นอำนาจของ 'เพื่อไทย' ย้ำ 'พท.' มุ่งมั่นแก้ไขรัฐธรรมนูญตลอดไม่เหมือนบางพรรควอร์คเอาท์ มอง เป็นเรื่องดี 'ปชน.' คุยรัฐบาลเร่งเปิดสมัยประชุมวิสามัญ

'ภราดร' รับถ้ายุบสภา 12 ธ.ค. แก้รธน.แท้งแน่ ได้แค่วาระ 2 ยัน ไม่ได้ผิด MOA

'ภราดร' ย้ำ ยุบสภาเป็นอำนาจนายกฯ บอก ปล่อยซักฟอก รัฐบาลแจงดีแค่ไหน ก็โหวตแพ้อยู่ดี รับถ้ายุบสภา 12 ธ.ค. แก้รัฐธรรมนูญแท้งแน่ ได้แค่วาระ 2 ลั่น ไม่ได้ผิด MOA เหตุการเมืองเป็นแบบนี้ ปัด หยิบ รธน.เป็นตัวประกัน ไม่ทราบข่าว 'วราวุธ' ซบ ภท. แต่รู้สึกดีต่อกัน

'พรรคส้ม' โบ้ย 'อนุทิน' ยุบสภา 12 ธ.ค.ไม่เป็นผลดีต่อตัวเอง ซัดเหมือนผู้รับเหมาทิ้งงาน

'พริษฐ์' ชี้หาก 'อนุทิน' ยุบสภา 12 ธ.ค.ไม่เป็นผลดีต่อตัวเองแน่นอน เหตุประกาศเป็นแคนดิเดตนายกฯไปแล้ว ซัด เหมือนผู้รับเหมาทิ้งงาน-ปิดกิจการหนี้การตรวจสอบ เชื่อเจตนารมณ์ รธน.ระบุชัด ไม่อยากให้ยุบสภาหนีซักฟอก ปัดตอบผิด MOA หรือไม่

'จรัญ' เตือนแก้รธน.อย่าเซาะกร่อน หมวด 1-2 ต้องมี ทริปเปิลวิน ชนะไปพร้อมกัน

'จรัญ' มอง 'สูตร 20 หยิบ 1' เลือก กมธ.ร่าง รธน. ประนีประนอมทุกฝ่าย ไม่ขัดคำวินิจฉัยศาล รธน. เตือนอย่าเซาะกร่อน หมวด 1 หมวด 2 หวั่น มีปัญหากับคนไทย ชี้ การทำ รธน.ฉบับใหม่ ต้องมี ทริปเปิลวิน ทั้ง 'ข้างมาก-ข้างน้อย-ประชาชน' ชนะไปพร้อมกัน