'สนธิรัตน์' มั่นใจ พปชร. มีโอกาสคัมแบ็ก ตั้งเป้าแซงหน้า ปชป.-รทสช. เบียดภูมิใจไทย

20 ม.ค.2568 - นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานศูนย์นโยบายและวิชาการ พรรคพลังประชารัฐและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และพลังงาน กล่าวในการสัมมนา พรรคพลังประขารัฐ ภายใต้หัวข้อ “Now & Nex ว่า หากมองไปยังการเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองต่างๆ บนกระดานการเมืองเวลานี้ ตนมั่นใจว่าพรรคพลังประชารัฐ ยังมีโอกาสทางการเมืองอีกมาก โดยมีปัจจัยสำคัญจากการโต้กลับของพลังอนุรักษ์นิยมที่จะขยายตัวกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ จากการบริหารงานของรัฐบาลปัจจุบัน ซึ่งเอาแต่จะขับเคลื่อนนโยบายเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง เช่น กรณีคาสิโนเสรี พนันบนดิน และเมื่อดูโพลต่างๆ ก็พบว่า พลังประชารัฐ ยังคงเป็นพรรคที่อยู่บนกระดานการเมือง อยู่ในใจประชาชน ยังมี ส.ส. ในสภาไว้เป็นปากเป็นเสียง มีกลุ่มการเมือง มีบ้านใหญ่ต่างๆ รวมพลังกันอย่างเหนียวแน่น

”วันนี้ประชาชนยังหาพรรค ยังหาคนที่เหมาะสมสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้าไม่ได้ โพลบอกว่าเป็นจำนวนมากถึงยี่สิบเปอร์เซ็นต์ พรรคของเราต้องเป็นตัวแทนของคนกลุ่มนี้ให้ได้ สร้างนโยบายให้โดนใจคนกลุ่มนี้ให้ได้ เราต้องปลุกคลื่นพลังอนุรักษ์นิยมให้กลับมาเข้มแข็งอีกครั้งหนึ่ง ใช้จุดเด่นของบุคลากรพรรค คือเรื่องปากท้องเศรษฐกิจ มีมือเศรษฐกิจ ที่มีประสบการณ์ มาร่วมกันวิพากษ์วิจารณ์ให้ข้อเสนอแนะต่อการดำเนินนโยบายของรัฐบาลอย่างสม่ำเสมอ เดินหน้าตรวจสอบรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง ตนคิดว่า คำวิจารณ์ที่มีเหตุมีผล กลั่นกรองจากข้อมูลที่เข้มข้นของพวกเรา จะช่วยดึงดูดคนรุ่นใหม่ที่ไม่ชอบดราม่าทางการเมือง ให้มาสนใจพรรคมากขึ้น แต่การมีข้อมูลเหล่านั้น ก็จำเป็นต้องสร้างทีม ต้องลงแรง ต้องมีระบบการทำงานที่เข้มแข็ง ซึ่งท่านหัวหน้าพรรคได้ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี

นายสนธิรัตน์ ยังนำเสนอถึงยุทธศาสตร์การทำงานของพรรคในช่วงเวลาสองปีข้างหน้าที่รัฐบาลจะหมดวาระ และมีการเลือกตั้ง เราจำเป็นต้อง 1. สร้างและรวมพลังชุดความคิดใหม่ ใช้ความคิดอนุรักษ์นิยมทันสมัย เป็นชุดอุดมการณ์ที่จะใช้เพื่อชนะทางความคิด เพื่อชนะทางการเมือง 2.เตรียมการทำงานในพื้นที่เป้าหมาย สร้างความเข้มแข็งของพื้นที่ และขยายฐานผู้สนับสนุนของเราออกไปให้กว้าง 3.เร่งปรับภาพลักษณ์ สร้างแบรนด์ ทำให้พลังประชารัฐ​เป็นพรรคการเมืองแห่งความหวัง เป้าต่อไปคือชนะพรรคประชาธิปัตย์ และเบียดกับพรรคภูมิใจไทยให้ได้ ถ้าเราเบียดขึ้นไปได้ พรรคที่ตกลงมาคือ พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคพลังประชารัฐนั้นเป็นพรรคที่มีความหวังพร้อมจะได้ใจจากผู้ลงคะแนน และเป็นพรรคที่มีความพร้อมที่สุด

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ตนพูดได้เต็มปากว่า พรรคพลังประชารัฐ ยังมีโอกาส พรรคพลังประชารัฐกับตนมีความผูกพันกันมานาน เพราะตนเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งพรรคในปี 2561 วันนั้น เรานับหนึ่ง ถือว่ายากและท้าทาย แต่ในที่สุด เรารวบรวมกลุ่มการเมือง คนการเมือง มาเป็นพรรคการเมือง จนสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ วันนี้ ปี 2568 ผมรู้ว่ายากและท้าทายกว่ามาก แต่ตนเชื่อว่า ยังคงมีประชาชนที่นิยมพรรคพลังประชารัฐอยู่ทั่วประเทศ ถ้าเราหาเจอ แล้วเชื่อมต่อด้วยชุดความคิด ความเชื่อแบบเดียวกัน เราจะหาคะแนนเสียงจนเจอ นี่คือสิ่งที่ทำให้ผมเชื่อว่า พรรคพลังประชารัฐยังมีโอกาส

“Now วันนี้ ผมเชื่อว่า พรรคพลังประชารัฐยังมีโอกาส Next วันข้างหน้า โอกาสในการเป็นรัฐบาลจะอยู่ในมือเรา เพื่อให้เราได้ดูแลพี่น้องประชาชนอีกครั้งหนึ่ง”

พรรคพลังประชารัฐเคยสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในปี 2562 เราอาจจะเดินทางที่ขรุขระบ้าง สำเร็จและไม่สำเร็จบ้าง โดยได้ผ่านอุปสรรคมาจนถึงวันนี้ วันนี้ถือว่าเป็นวันที่พรรคได้บ่มเพาะตัวเองจนหาทางเดินที่แท้จริง ซึ่งหัวหน้าพรรค ยืนยันแล้วว่าไม่คิดจะทิ้งพรรคไปไหนและพร้อมจะนำพรรคกลับมาสู่พรรคที่ยิ่งใหญ่ พลังประชารัฐวันนี้จะไม่เหมือนเดิม และพร้อมที่จะเติบโต ได้พิสูจน์ความเป็นของแท้ ถ้าไม่ดีจริง พรรคต้องล่มสลายไปแล้ว ภายใน 2 ปีจะเตรียมความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งอย่างเป็นระบบให้ชัดเจน มั่นใจต่อให้เป็นรองก็ล้มแชมป์ได้ โดยในการเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคจะช่วงชิงชัยชนะกลับมา

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดร.ณัฏฐ์ ชี้เกมยื้อแก้รธน. 'ปชน.-พท.' ข้ามขั้นตอน เสี่ยงขัดคำวินิจฉัยศาลรธน. ส่งตีความก็ไม่ช่วย

“ดร.ณัฏฐ์” มือกฎหมายมหาชน เผย พลิกเกมยื้อแก้ไข รธน.ฉบับ ปชน.-พท. แม้บรรจุเป็นวาระแล้ว เป็นการลักไก่ ข้ามขั้นตอน ไม่ใช่ปัญหาความขัดแย้ง แม้ส่งศาลรธน. ย่อมไม่มีอำนาจรับไว้พิจารณา

ส่อล่มแต่ไก่โห่! ประธานสั่งพักการประชุม หลังโต้กันวุ่นปมนับองค์ประชุม

การประชุมร่วมรัฐสภา เกิดความตึงเครียด เมื่อสมาชิกฝ่ายค้านโต้แย้งการตัดสินใจของประธานรัฐสภาเกี่ยวกับการนับองค์ประชุม ขณะที่สมาชิกวุฒิสภาเสนอวิธีการขานชื่อ แต่ท้ายที่สุด ประธานรัฐสภาสั่งพักการประชุม 20 นาที เพื่อให้มีการหารือร่วมกัน

จบที่ศาล!! | ห้องข่าวไทยโพสต์

เป้าหมายเดินหน้าส่งศาล รธน. วางแนวทำประชามติ กำหนดชะตารัฐธรรมนูญไทย ห้องข่าวไทยโพสต์ : วันพฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

ระทึก! ศึกแก้รัฐธรรมนูญ ได้ไปต่อหรือจอดป้ายแค่วาระแรก?

เส้นทางแก้รัฐธรรมนูญเพื่อเปิดทางสู่การร่างฉบับใหม่ อาจจอดป้ายตั้งแต่วาระแรก เมื่อแรงเสียดทานจากหลายฝ่ายเริ่มปะทุหนัก