'พริษฐ์' นับถอยหลัง 7 วันรอดูความเป็นผู้นำของอุ๊งอิ๊งเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ!

06 ก.พ.2568 - นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “นายกรัฐมนตรี อยู่ตรงไหน ในการผลักดันรัฐธรรมนูญฉบับใหม่?” ระบุว่า เป้าหมายของการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ไม่ได้เป็นเพียงข้อเสนอของแกนนำพรรคฝ่ายค้านหรือนโยบายของพรรคการเมืองใด แต่เป็นนโยบายของ “รัฐบาล” ที่นายกรัฐมนตรีได้แถลงต่อรัฐสภาและสัญญากับประชาชนเมื่อวันที่ 12 ก.ย. 2567

แต่ตลอด 5 เดือนหลังจากนั้น เรากลับแทบไม่เห็นนายกรัฐมนตรีสื่อสารหรือดำเนินการใดๆเกี่ยวกับนโยบายดังกล่าวเลย (สิ่งเดียวที่จำได้ คือตอนที่นายกฯ ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 5 พ.ย. 2567 ว่า “ไม่ติด” ที่จะให้ผมและ กมธ. พัฒนาการเมืองฯ เข้าพบเพื่อหารือในประเด็นดังกล่าว แต่ท้ายสุดนายกฯ ก็มอบหมายให้รัฐมนตรี ชูศักดิ์ มาพบพวกเราแทน)

ผมเห็นว่าวันนี้ถึงเวลาแล้ว ที่นายกรัฐมนตรีจะต้องออกมาแสดงภาวะความเป็นผู้นำ ที่มีความจริงจังและจริงใจในการผลักดันนโยบายที่ตนเองสัญญาไว้กับประชาชน ด้วยเหตุผลอย่างน้อย 3 ประการ

1.ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะนำไปสู่การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ กำลังจะเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมรัฐสภาสัปดาห์หน้า (13-14 ก.พ.)

ถ้านายกฯจะให้เหตุผลว่าที่ผ่านมาไม่ได้สื่อสารหรือผลักดันเรื่องรัฐธรรมนูญเพราะติดภารกิจอื่นเฉพาะหน้า เหตุผลดังกล่าวคงใช้ไม่ได้แล้วสำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน ที่เหลือเวลาอีกแค่ 7 วันก่อนที่รัฐสภาจะพิจารณาวาระดังกล่าว

และหากนายกรัฐมนตรีไม่ประสบความสำเร็จในการผลักดันให้รัฐสภาเห็นชอบกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในรอบนี้ เราจะสามารถสรุปได้เลย 100% ว่านายกรัฐมนตรีได้ล้มเหลวแล้ว ในการทำตามเป้าหมายของการมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทันก่อนการเลือกตั้งครั้งถัดไป เพราะ:
- รัฐสภาจะไม่สามารถนำร่างดังกล่าวกลับมาพิจารณาได้อีกเป็นอย่างน้อย 5 เดือน
- ยิ่งถ้าทั้งหมดนำไปสู่การที่รัฐบาลตัดสินใจทำประชามติเพิ่มขึ้นมาอีก 1 ครั้ง เราจะต้องเสียงบประมาณเพิ่มเติมอีก 3,000 ล้านบาท และรัฐสภาต้องรอถึงปี 2569 ถึงจะนำร่างดังกล่าวกลับมาพิจารณาได้อีก

2.การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เป็นนโยบายของรัฐบาล ที่นายกรัฐมนตรีไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้

ความจริงแล้ว ในเมื่อการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เป็นโยบายของรัฐบาล เราไม่ควรคาดหวังเพียงแค่ให้นายกฯออกมาสื่อสารเรื่องดังกล่าว แต่เราควรคาดหวังให้ ครม. เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของตนเองเข้ามาที่รัฐสภาด้วยซ้ำ

- โดยปกติแล้ว หากนโยบายใดของรัฐบาลต้องอาศัยการแก้ไขกฎหมาย เราจะเห็น ครม. เสนอร่างกฎหมายดังกล่าวเข้ามาที่สภาฯโดยเสมอ (เช่น พ.ร.บ. ตั๋วร่วม ที่เพิ่งพิจารณาไป / พ.ร.บ. สถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) ที่กำลังจะถูกเสนอเข้ามา)

- แต่เป็นที่น่าตั้งคำถามว่าเหตุใด ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ถึงมีแต่ร่างของพรรคเพื่อไทย (หากนับเฉพาะจากซีกรัฐบาล) โดยไม่มีร่างของ ครม.

หากนายกรัฐมนตรีจะอ้างว่าเรื่องรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของสภาฯ (เหมือนกับที่ พล.อ.ประยุทธ์ เคยอ้าง) ก็ไม่ถูกต้องตามหลักการ เพราะประเทศเราไม่ได้อยู่ในระบบประธานาธิบดีที่ฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติแยกขาดจากกันและต่างมาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน แต่ประเทศเราอยู่ในระบบรัฐสภา ที่นายกรัฐมนตรีหรือฝ่ายบริหาร มาจากการเลือกของสภาฯ อยู่ได้ด้วยความไว้วางใจจากสภาฯ และต้องรับผิดชอบต่องานในสภาฯของ สส. รัฐบาล

3.หากเราเชื่อว่าโจทย์เรื่องการโน้มน้าววุฒิสภา เป็นโจทย์เดียวกันกับการโน้มน้าวพรรคร่วมรัฐบาล นายกรัฐมนตรีคือบุคคลที่จะต้องมีบทบาทนำ

ผมเข้าใจดีว่า ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จะผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาได้ ต้องอาศัยเสียง สว. อย่างน้อย 67 คน (1 ใน 3)

แม้ผมเข้าใจว่า สส. หลายคนกำลังพยายามโน้มน้าว สว. กันอยู่อย่างต่อเนื่อง (วันนี้ ผมและ สส. เพื่อไทย เพิ่งได้ไปร่วมกันชี้แจงเรื่องร่างรัฐธรรมนูญในที่ประชุม อนุ กมธ. ของวุฒิสภา) แต่หากเราเชื่อว่ารอยร้าวหรือความเห็นต่างระหว่าง สส. กับ สว. เป็นรอยร้าวเดียวกันกับรอยร้าวหรือความเห็นต่างระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล บุคคลที่จะต้องมี “บทบาท” และ “ความรับผิดชอบ” หลักในการมาปิดรอยร้าวดังกล่าวเพื่อบริหารและฝ่าฟันความเห็นต่างภายในพรรคร่วมรัฐบาล ก็หนีไม่พ้นนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าฝ่ายบริหารและรัฐบาลผสม ณ เวลานี้

ผมจะรอดูท่าทีและความเป็นผู้นำของนายกรัฐมนตรีใน 7 วันข้างหน้านี้ครับ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดร.เสรี วิจารณ์ 'แพทองธาร' แต่งตัวตามแฟชั่นขาดรสนิยม แนะลด 'อีโก้' พัฒนาทักษะ

ดร.เสรี วงษ์มณฑา วิจารณ์การแต่งกายของนายกฯแพทองธาร โดยมองว่าแต่งตามสมัยนิยมไม่เหมาะสมกับรูปร่างตัวเอง และเสี่ยงที่จะดูแย่ แนะนำลดอีโก้และพัฒนารสนิยมเพื่อให้ประเทศดูดีขึ้น

นายกฯ หารือเอกอัครราชทูตภูฏานฯเตรียมความพร้อม 'ในหลวง-ราชินี' เสด็จฯ เยือน ครั้งแรก

นายกฯ หารือเอกอัครราชทูตภูฏานประจำประเทศไทย เตรียมความพร้อมอย่างสมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเยือน เป็นครั้งแรกในรัชกาลปัจจุบัน ขณะความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ พร้อมลงนาม FTA ระหว่างกันในประชุมบิมสเทคที่ไทย เม.ย.นี้

น้ำล้างถ้วยเผ็ดกว่าน้ำแกง! ปรามบริวารอย่าใจแคบ ให้เวลาฝ่ายค้านซักฟอกนายกฯ

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวเรื่อง "น้ำล้างถ้วย เผ็ดกว่าน้ำแกง" โดยระบุว่า

รังสิมันต์ฉะเพื่อไทยพอเป็นรัฐบาลทำตัวเป็นพระอรหันต์อภิปรายแตะต้องคนนอกไม่ได้

'โรม' ยันฝ่ายค้านเตรียมตัวดี พร้อมซักฟอกไม่มีน้ำท่วมทุ่ง ท้า 'ทักษิณ' แฟร์ๆ ให้ตรวจสอบ เตือน 'สุทิน' อย่าประเมินตัวเองสูง คิดว่าเป็นโรนัลโด้สภา บอก 'เพื่อไทย' รู้ดีพอเป็นรัฐบาลกลับเป็นพระอรหันต์