'หัวหน้าเท้ง' เรียกร้อง 'อุ๊งอิ๊ง' แสดงบทบาทนำฉีกรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกงให้สำเร็จ

11 ก.พ.2568- นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ประชุมรัฐสภาจะพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1 เพื่อเปิดทางให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ ในวันที่ 13-14 ก.พ.นี้ ว่า ความสำคัญของการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ คือเป็นโอกาสสุดท้ายที่ประเทศไทยจะมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่บังคับใช้ก่อนการเลือกตั้งครั้งหน้า ต้องย้ำว่าการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไม่ได้เป็นข้อเสนอของพรรคฝ่ายค้าน หรือพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง แต่เป็นนโยบายของรัฐบาลที่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แถลงต่อรัฐสภาให้คำมั่นสัญญากับประชาชน เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 67

เมื่อการผลักดันรัฐธรรมนูญใหม่เป็นนโยบายหลักของรัฐบาล สิ่งที่เราควรได้เห็นคือการแสดงเจตจำนงและบทบาทนำของนายกฯ ที่จะทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ แต่ที่ผ่านมานางสาวแพทองธารกลับไม่เคยแสดงบทบาทหรือสื่อสารต่อสาธารณะเกี่ยวกับนโยบายนี้ แม้แต่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็ไม่ได้เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของตนเองเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา มีเพียงร่างของพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชนเท่านั้น แตกต่างจากแนวทางที่ผ่านมา ที่หากรัฐบาลมีวาระที่ต้องการผลักดันอย่างจริงจัง จะเสนอร่างของ ครม. เข้าสู่สภาด้วย เช่นกรณีพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ตั๋วร่วม หรือ พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร

โจทย์ใหญ่ของการผลักดันรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ขณะนี้ คือการต้องได้เสียงสนับสนุนจาก สว. เกิน 1 ใน 3 ของสมาชิกทั้งหมด ซึ่งเชื่อว่าเป็นเรื่องเดียวกันกับการได้เสียงสนับสนุนจากพรรคร่วมรัฐบาล นายกฯ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลผสม ท่านไม่สามารถลอยตัวเหนือความขัดแย้ง แต่ท่านต้องเป็นผู้นำในการบริหารจัดการความเห็นต่าง ใช้โอกาสการประชุม ครม. วันนี้ แสดงภาวะผู้นำสร้างเอกภาพภายในพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อผลักดันรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้สำเร็จ รักษาคำพูดต่อนโยบายเรือธงที่ตัวเองเคยประกาศ รับผิดชอบต่อคำสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โหมโรงศึกซักฟอก “ดีลแลกประเทศ”

ภายหลังที่ประชุม ‘วิป 3 ฝ่าย’ ได้ข้อยุติกรอบเวลาใน ‘การอภิปรายไม่ไว้วางใจ’ ทั้งหมด 37 ชั่วโมง ซึ่งจะเริ่มต้นในวันที่ 24 มี.ค. แบ่งเป็น ฝ่ายค้าน 17 ชั่วโมง ฝ่ายรัฐบาลรวมกับคณะรัฐมนตรี 3.5 ชั่วโมง และประธานในที่ประชุม 1 ชั่วโมง รวมทั้งสิ้น 21.5 ชั่วโมง คาดว่าหากมีการเริ่มอภิปรายในเวลา 08.00 น. จะเลิกในเวลา 05.30 น. ของวันที่ 25 มี.ค.

จับตาศึกซักฟอก ไม่เอ่ยชื่อก็รู้ว่าใคร ตามต่อ “ฝ่ายค้าน” ขอเวลา จะสมหวังดั่งใจหรือไม่

เริ่มจะมีความชัดเจนขึ้นสำหรับเวทีอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 หรือที่รู้จักกันว่า เวทีซักฟอกรัฐบาล เพราะล่าสุด เมื่อวันที่ 17 มี.ค. “เท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน และผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ ได้แก้ญัตติซักฟอก โดยขีดทับชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” และคำว่า "ผู้เป็นบิดา" ออก และเปลี่ยนเป็นคำว่า "บุคคลในครอบครัว" แทน

'วิโรจน์' ซัดสภาเป็นโรงลิเก หลอกต้มประชาชน ส่งศาลตีความเตะถ่วงแก้รธน.

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ อภิปรายว่า วันนี้ต้องเล่าเรื่องเก่าให้เห็นเส้นเรื่องว่า การยื้อแก้รัฐธรรมนูญนั้น ไม่เกิดประโยชน์ ถ้าเราจำกันได้ หลังรัฐประหาร ปี 2557 สส.จำนวนมากมายหลายพรรคมีท่าทีแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านกลไกของสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.)

'3 ไม่' ยุทธศาสตร์พรรคส้ม 'พูดง่ายแต่ทำยาก' ในเกมการเมืองที่ซับซ้อนและพลิกผัน!

การอภิปรายไม่ไว้วางใจ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีที่กำลังจะเกิดขึ้น ไม่ได้เป็นเพียงกระบวนการตรวจสอบรัฐบาลตามกลไกประชาธิปไตย