"อังคณา" เหน็บ "ทักษิณ" คิดไปเองคนชายแดนใต้ต้อนรับ ทั้งที่เขาไม่รู้สึกอะไร ซัดแทนที่จะพูดความจริงว่าทำไมสส.เพื่อไทยหนีคดีตากใบ กลับพูดแค่ขออภัย แม้เป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียน ก็ช่วยไม่ได้ เหตุมาเลเซียแค่เป็นตัวกลาง-ไม่แทรกแซง แนะใช้การเมืองนำการทหารแก้ปัญหาภาคใต้ พร้อมเสนอตัว อยากให้ช่วยก็ยินดี
10 มีนาคม 2568 - ที่รัฐสภา นางอังคณา นีละไพจิตร สว. ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุระเบิดในพื้นที่ภาคใต้หลายจุด ว่า ถ้าเปรียบเทียบในทุกปีช่วงเดือนรอมฎอน ก็จะมีการพูดคุยกันทั้ง 2 ฝ่ายว่าจะไม่ใช้ความรุนแรง และ 2-3 ปีที่ผ่านทมา เราพบว่าช่วงเดือนรอมฎอนก็จะไม่มีการใช้ความรุนแรง แต่ปีนี้เข้าเดือนรอมฎอนได้เพียง 1 สัปดาห์ ก็มีการใช้ความรุนแรง เช่น กรณีที่ไปโจมตี อส. ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำต่อพลเรือนไม่ใช่ทหาร แต่ในส่วนที่ทราบมาทางฝ่ายขบวนการมองว่าใครก็ตามที่อยู่กับรัฐ คือศัตรูของเขา แม้จะเป็นมุสลิมหรือไม่ก็ตาม เขาไม่ได้แยกแยะ จะเห็นได้ว่าอส.ที่เป็นมุสลิม ก็ถูกฆ่าเหมือนกัน
เมื่อถามว่า เป็นข้อสังเกตว่าเพราะนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ลงไปในพื้นที่ใช่หรือไม่ นางอังคณา กล่าวว่า นายทักษิณ ลงไปในพื้นที่ก็คิดเอาเองว่าตอนนี้ประชาชนค่อนข้างต้อนรับ โดยมีการเปรียบเทียบว่าเมื่อก่อนมองตาเขียว แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว ซึ่งนายทักษิณต้องอย่าลืมว่าเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นไม่มีใครลืม ถึงแม้นยาทักษิณจะขออภัยในกรณีตากใบ แต่ช่วงที่สส.พรรคเพื่อไทย เป็นจำเลยในคดีตากใบ ก็ไม่ไปปรากฏตัวในศาล จนทำให้คดีไปต่อไม่ได้ ตรงนี้เชื่อว่าเป็นเหตุหนึ่ง เพราะหากคดีตากใบดำเนินไปได้อย่างน้อยที่สุดความจริงก็จะเปิดเผยในศาลให้รู้ว่ามีใครที่เกี่ยวข้องบ้าง สุดท้ายศาลพิพากษาอย่างไรก็ถือว่ายุติ และพอใจทั้ง 2 ฝ่ายแต่หากคาราคาซังแบบนี้ก็ยังมีอะไรที่ค้างคาใจอยู่
เมื่อถามว่า การที่นายทักษิณ เป็นที่ปรึกษาของนายกฯมาเลเซีย ไม่สามารถช่วยหรือทำให้มาเลเซียมาคลี่คลายสถานการณ์ได้เลยหรือ นางอังคณา กล่าวว่า มาเลเซียอยู่ในฐานะผู้อำนวยความสะดวกเท่านั้น เพื่อให้ฝ่ายไทยได้คุยกับอีกกลุ่มเท่านั้น ซึ่งโดยมารยาทเขาจะไม่แทรกแซง แต่ปัญหาคือวิธีการพูดคุยคงต้องคุยทั้งบนโต๊ะ และในพื้นที่ ถ้าถามเจ้าหน้าที่ว่าตอนนี้พอจะมองออกหรือไม่ว่าใครเป็นใคร เจ้าหน้าที่และคนที่ทำงานภาคใต้ก็รู้ว่าเราควรทำงานกับใคร
”ปัญหาคือรัฐบาลไม่ได้ส่งสัญญาณในการที่จะคุยกับคนที่เขาเห็นต่างทางความคิด แต่กลับไปมุ่งที่จะส่งเสริมสนับสนุนพัฒนาคนที่เห็นด้วยกับรัฐบาลมากกว่า จึงทำให้ปัญหายืดเยื้อ และอีกส่วนที่ต้องไม่ลืมเพราะมีหลายคนวิพากษ์วิจารณ์เรื่องของการรายงานข่าว เพราะมีการพูดมานานว่าการรายงานข่าวไม่น่าเชื้อถือ ทำไมรัฐจึงไม่รู้มาก่อนว่าจะมีการก่อเหตุในลักษณะนี้ และที่สำคัญรัฐบาลต้องไม่ลืมว่าผู้ก่อเหตุหรือผู้ที่คิดต่างพวกบีอาร์เอ็น ก็คือลูกหลานของคนในพื้นที่ ฉะนั้น ความเป็นพี่น้องยังมีอยู่ จะทำอย่างไรที่จะคุยกันให้เข้าใจ อย่างกรณีตากใบแทนที่จะขอโทษ คุณทักษิณควรจะพูดมากกว่าว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมไม่ให้สส.ในพรรคเพื่อไทยมาขึ้นศาล อย่างน้อยควรเปิดเผยความจริงว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะตากใบมีคนหาย และมีการฆ่านอกกระบวนรการยุตติธรรม“ นางอังคณา กล่าว
เมื่อถามว่าคณะเจรจาพูดคุยควรประกอบไปด้วยฝ่ายไหนเพื่อให้เกิดสันติสุข นางอังคณา กล่าวว่า ส่วนตัวมองไปที่คณะพูดคุยชุดที่แล้ว ที่มีนายทหาระดับสูงด้วย เพราะนี่คือคู่ขัดแย้ง แล้วเราเอาคนที่เป็นคู่ขัดแย้ง ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าละเมิดเข้าไปนั่งอยู่บนโต๊ะอย่างนี้จะพูดคุยกันได้อย่างไร เพราะหลักการสำคัญของการพูดคุยคือทั้ง 2ฝ่ายต้องเท่ากัน ต้องคุย และสร้างความไว้วางใจกัน ถ้าเอาคนที่คนในพื้นที่ไม่ไว้วางใจไปนั่งบนโต๊ะ เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องคำนึงถึง เหมือนกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหม พูดว่าอาจจะคุยไม่ถูกคน ซึ่งตนก็เห็นด้วยว่าน่าจะคุยไม่ถูกคน ทั้งในระดับพื้นที่และการพูดคุยบนโต๊ะ อย่างไรก็ตาม หากเราเอาทหารไปเจรจาต้องมีกองกำลังติดอาวุธที่เป็นตัวแทนของเขามาพูดคุยด้วย และเวลาพูดคุยต้องมีหลักประกันว่าเขาจะปลอดภัย หากเขาปรากฏตัว
”ส่วนตัวมองว่าการเจรจาที่ผ่านมาไม่น่าจะได้ประโยชน์ สส.เองก็ตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาเรื่องสันติภาพมา 1-2 ปี แล้วก็ไม่เห็นไปไหน คุยกับคนไปทั่ว แต่อยู่ที่ว่าจะเอาอย่างไรมากกว่า ความจริงใจเป็นเรื่องสำคัญมาก และสิ่งที่อยากให้ตามคือที่สภาได้มีมติยกเลิกคำสั่งคสช. เรื่องการตั้งสภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้
ฉะนั้น อยากให้มีการตั้งสภาที่ปรึกษาฯ เข้ามาดำเนินการและใช้การเมืองนำการทหารให้เต็มที่เพราะที่ผ่านมาทหารนำการเมืองมาตลอด อะไรที่ไม่พอใจ ไม่ถูกใจก็ใช้ไอโอคุกคามคนที่เห็นต่าง สิ่งเหล่านี้ไม่ได้แก้ปัญหาเลย และหากไว้ใจอยากให้ดิฉันช่วยก็ยินดี แต่อยากให้คุยกันแบบตรงไปตรงมา ไม่ใช่เอาอกเอาใจ แบบอย่างที่นายทักษิณลงไปในพื้นที่แล้วคิดไปเองว่าคนมาต้อนรับ ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่แบบนั้น เพราะจากที่ดิฉันคุยกับชาวบ้านหลายคน เขาไม่ได้รู้สึกอะไร“นางอังคณา กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
คนร้ายฝังระเบิดหนัก 15 กก. ซุกท่อใต้ถนน ตำรวจพลีชีพ 1 นาย เจ็บ 1
พ.ต.อ.สินชัย พาบับพา ผกก.สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ตำรวจมีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดทางเข้าหมู่บ้านบีติง ม.5 ต.ตะโละดือรามัน หลังได้รับแจ้งจึงประสานชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบ
'นักกฎหมาย' ยก7เหตุผล 'ทักษิณ' ต้องกลับไปรับโทษก่อน 1 ปี รอการรับอภัยโทษครั้งใหม่
นายคมสัน โพธิ์คง นักกฎหมาย อดีตอาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า เรามาทำความเข้าใจว่าทักษิณต้องกลับไปจำคุก
'สมศักดิ์' ระวัง! ไม่อยากติดคุก อ่านข้อบังคับแพทยสภาให้ดี
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ "คุณสมศักดิ์ต้องอ่านถ้าไม่อยากติดคุก" โดยระบุว่า ผมอยากให้คุณสมศักดิ์
ศาลสั่งเบรก‘ทวี’ ‘ทักษิณ’กระอัก!
หากเปรียบเป็นสงครามตัวแทนระหว่าง สีแดง และ สีน้ำเงิน โดยมีคดีฮั้ว สว.เป็นเดิมพัน สถานการณ์ฝั่งพรรคภูมิใจไทยเหมือนจะเสียท่าพรรคเพื่อไทย เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเกมรุก ติดหมายเรียก 53 สว. เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาคดีฮั้ว สว.
'ดิเรกฤทธิ์' ชี้หากราชทัณฑ์ไม่มีหลักฐานชัดๆ ปมชั้น 14 จะมีคนผิดรับโทษหลายคนต่างกรรมต่างวาระ
ดร.ดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ประธานสถาบันสุจริตไทย
'นันทิวัฒน์' ย้อนนายกฯ ยิ่งพูดยิ่งเข้าตัว เสียดายโอกาสศาลไม่ให้ 'ทักษิณ' ไปพบ 'ทรัมป์'
นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงว่า