ป.ป.ช.บอกยังมีเวลาปม สว.ร้องสอบ 'ทวี-ยุทธนา'

เลขาฯ ป.ป.ช.ระบุตั้งอนุไต่สวน 'ทวี-อธิบดีดีเอสไอ' ปมรับคดีฮั้ว สว. ช้าหรือเร็ว ขึ้นอยู่ที่ความยุ่งยากซับซ้อน บอกไม่กดดัน​ รับหลายเรื่องเผือกร้อนการเมือง​ ลั่นต้องจัดการเร็วให้สังคมกระจ่าง

20 มี.ค.2568 - นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ( ป.ป.ช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สมาชิกวุฒิสภา​ (สว.) ยื่นให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของ พ.ต.อ.ทวี​ สอดส่อง​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กรณีรับคดีฮั้ว​ สว.​ ฐานฟอกเงินเป็นคดีพิเศษว่า​ ทุกคดีมีขั้นตอนในการดำเนินการ เมื่อมีการกล่าวหามาก็ต้องมีการตรวจรับ หากเห็นว่าอยู่ในอำนาจของ ป.ป.ช. เช่นเป็นการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่กระทำผิดต่อหน้าที่ เราก็จะรับดำเนินการ ส่วนจะมีความผิดหรือไม่ เป็นขั้นตอนต่อไปคือการตรวจสอบ แต่เนื่องจากคดีนี้เป็นที่สนใจของประชาชน เราก็รายงานคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้ทราบว่ามี สว.​มายื่นร้องเรียน ซึ่งจากนั้นจะเป็นเรื่องของสำนักงานในการตรวจสอบต่อไป แต่เรื่องนี้มีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนว่าการรับทราบคือการตั้งคณะไต่สวน​ โดยยืนยันว่ายังไม่ได้ดำเนินการ และการดำเนินการจะเหมือนคดีทั่วไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า ต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไรจึงจะตั้งคณะกรรมการไต่สวน นายสาโรจน์ กล่าวว่า ชั้นตรวจสอบเรามีมาตรฐานกำหนด ว่าควรจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน หรืออย่างช้าสุดไม่ควรเกิน 1 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรายละเอียด ว่ามีความยุ่งยากซับซ้อนหรือไม่ รวมถึงข้อมูลในทุกแง่มุมที่จะมาประกอบการไต่สวนว่ามีมูลหรือไม่

เมื่อถามว่า หนักใจหรือไม่ ที่หลายคดีเผือกร้อนทางการเมืองอยู่ในมือ ป.ป.ช. ขณะนี้นายสาโรจน์​กล่าวว่า​ สำนักงาน​ ป.ป.ช. มีหน้าที่ ในการตรวจสอบไต่สวน เรื่องที่อยู่ในอำนาจของกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือเจ้าหน้าที่ระดับสูง ดังนั้นประชาชนและสื่อมวลชน จะโฟกัสมาที่ป.ป.ช. ว่าจะพิจารณาอย่างไร และจะเร็วหรือไม่​ ป.ป.ช. เหมือนโดนจับจ้องอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้เรื่องที่กล่าวหามามักจะมี 2 มุมมาโดยตลอด​ ส่วนตัวคิดว่า​บรรยากาศก็ไม่ได้ต่างจากที่ผ่านมา เพียงแต่ช่วงนี้มีคดีที่ประชาชนให้ความสนใจเข้ามาถี่ จนโดนสังคมเร่งรัดและตั้งคำถาม ยืนยันไม่ได้ถูกกดดัน เป็นภาวะปกติของการทำหน้าที่ และที่สำคัญคือเราต้องตั้งหลักในการทำหน้าที่ ให้เป็นไปตามพยานหลักฐาน และข้อกฎหมาย รวมถึงข้อเท็จจริง ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ก็ต้องอธิบายต่อสังคมได้ แต่สิ่งที่ต้องเพิ่มขึ้นมา คือความรวดเร็ว เป็นเรื่องที่เราต้องบริหารจัดการ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

DSI เปิดโปงขบวนการซากสุกร 460 ล้าน เอี่ยว 'จนท.-นายทุน' ส่ง ป.ป.ช. 11 คดี

ดีเอสไอ เผยผลสอบสวนขบวนการลักลอบนำเข้าซากสุกรผิดกฎหมายช่วงปี 2563–65 รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 460 ล้านบาท พบพัวพันเจ้าหน้าที่รัฐ-นักการเมือง-นายทุนทั้งไทยและต่างชาติ ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. แล้ว 11 คดี พร้อมประสาน 7 ประเทศขยายผล

'ดีเอสไอ' เค้นสอบนาน 10 ชั่วโมง 3 คนไทย 'นอมินี' ถือหุ้น บ.ไชน่าเรลเวย์ฯ

“ดีเอสไอ" หิ้ว ”3 นอมินีคนไทย บ.ไชน่า เรลเวย์ฯ” ฝากขังศาลอาญา หลังสอบเดือด 10 ชม. ทั้งหมดล้วนปัดความร่วมมือให้ปากคำ บางช่วงบางตอนงงคำถาม ต้องให้ทนายช่วยอธิบาย ขณะที่ “โสภณ มีชัย“ ผู้ถือหุ้น บ.ไชน่า เรลเวย์ฯ กว่า

เปิดพฤติการณ์ 3 คนไทย 'นอมินี' บ.ไชน่าเรลเวย์ฯ พบเป็นอดีตคนขับรถ-ยกของ

ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก น.ส.เนรัญชรา กอมะณี พนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ นำตัวนายชวนหลิง จาง อายุ 42 ปี ชาวจีน ผู้ต้องหาในข้อหา

3 คนไทย 'นอมินี' ถือหุ้น บ.ไชน่าเรลเวย์ฯ เข้ามอบตัวดีเอสไอ ส่งฝากขังศาล

3 นอมินีคนไทย บ.ไชน่า เรลเวย์ฯ มานัส-ประจวบ-โสภณ ดอดมอบตัว ”ดีเอสไอ" หลังศาลอาญาออกหมายจับคดีนอมินี ด้านชุดสอบสวนฯ เตรียมเค้นประเด็นสอบเข้ม ปมนั่งนอมินีถือหุ้นอำพราง

ฝากขัง 'ชวนหลิง จาง' คดีนอมินีบริษัทไชน่าเรลเวย์ฯ อ้างรัฐวิสาหกิจจีนมอบเงินเยียวยา 120 ล้านบาท

ดีเอสไอคุมตัว ชวนหลิง จาง กรรมการ บ.ไชน่า เรลเวย์ฯ ฝากขังศาลอาญา ข้อหาใช้นอมินีสร้างตึกสตง.ใหม่ ถล่ม จ่อมอบเงินเยียวยาผู้เสียหาย 120 ล้านบาท

ดีเอสไอ บุกจับ 'ชวนหลิง จาง' คาโรงแรมหรู คดีนอมินีบริษัทไชน่า เรลเวย์ฯ

จากกรณี พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รับคดีนอมินี หรือความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย)