'เด็กบิ๊กป้อม' ไล่บี้บัญชีทรัพย์สิน 'แพทองธาร' กังขาทำนิติกรรมให้รัฐเสียหาย

“พิมพ์พร”  ถาม “นายกฯ” บัญชีทรัพย์สิน มีเจตนาผ่องถ่ายทรัพย์สินให้ญาติหรือไม่ กังขาทำนิติกรรมที่อาจทำให้รัฐเสียหายจากรายได้ภาษี

24 มี.ค.2568 – น.ส.พิมพ์พร พรพฤฒิพันธุ์ สส.เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ อภิปรายว่า เรื่องนิติกรรมที่เป็นข้อสงสัยต่อสาธารณะ การยื่นแสดงในทรัพย์สินและหนี้สินของนายกฯ ซึ่งบัญชีแสดงรายการหนี้สินอื่นจำนวนกว่า 4,434 ล้านบาท หนี้สินนี้ประกอบไปด้วยหนี้ตามต่อสัญญาใช้เงินเพื่อชำระค่าหุ้นให้กับพี่น้องเครือญาตและบุคคลในครอบครัวของนายกฯ ซึ่งจากการตรวจสอบตั๋วสัญญาใช้เงินดังกล่าว ทั้ง 9 ฉบับเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2559 ล้วนเป็นตัวสัญญาใช้เงินที่ไม่มีกำหนดระยะเวลา ชำระหนี้คืนและไม่มีการคิดดอกเบี้ย ซึ่งกรณีนี้ตนเองไม่เข้าใจว่านายกรัฐมนตรีมีเจตนาที่จะผ่องถ่ายทรัพย์สินโอนหุ้นกันระหว่างเครือญาติหรือไม่ เพราะโดยปกติในการกู้ยืมเงินกัน หรือการซื้อขายกันหากมีการกู้ยืมเงินกันจริงก็ต้องมีการกำหนดระยะเวลาใช้คืน และมีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยไว้

น.ส.พิมพ์พร ระบุว่า ซึ่งตั๋วเงินสัญญาในลักษณะนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 7 ระบุว่าหากเป็นการกู้ยืมการระหว่างบุคคลและไม่ได้ตกลงอัตราดอกเบี้ยกันไว้ สามารถเรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ตามกฎหมายได้ร้อยละ 3 บาทต่อปี ซึ่งในลักษณะตัวสัญญาใช้เงินจำนวนดังกล่าว หากคิดดอกเบี้ยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ จะคิดดอกเบี้ยได้เป็นจำนวนเงินถึง 132 ล้านบาท ต่อปี ซึ่งรัฐสามารถเก็บภาษีต่อเนื่องได้อีกเป็นจำนวนเงินหนึ่ง 

น.ส.พิมพ์พร กล่าวว่า ซึ่งเงินจำนวนนี้อาจจะไม่ได้มากนัก แต่หากเงินจำนวนนี้ตกไปในพื้นที่ถิ่นทุรกันดารแบบที่ประชาชนรอคอยความช่วยเหลือ เงินจำนวนนี้ก็จะสามารถสร้างประโยชน์มหาศาลให้กับพี่น้องในพื้นที่ได้ และจากการตรวจสอบเอกสารภาษีในการยื่นบัญชีทรัพย์สินและใช้หนี้สิน กลับไม่พบการตั้งหนี้ภาษีรายได้บุคคลธรรมดาเอาไว้และไม่พบรายจ่ายสำหรับภาษีเงินได้ที่แจ้งเอาไว้เช่นกัน

“ดิฉันจึงตั้งข้อสังเกตว่า การกู้เงินตามตั๋วสัญญาดังกล่าวนี้เป็นการทำนิติกรรมที่อาจทำให้รัฐเสียหายจากรายได้ภาษีหรือไม่ และบทบัญญัติประมวลรัษฎากรมาตรา 39 คือเงินได้พึงประเมิน ย่อมหมายถึงตัวเงินที่เป็นตัวเงิน รวมถึงทรัพย์สินและประโยชน์อย่างอื่นที่อาจประเมินมูลค่าเป็นตัวเงินได้ ฉะนั้น ตั๋วสัญญาใช้เงินดังกล่าวที่เกิดจากการได้รับหุ้นก็ต้องถือเป็นเงินได้พึงประเมินเช่นเดียวกัน ส่วนประเด็นความผิดที่อาจจะเกิดขึ้นจากตัวสัญญาใช้เงินกว่า 4,434 ล้านบาท ซึ่งหากมองในแง่ของการทำธุรกรรมกรณีดังกล่าวอาจจะไม่ชี้ชัดว่าขัดต่อเรื่องข้อกฎหมายในข้อใดอย่างชัดเจน แต่หากมองในเรื่องของจริยธรรมผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งหากนายกฯจะสามารถชี้แจงได้ก็คงเป็นประโยชน์กับสาธารณะ” น.ส.พิมพ์พร ระบุว่า  

น.ส.พิมพ์พร อภิปรายว่า เรื่องการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของนายกฯ ซึ่งเอกสารได้แสดงถึงรายได้และรายจ่ายต่อปีโดยประมาณ และรายได้จากค่าเช่าทรัพย์สิน ซึ่งรายการดังกล่าว ถือเป็นเงินได้พึงประเมินตามกฎหมายตามประมวลรัษฎากรมาตราที่ 40 (5) ซึ่งผู้มีเงินได้ตามรายการดังกล่าวนั้นจะต้องยื่นแบบแสดงรายการการเสียภาษีด้วยแบบ ภงด.94 นั่นหมายความว่าการที่นายกฯ ได้แสดงรายได้จากค่าเช่าทรัพย์สินแต่กลับไม่พบแบบแสดงรายการภาษี ภงด.94 ปรากฏอยู่ในเอกสารประกอบรายการทรัพย์สินที่นายกฯ ยื่นไว้ ที่พบเพียงภงด.90 และ 91 ซึ่งหากนายกฯไม่ได้ยื่นภงด.94 อาจจะเข้าข่ายความผิดต่อหน้าที่ของบุคคลตามรัฐธรรมนูญมาตรา 50 (9) นั่นคือหน้าที่ของปวงชนชาวไทยที่ต้องเสียภาษีตามที่กฎหมายบัญญัติ

“ และในกรณีดังกล่าวอาจจะไม่ได้มีความผิดร้ายแรงหากนายกฯ ได้ยื่นเพิ่มเติมหลังจากตรวจสอบเสียภาษี เสียเงินเพิ่ม และเสียเบี้ยปรับไปแล้ว แต่อย่างไรก็ดีการที่ท่านเป็นนายกฯ นั่นหมายความว่าท่านต้องมีความละเอียดรอบคอบให้มากที่สุด เนื่องจากการบริหารราชการแผ่นดินการตัดสินใจที่ผิดพลาด ขาดความละเอียดรอบคอบนั้น อาจจะนำพาให้ประเทศชาติเกิดความเสียหายได้เช่นกัน” น.ส.พิมพ์พร ระบุ

น.ส.พิมพ์พร กล่าวต่อว่า และการเปลี่ยนแปลงการโอนหุ้น ตนเองตั้งข้อสังเกตว่าเมื่อมีการโอนหุ้นเกิดขึ้นแล้วการโอนหุ้นนี้กลับไม่ปรากฏรายได้ค่าหุ้นค้างรับหรือรายได้จากการขายหุ้นใดๆที่แสดงในบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินที่นายกฯ ได้ยื่นแสดงต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และรายได้ที่นายกฯแสดงก็ไม่ปรากฏถึงรายได้จากการโอนหุ้น ซึ่งสามารถอธิบายได้ว่านายกฯ อาจยื่นแสดงรายการขายทรัพย์สินไม่ครบถ้วนหรือไม่ เพราะหากนายกฯบอกว่าเป็นการโอนหรือการให้โดยเสน่หาท่านก็ยังคงต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอีกอยู่ดี ตนจึงอยากให้นายกไปช่วยชี้แจงประเด็นทางบัญชีต่างๆ. 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เมืองเหนือเดือด! ‘สุรเดช’ ลั่นสู้ศึกเลือกตั้ง ปัดแข่ง ‘ธรรมนัส’ ชูนโยบายรุ่นเก่า-ใหม่ร่วมกันทำงาน

‘สุรเดช’ ลั่นพร้อมนำ พปชร.สู้เลือกตั้งภาคเหนือ ตั้งเป้ากวาด 60 ที่นั่งทั่วประเทศ ปัดแข่ง ‘ธรรมนัส’ เน้นแข่งนโยบาย

'บิ๊กป้อม' ยกเครื่องพปชร. เปลี่ยนโลโก้ ยืนแถวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมทันสมัย

“บิ๊กป้อม”นำทัพ พปชร.ประชุมใหญ่สามัญ เปลี่ยนโลโก้พรรค พร้อมตั้ง“ธีระชัย-สุรเดช”นั่งรองหัวหน้าเพิ่ม ย้ำ สโลแกนอนุรักษ์นิยมทันสมัย 

'หัวหน้าเท้ง' รอฟังคดีชั้น 14 มัดนายกฯ ผู้รู้เห็นอาการป่วยพ่อ

“ณัฐพงษ์”  รอฟัง 30 เม.ย.นี้ 'ศาลฎีกา' รับคำร้อง 'คดีชั้น 14' หรือไม่ ก่อนประเมินผลสะเทือนรัฐบาลมากน้อยเพียงใด ย้ำ 'นายกฯ' เป็นผู้รู้เห็นอาการป่วยทั้งหมด 

ทักษิณจะไปสหรัฐ ปลดล็อกภาษี-ดับไฟใต้ 'วาทกรรมคำโต' กับโลกแห่งความจริง

ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่ไร้ตำแหน่งทางการเมือง กลับมาเล่นบทผู้นำอีกครั้ง ผ่านการให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา ทั้งในประเด็นการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ และการแก้ปัญหาไฟใต้

เหน็บ 'นายกฯอิ๊งค์' ติดดิน-ตลาดล่าง ตอบเก่งแต่เรื่องกระพี้

แกนนำ คปท. โพสต์เหน็บ “แพทองธาร ชินวัตร” ตอบโต้เฉพาะเรื่องชุด-รองเท้า-แว่น แต่ไม่ตอบคำถามใหญ่เรื่องปากท้อง ชี้เหมือนนางอิจฉาในละครไทย ตอกย้ำภาพนายกฯติดดิน-ตลาดล่าง