
โฆษกรัฐบาลเผย 'นายกฯ' เร่งติดตามการดำเนินงานหลังฟื้นสัมพันธ์ ไทย-ซาอุฯ ลุยตั้งกรรมการเร่งดำเนินการเซ็นเอ็มโอยูในเดือนนี้ เร็วกว่าที่กำหนดภายใน 2 เดือน
02 ก.พ.2565 - นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงผลต่อเนื่องจากการไปเยือนราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมที่ผ่านมา ซึ่งเกิดการหารือในระดับทวิภาคีในหลายมิติ ครอบคลุมประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ การทูต แรงงาน ฯลฯ ว่านายกฯ สั่งการเร่งรัดให้หน่วยงานด้านเศรษฐกิจ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ตลอดจนแรงงาน เร่งดำเนินการหลังการเจรจาหารือที่เกิดขึ้น โดยได้มอบหมาย นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน และนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกฯ และ รมว.การต่างประเทศ ตั้งกรรมการเร่งดำเนินการเพื่อติดตามการทำงานให้เกิดผลสัมฤทธิ์ นอกจากนี้ยังให้กระทรวงแรงงานประสานไปยังหน่วยงานในการกำกับเพื่อเร่งเตรียมความพร้อมในการเยือนของรัฐมนตรีทั้ง 2 ฝ่ายภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ เพื่อลงนาม MOU ซึ่งถือว่าเป็นการขับเคลื่อนที่เร็วกว่าที่กำหนดไว้ภายใน 2 เดือน
นายธนกร กล่าวว่า ความคืบหน้าในส่วนของกระทรวงแรงงาน มีการดำเนินการจัดหาแรงงานมีฝีมือตามความต้องการของฝ่ายซาอุดีอาระเบีย ซึ่งมีความต้องการแรงงานต่างชาติจำนวนกว่า 8 ล้านคน ในสาขาภาคบริการ โรงแรม สุขภาพ และอุตสาหกรรมก่อสร้างในโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ ซึ่งขณะนี้ได้เร่งประชุมกับหน่วยงานในกำกับ ประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ ได้ประชุมหารือร่วมกับสมาคมการจัดหางานไทยไปต่างประเทศเกี่ยวกับรายละเอียดขั้นตอนต่าง ๆ รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และกระบวนการจัดส่งแรงงานไทยที่มีฝีมือในสาขาบริการ โรงแรม สุขภาพ และอุตสาหกรรมก่อสร้าง เพื่อไปทำงานในซาอุดีอาระเบีย ภายใต้หลักการรัฐจัดหา เอกชนจัดส่ง ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศ ได้สานต่อการหารือเกี่ยวกับการดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างไทย-ซาอุฯ ซึ่งในระยะแรกจะมีการแต่งตั้งเอกอัครราชทูตและการจัดตั้งกลไกการหารือทวิภาคี ตลอดจนการร่วมมือและสนับสนุนซึ่งกันและกันในกรอบพหุภาคีต่าง ๆ อาทิ องค์การ OIC (โอไอซี) อาเซียน GCC (จีซีซี) รวมถึงการเป็นเจ้าภาพ APEC ของไทยในปีนี้ด้วย
นายธนกร กล่าวว่า สำหรับด้านเศรษฐกิจ ไทยมุ่งเน้นการสร้างโอกาสทางการค้าและการลงทุนสำหรับไทยและซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในกลุ่มประเทศอาหรับ โดยเฉพาะการเสริมสร้างบทบาทของอาหารฮาลาลของไทย ตลอดจน ส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์และการท่องเที่ยวเพื่อรองรับการเข้ามาของนักท่องเที่ยวชาวซาอุฯ ซึ่งก็จะมีการเปิดเที่ยวบินจากซาอุดิอาระเบีย บินตรงมาสู่ประเทศไทยในเร็วๆนี้ อีกด้วย
“ท่านนายกฯ กล่าวว่า เป็นโอกาสที่ดีสำหรับประเทศไทย ที่ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบียมีสัญญาณที่ดี ซึ่งไทยต้องรีบคว้าโอกาสสำคัญนี้ ในการเร่งผลักดันเศรษฐกิจ รื้อฟื้นความสัมพันธ์ทางการทูต ตลอดจนการขยายตลาดแรงงานไทย และนโยบายเปิดประเทศสำหรับการท่องเที่ยว ซึ่งได้เร่งให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเร่งทำงานในทุกวินาที เพื่อทำให้เกิดการสานต่อ จากการหารือที่ได้ทำให้การกรุยทางแห่งความสัมพันธ์ระหว่างไทย-ซาอุดิอาระเบียที่ถูกรื้อฟื้นขึ้นในรอบ 30 ปีก็ว่าได้”นายธนกรกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ไชยชนก' แย้ม 'DSI' มีข้อมูลโยง 2 นักการเมือง ปม MOU บ.สแกนม่านตา
'ไชยชนก' ชี้หน้าที่ 'ดีเอสไอ' สอบสวน หลังพบข้อมูลนักการเมือง 1-2 คน เอี่ยว MOU กระทรวงดีอี-บ.สิงคโปร์ สแกนม่านตา โยงฟอกเงินดิจิทัล
นายกฯ เยี่ยมนาวิกโยธินเหยียบกับระเบิด ฝาก 'นานาชาติ' อย่าเอาแต่บอกไทยหยุดยิง ให้ไปบอกเขมร
นายกฯเยี่ยมนาวิกโยธิน เหยียบทุ่นระเบิดบาดเจ็บ ฝากถึงนานาชาติ อย่าเอาแต่บอกให้ไทยหยุดยิง ให้ไปบอกเขมร ลั่นเลิกเกรงใจหน้าอินทร์หน้าพรหม เดินหน้าสถาปนาอธิปไตยเหนือชายแดนโดยเร็วที่สุด
นายกฯ เยี่ยมศูนย์อพยพ จ.สุรินทร์ นั่งระบายสี 'รถฮัมวี่ติดปืนกล' ร่วมกับเด็ก ลั่นรบ.จะดูแลเต็มที่
นายกฯ เยี่ยมศูนย์อพยพที่สุรินทร์ นั่งระบายสี ‘รถฮัมวี่ติดปืนกล’ ร่วมกับเด็กๆ เดินทักทาย-ให้กำลังใจชาวบ้าน-จนท. พร้อมขอให้อยู่ที่ศูนย์ไปก่อน รัฐบาลจะดูแลเต็มที่ ก่อนไปเยี่ยมทหารเหยียบระเบิดที่จันทบุรีต่อ
ยกเลิก MOU 'เจ้ากรมแผนที่ทหาร-นักวิชาการ' สะท้อนต่างมุม
วงเสวนาไทย–กัมพูชาสะท้อนต่างมุม “เจ้ากรมแผนที่ทหาร” ชี้ปัญหาเขตแดนเป็นมรดกยุคอาณานิคม ย้ำ MOU คือกลไกแก้ปัญหาที่สั่งสมกว่า 20 ปี ขณะที่ “สว.ชิบ” เปิด 8 เหตุผล กมธ.วุฒิสภา หนุนยกเลิก MOU 2544 ป้องกันไทยเสียผลประโยชน์ทางทะเล
'อนุทิน' เปิดพรรครับ 'กลุ่มรักสถาบัน' ให้กำลังใจ ปกป้องอธิปไตยไทย
'อนุทิน' เปิดพรรค รับดอกไม้-หนังสือ 'กลุ่มศปปส.' ให้กำลังใจปกป้องอธิปไตย ลั่นไทยไม่มีแพ้ ขอมั่นใจพร้อมสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ทหาร
'บิ๊กเล็ก' สั่งคุมเข้ม! รับเขมรอาจจ้องก่อวินาศกรรม 'แท่นขุดเจาะน้ำมัน'
'รมว.กห.' ยอมรับกัมพูชาอาจพยายามก่อวินาศกรรมแท่นขุดเจาะน้ำมัน หลังพบโดรนบินอ่าวไทย สั่งทุกเหล่าทัพเพิ่มความเข้มงวดมาตรการดูแลความปลอดภัย ชี้เขมรทำลายโดรน D-20 เป็นเรื่องน่าเสียดาย

