ศึกเลือกตั้งเทศบาลระอุ ร้องเรียนพุ่ง 358 เรื่อง

“รองเลขา กกต.” แถลงหลังปิดหีบ “เลือกตั้งเทศบาล” ยอดร้องเรียนพุ่ง 358 เรื่อง   ขณะ ‘นนทบุรี’ แจกเงิน 300 พบหลักฐานมีโพยด้วย อยู่ระหว่างการไต่สวน ชี้ หากผลเขตไหนผ่านฉลุย ประกาศรับรองได้ภายใน 30 วัน

11 พ.ค.2568 – เมื่อเวลา 18.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พ.ต.ท.ระพีพงษ์ จิรพัฒนาลักษณ์ รองเลขาธิการ กกต. แถลงข่าวการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี ภายหลังปิดหน่วยเลือกตั้งทั่วประเทศ ว่า ทุกหน่วยในเขตเลือกตั้งทั้ง 76 จังหวัด จำนวน 2,463 แห่งได้ดำเนินการลงคะแนนทั้งหมดเรียบร้อย ไม่มีการงดการลงคะแนน แต่ระหว่างที่ดำเนินการก็ได้มีการรายงานเหตุว่ามีพายุฝนฟ้าคะนองอยู่หลายแห่ง แต่สามารถที่จะดำเนินการลงคะแนนได้ตามปกติ ทั้งในภาคเหนือ ภาคใต้ และภาคอีสานในบางจังหวัด ซึ่งเหตุการณ์ปกติเรียบร้อยดีทุกหน่วย หลังจากการปิดการลงคะแนนแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างที่กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) ดำเนินการนับคะแนน หลังจากนับคะแนนเสร็จแล้วต้องประกาศผลคะแนนที่หน่วยเลือกตั้งและนำผลคะแนนไปรายงานต่อเทศบาลต่อไป

พ.ต.ท.ระพีพงษ์  ระบุว่า ส่วนในเรื่องอื่นที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง มีการรายงานเรื่องการกระทำความผิดที่หน่วยเลือกตั้ง เช่น การทำให้บัตรเสียหาย หรือมีผู้ฉีกบัตรเลือกตั้ง ซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 6 ราย ใน 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดศรีสะเกษ 2 ราย ที่เหลือจังหวัดละ 1 ราย ได้แก่ บุรีรัมย์ , สระแก้ว , อ่างทอง และประจวบคีรีขันธ์

“ขณะนี้ได้รับรายงานเกี่ยวกับเรื่องร้องเรียนว่าในเวลานี้มีเรื่องร้องเรียนเพิ่มเติมเข้ามาทั้งหมด 358 เรื่อง อยู่ในการดำเนินการของพนักงานสืบสวนไต่สวน ทั้งจังหวัดและส่วนกลาง ส่วนใหญ่เป็นการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นพ.ศ. 2562 ในมาตรา 65” พ.ต.ท.ระพีพงษ์ กล่าว

พ.ต.ท.ระพีพงษ์ ระบุว่า ในจำนวนเทศบาล 2,463 แห่ง มีเทศบาลที่มีผู้สมัครนายกเทศมนตรีจำนวน 1 คน ทั้งหมด 429 แห่ง เป็นเทศบาลนคร 4 แห่งเทศบาลเมือง 31 แห่งเทศบาลตำบล 394 แห่ง ส่วนเทศบาลที่มีผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาล (สท.) เท่ากับจำนวนที่พึงมี คือเขตละ 6 คน ไม่มีผู้แข่งขันอื่น มีทั้งสิ้นจำนวน 166 แห่ง เป็นเทศบาลนคร 2 แห่ง เทศบาลเมือง 21 แห่ง และเทศบาลตำบล 143 แห่ง

พ.ต.ท.ระพีพงษ์ กล่าวว่า ในเทศบาลที่ไม่มีผู้แข่งขันอื่น ต้องได้รับเลือกตั้งไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในเขตนั้น และมากกว่าคะแนนเสียงที่ไม่เลือกผู้ใด จึงจะได้รับตำแหน่ง ทั้งนี้ คาดว่าผลน่าจะได้หลังจากเวลา 22.00 น. 

“ต้องขอขอบคุณผู้ที่มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งทั้งหมด พี่น้องประชาชนได้ใช้พลังของตัวเองในการเลือกตั้งครั้งนี้ ส่วนผู้ที่ไม่ได้มาเลือกตั้ง ในวันพรุ่งนี้ ในกรอบ 7 วันหลังจากวันเลือกตั้ง สามารถแจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งได้ เพื่อจะไม่ให้ถูกจำกัดสิทธิ์” พ.ต.ท.ระพีพงษ์ กล่าว

เมื่อถามถึงเหตุการณ์แจกเงิน 300 บาทที่จังหวัดนนทบุรี พ.ต.ท.ระพีพงษ์ กล่าวว่า ทางจังหวัดนนทบุรีได้รายงานเหตุเรื่องการจับกุมผู้ที่รับว่าแจกเงิน พร้อมกับโพยรายชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รายงานให้กับฝ่ายสืบสวนของจังหวัดนนทบุรีเข้าร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริง และดำเนินการรายงานไปที่สำนักงาน กกต. จังหวัด และเลขาธิการ กกต. ทราบแล้ว ขณะนี้ถือว่าคณะกรรมการจังหวัดรับเป็นความปรากฏ เพื่อจะดำเนินการสืบสวนไต่สวนและรายงานให้สำนักงาน กกต. ทราบเพื่อพิจารณาต่อไป

เมื่อถามว่าขั้นตอนหลังจากนี้ไปสู่การประกาศผลจะมีอะไรบ้าง พ.ต.ท.ระพีพงษ์ กล่าวว่า หลังจากขั้นตอนนี้ก็รอรายงานผลจากเทศบาลทั้ง 2,463 แห่งเข้ามา ตนคิดว่าเราจะรวบรวมผลคะแนนได้ประมาณไม่เกินวันที่ 14 พ.ค.อย่างไม่เป็นทางการ ในกรณีที่ไม่มีเรื่องร้องเรียนเลย จะต้องประกาศผลภายใน 30 วัน ส่วนกรณีที่มีเรื่องร้องเรียน สามารถดำเนินการสอบสวนให้เสร็จภายใน 60 วัน กกต. ก็มีอำนาจที่จะพิจารณาตามมาตรา 17 วรรคสอง ของ พ.ร.บ.เลือกตั้งท่องถิ่นฯ หากมีเรื่องที่ต้องดำเนินการ แล้วฝ่ายสืบสวนสามารถส่งสำนวนให้พิจารณา ก็สามารถสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ ลงคะแนนใหม่ภายใน 60 วันได้

“เราต้องดำเนินการประกาศในช่วง 30 วันแรกก่อน โดยเป็นกรณีที่ไม่มีเรื่องร้องเรียน แต่หลังจากนับคะแนนเสร็จวันนี้ อาจจะมีรายงานเรื่องบางเขต อาจจะและผู้สมัครไม่ครบ หรืออาจจะมีบางเขตมีเรื่องบัตรไม่ตรงกับผู้มาใช้สิทธิ์ ซึ่งจะต้องให้ท่านพิจารณาลงคะแนนใหม่ ก็คงจะต้องนำเรียนในรายละเอียดต่อไป หลังจากที่ได้รับผลคะแนนจากทุกแห่งแล้ว” พ.ต.ท.ระพีพงษ์ กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กกต.ขยับรับสมัครอบต.ใต้เป็น 8-12 ธ.ค. เหตุอุทกภัยกระทบหลายจังหวัด

กกต.ปรับรอบรับสมัครเฉพาะ 5 จังหวัดน้ำท่วม ส่วนจำนวน อบต.ทั่วประเทศลดเหลือ 4,985 แห่งจากการยกฐานะเป็นเทศบาล ต้องแบ่งเขตใหม่ก่อนจัดเลือกตั้งช่วงเมษายน 2569 หลายพื้นที่เปิดรับสมัครวันแรกคึกคัก

กกต. แจงนักการเมือง-พรรค บริจาคช่วยน้ำท่วมได้เต็มที่ แต่ระดับท้องถิ่นต้องระวังช่วง 180 วันก่อนครบวาระ

กกต. ชี้ "บริจาคช่วยภัยพิบัติ" สส.-สมาชิกพรรคทำได้เต็มที่ไม่เกินครั้งละ 3 แสนบาท แต่จะบริจาคกี่ครั้งก็ได้ ส่วนพรรคการเมืองไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อเหตุการณ์ ย้ำโปร่งใส–โฆษณาได้ 

กกต. ขอเชิญชวนสมัครรับเลือกตั้ง สมาชิกสภา อบต. และนายก อบต. ระหว่างวันที่ 1 - 5 ธันวาคม 2568

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ขอเชิญชวนผู้ที่สนใจสมัครรับเลือกตั้งสมาชิก สภาองค์การบริหารส่วนตำบลและนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ระหว่างวันที่ 1 – 5 ธันวาคม 2568 เวลา 08.30 – 16.30 น. (ไม่เว้นวันหยุดราชการ) ณ สถานที่ที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนตำบลกำหนด สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ขอประชาสัมพันธ์ผู้ที่สนใจสมัครรับเลือกตั้งสามารถตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม และเตรียมหลักฐานและเอกสารประกอบการ ยื่นใบสมัครรับเลือกตั้ง พร้อมทั้งค่าธรรมเนียมการสมัครรับเลือกตั้ง โดยมีรายละเอียดดังนี้ 1. คุณสมบัติของผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 1.1 มีสัญชาติไทยโดยการเกิด 1.2 ผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล ต้องมีอายุ ไม่ต่ำกว่า 25 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง สำหรับผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 35 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง 1.3 มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลที่สมัครรับเลือกตั้ง ในวันสมัครรับเลือกตั้ง เป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 1 ปี นับถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง 1.4 วุฒิการศึกษา • สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล ไม่ได้กำหนดวุฒิการศึกษา • ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ต้องสำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่ามัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า หรือเคยเป็นสมาชิกสภาตำบล สมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่น หรือสมาชิกรัฐสภา 2. ลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 2.1 ติดยาเสพติดให้โทษ 2.2 เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต 2.3 เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ 2.4 เป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้งตามพระราชบัญญัติ การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 39 (1) เป็นภิกษุ สามเณร นักพรตหรือนักบวช (2) อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งไม่ว่าคดีนั้นจะถึงที่สุดแล้วหรือไม่ หรือ (4) วิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ 2.5 อยู่ระหว่างถูกระงับการใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นการชั่วคราวหรือ ถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 2.6 ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล 2.7 เคยได้รับโทษจำคุกโดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึง 5 ปี นับถึงวันเลือกตั้ง เว้นแต่ ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ 2.8 เคยถูกสั่งให้พ้นจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจเพราะทุจริต ต่อหน้าที่หรือถือว่ากระทำการทุจริตหรือประพฤติมิชอบในวงราชการ 2.9 เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลอันถึงที่สุดให้ทรัพย์สินตกเป็น ของแผ่นดินเพราะร่ำรวยผิดปกติ หรือเคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุกเพราะกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2.10 เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม หรือกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยความผิดของพนักงาน ในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ หรือความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน กฎหมายว่าด้วยยาเสพติด ในความผิดฐานเป็นผู้ผลิต นำเข้า ส่งออก หรือผู้ค้า กฎหมายว่าด้วยการพนันในความผิดฐานเป็นเจ้ามือหรือเจ้าสำนัก กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือกฎหมายว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในความผิดฐานฟอกเงิน 2.11 เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำการอันเป็นการทุจริตในการเลือกตั้ง 2.12 เป็นข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำ 2.13 เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น 2.14 เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น หรือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ 2.15 เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หรือผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ 2.16 อยู่ในระหว่างต้องห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 2.17 เคยพ้นจากตำแหน่งเพราะศาลฎีกาหรือศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาว่าเป็นผู้มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ หรือกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง 2.18 ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่ากระทำความผิดตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้ง สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 ไม่ว่าจะได้รับโทษหรือไม่ โดยได้พ้นโทษหรือ ต้องคำพิพากษามายังไม่ถึง 5 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง แล้วแต่กรณี 2.19 เคยถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย หรือกฎหมายว่าด้วยการลงคะแนนเสียงเพื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น แล้วแต่กรณี มายังไม่ถึง 5 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง 2.20 อยู่ในระหว่างถูกจำกัดสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น ตามมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 หรือตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2.21 เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา หรือเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเดียวกันหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น 2.22 เคยพ้นจากตำแหน่งใด ๆ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพราะเหตุมี ส่วนได้เสียไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในสัญญาหรือกิจการที่กระทำหรือจะกระทำกับหรือให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น หรือมีส่วนได้เสียไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในสัญญาหรือกิจการ ที่กระทำกับหรือจะกระทำกับหรือให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น โดยมีพฤติการณ์แสดงให้เห็นว่าเป็นการต่างตอบแทน หรือเอื้อประโยชน์ส่วนตนระหว่างกัน และยังไม่พ้น 5 ปีนับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่งจนถึงวันเลือกตั้ง 2.23 เคยถูกสั่งให้พ้นจากตำแหน่งใด ๆ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพราะจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย กฎ ระเบียบของทางราชการ หรือมติคณะรัฐมนตรี อันเป็นเหตุให้เสียหาย แก่ราชการอย่างร้ายแรง และยังไม่พ้น 5 ปีนับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่งจนถึงวันเลือกตั้ง 2.24 เคยถูกสั่งให้พ้นจากตำแหน่งใด ๆ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพราะทอดทิ้งหรือละเลยไม่ปฏิบัติการตามหน้าที่และอำนาจ หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยหน้าที่ และอำนาจ หรือประพฤติตนฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน หรือมีความประพฤติในทางที่จะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียแก่ศักดิ์ตำแหน่ง หรือแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือแก่ราชการ และยังไม่พ้น 5 ปีนับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่งจนถึงวันเลือกตั้ง 2.25 ลักษณะอื่นตามที่กฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์การบริหารส่วนตำบลกำหนด 3. หลักฐานและเอกสารประกอบการยื่นใบสมัครรับเลือกตั้ง ให้ผู้สมัครยื่นใบสมัครต่อผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนตำบลพร้อมทั้งหลักฐานการสมัคร ดังนี้ 3.1 ใบสมัครรับเลือกตั้งตามแบบ ส.ถ./ผ.ถ. 4/1 3.2 รูปถ่ายหน้าตรงไม่สวมหมวก หรือ รูปภาพที่พิมพ์ชัดเจนเหมือนรูปถ่ายของตนเอง ขนาดกว้างประมาณ 8.5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 13.5 เซนติเมตร จำนวนตามที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนตำบลกำหนด 3.3 สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน 3.4 สำเนาทะเบียนบ้าน 3.5 ใบรับรองแพทย์ 3.6 หลักฐานการศึกษา 3.7 หลักฐานการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นเวลาติดต่อกัน 3 ปี (2565, 2566, 2567) นับถึงปีที่สมัครรับเลือกตั้ง เว้นแต่เป็นผู้ไม่ได้เสียภาษีเงินได้ ให้ทำหนังสือยืนยัน การไม่ได้เสียภาษี พร้อมทั้งสาเหตุแห่งการไม่ได้เสียภาษีตามแบบ ส.ถ./ผ.ถ. 4/2 4. ค่าธรรมเนียมการสมัครรับเลือกตั้ง 4.1 นายกองค์การบริหารส่วนตำบล 2,500 บาท 4.2 สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล 1,000 บาท ทั้งนี้ ผู้ใดลงสมัครรับเลือกตั้งโดยรู้อยู่แล้วว่าตนเป็นผู้ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกตั้ง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 – 200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี ตามมาตรา 120 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 และที่แก้ไขเพิ่มเติม สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหาร ส่วนตำบลและนายกองค์การบริหารส่วนตำบลได้ทางเว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง www.ect.go.th หรือ Application Smart Vote หรือสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประจำจังหวัดทุกจังหวัด หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บริการสายด่วน 1444

ปี69เดือด!เลือกตั้งทุกระดับ 'กกต.-ประชาชน'ตัดสินอนาคต

ปี 2569 กลายเป็นปีที่ท้าทายที่สุดสำหรับประชาธิปไตยไทย ด้วยการเลือกตั้งหลายระดับที่กระชั้นชิดกันอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ที่คาดว่าจะพ่วงด้วยการลงประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ และบันทึกความเข้าใจ (MOU)

กกต. ไม่มีปัญหาถ้าพรุ่งนี้ยุบสภา ก็พร้อมจัดการเลือกตั้ง-ทำประชามติ

เลขาฯกกต. กล่าวถึงความพร้อมการเลือกตั้งอบต. 11 ม.ค.2569 ว่า เราได้ตื่นตัวและสื่อสารไปยังพื้นที่ และหน่วยงานองค์การบริหารส่วนตำบลที่จะทำการเลือกตั้ง รวมทั้งถ้าจะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทน