
นายกฯ ไทย-เวียดนาม เป็นสักขีพยานแลกเปลี่ยนความตกลง 8 ฉบับ ครอบคลุมการค้า การลงทุน ป้องกันยาเสพติด พร้อมแถลงข่าวร่วมกันตอกย้ำมิตรภาพและความร่วมมือ
16 พ.ค.2568 - เมื่อเวลา 11.15 น. ที่ห้องโห่ย เจื่อง ทำเนียบรัฐบาลเวียดนาม กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ นายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ร่วมเป็นสักขีพยาน ในพิธีแลกเปลี่ยนความตกลงและเอกสาร ระหว่างไทยกับเวียดนาม จำนวน 8 ฉบับ ได้แก่
1.บันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม
ว่าด้วยความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้า
2.กิจกรรมส่งมอบงบประมาณสนับสนุน โครงการเสริมสร้าง และยกระดับความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการสกัดกั้น ยาเสพติดและทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดระหว่างประเทศ
3.บันทึกความเข้าใจระหว่างธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) กับธนาคารเพื่อการลงทุนและการพัฒนาแห่งเวียดนาม (Bank for Investment and Development of Vietnam: BIDV) เพื่อสนับสนุนสินเชื่อแก่ธุรกิจสีเขียวและอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสมัยใหม่
4.เอกสารแสดงเจตจำนงระหว่างมหาวิทยาลัยขอนแก่นกับ มหาวิทยาลัย FPT เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการฝึกอบรมเซมิคอนดักเตอร์
5.บันทึกความเข้าใจว่าด้วยโครงการความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์และการค้าเวียดนามกับ Central Group ในช่วงระหว่างปี ค.ศ. 2026 - 2028
6.บันทึกความเข้าใจระหว่าง WHA กับจังหวัดฮึงเอียน (Hung Yen)
7.การประกาศการอนุมัติใบอนุญาตการลงทุนของ WHA โดยจังหวัดทั้ญฮว้า (Thanh Hoa)
8.บันทึกความเข้าใจระหว่าง AMATA Vietnam กับจังหวัดฟู้เถาะ (Phu Tho)
จากนั้น น.ส.แพทองธาร กับนายกรัฐมนตรีเวียดนาม ได้แถลงข่าวร่วมกัน โดยน.ส.แพทองธาร กล่าวขอบคุณรัฐบาลเวียดนามในการต้อนรับที่อบอุ่น สำหรับการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก และได้ร่วมเป็นประธานการประชุม JCR ซึ่งถือเป็นกลไกเฉพาะระหว่างสองประเทศ โดยในการเยือนครั้งนี้ ไทยและเวียดนามได้ยกระดับความสัมพันธ์เป็น “หุ้นส่วนยุทธศาสตร์รอบด้าน” (Comprehensive Strategic Partnership) ซึ่งเป็นหมุดหมายสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในช่วงเวลาที่โลกกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอน
ในการหารือครั้งนี้ ผู้นำทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันในหลายประเด็นสำคัญ คือ การส่งเสริมการเยือนระดับสูงอย่างสม่ำเสมอ โดยนายกรัฐมนตรีได้เชิญผู้นำเวียดนามเข้าร่วมการประชุมผู้นำแม่โขง–ล้านช้างที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพในปลายปีนี้ รวมถึงการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตครบรอบ 50 ปีในปีหน้า
ทั้งสองประเทศยังเห็นพ้องกัน ที่จะเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคง โดยเฉพาะการต่อต้านยาเสพติด ขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ online scams การค้ามนุษย์ และการทำประมงผิดกฎหมาย ซึ่งนายกรัฐมนตรีไทยกล่าวถึงความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมในการสกัดกั้นสารเคมีตั้งต้น การปราบปรามขบวนการค้ายา และการแลกเปลี่ยนข่าวกรองเพื่อสกัดอาชญากรรมข้ามพรมแดน
ในด้านเศรษฐกิจ ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะเร่งส่งเสริมความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจระหว่างกัน ด้วยการจัดทำแผน “Three Connects” ครอบคลุมห่วงโซ่อุปทาน เศรษฐกิจท้องถิ่น และเศรษฐกิจสีเขียว โดยมุ่งบรรลุเป้าหมายการค้า 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐโดยเร็ว พร้อมผลักดันการประชุม Joint Trade Committee และอำนวยความสะดวกด้านสินค้าเกษตรและปศุสัตว์ รวมถึงอำนวยความสะดวกขนส่งสินค้าผ่านเวียดนามสู่ตลาดจีน โดยนายกรัฐมนตรีไทยยังได้ขอบคุณรัฐบาลเวียดนามที่ให้การสนับสนุนเอกชนไทยในเวียดนาม และยินดีต้อนรับนักลงทุนเวียดนามที่สนใจขยายธุรกิจในไทย
นายกรัฐมนตรียินดีที่ภาคเอกชนของทั้งสองประเทศจะได้มีโอกาสหารือในเวที Business Forum ไทย–เวียดนาม ที่จะมีขึ้นในช่วงบ่ายของวันนี้ ขณะที่ในด้านโลจิสติกส์และคมนาคม นายกรัฐมนตรีประกาศการเปิดเส้นทางบินตรงระหว่างเวียดนามกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ซึ่งจะเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศแรกของภาคตะวันออกเฉียงหนือกับเวียดนาม พร้อมส่งเสริมการเดินทางทางบกผ่าน สปป.ลาว และทางน้ำระหว่างไทย–กัมพูชา–เวียดนาม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการขนส่งและการท่องเที่ยวระหว่างกัน
ทั้งนี้ ทั้งสองประเทศยังเห็นพ้องที่จะยกระดับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจดิจิทัลและการชำระเงินข้ามแดน หรือคิวอาร์โค้ด พร้อมร่วมกันผลักดันการท่องเที่ยวระหว่างภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยกับเวียดนาม และส่งเสริมเส้นทางเรือสำราญระหว่างสิงคโปร์–ไทย–เวียดนาม
อีกทั้งยังจะเพิ่มความร่วมมือด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยเฉพาะในสาขา STEM, AI และเซมิคอนดักเตอร์ โดยนายกรัฐมนตรีไทยได้กล่าวชื่นชมความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย FPT ของเวียดนาม และมหาวิทยาลัยขอนแก่นของไทยในด้านอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง
ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำเจตจำนงในการผลักดันความร่วมมือในระดับอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงและอาเซียน เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของภูมิภาค และสนับสนุนบทบาทของอาเซียนในการสร้างสันติภาพ โดยเฉพาะในประเด็นเมียนมา พร้อมกล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีเวียดนามอีกครั้ง และหวังว่าจะได้ต้อนรับการเยือนประเทศไทยของผู้นำเวียดนามในโอกาสอันใกล้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตร.บางพลีบุกช่วยนศ. โดนแก๊งคอลฯอ้างเป็นDSI สูญเงิน 2 แสน
ตำรวจบางพลี บุกช่วยนักศึกษามหาวิทยาลัยดัง หลังโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก อ้างเป็นดีเอสไอ โอนเงินเกือบ 2 แสนบาท
รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ
อย่าลงทะเบียนผ่านเฟซบุ๊ก-ติ๊กต็อก-ไลน์ แนะ 3 ช่องทางขอเงินคืนจาก ปปง.
รัฐบาลย้ำ ปปง. ไม่มีระบบคุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย ทางเฟซบุ๊ก-ติ๊กต็อก-ไลน์ เตือน ปชช. อย่าหลงเชื่อลงทะเบียนขอรับเงินคืน แนะ 3 ช่องทางที่ถูกต้อง
บุกทลายแก๊งคอลฯ เช่าตึกแถวกลางเมืองมุกดาหาร ยึดซิมบ็อกซ์ คนร้ายไหวตัวหนีทัน
ชุดปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 4 ร่วมกับ ตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร เข้าตรวจค้นตึกแถวห้องหนึ่งบริเวณสถานีขนส่งจังหวัดมุกดาหาร สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเบาะแสจากสายลับว่าที่ตึกห้องแถวบริเวณสถานีขนส่งจังหวัดมุกดาหาร จ
EXIM BANK มอบเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก อุปกรณ์การศึกษา และอุปกรณ์กีฬา ให้แก่โรงเรียนบ้านปางห้วยตาด และโรงเรียนบ้านปางกว้าง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
นายชลัช รัตนบุญนิธิ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) และนายจักริน วังวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท ชาระมิงค์ จำกัด มอบเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก อุปกรณ์การศึกษา และอุปกรณ์กีฬา ให้กับโรงเรียนบ้านปางห้วยตาด และโรงเรียนบ้านปางกว้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้โครงการ “EXIM CSR Strong Synergizer”
กมธ.ความมั่นคง ชงหลายหน่วยงานสอบ 43 ชื่อบุคคล-บริษัท โยงสแกมเมอร์ข้ามชาติ
"โรม" เผยกมธ.ความมั่นคงเตรียมส่ง 43 รายชื่อให้ทางการสอบ-แบล็กลิสต์ห้ามเข้าประเทศ ไม่ท้อเรียก "นายกฯ-ธรรมนัส" แจงกรรมาธิการฯ


