สส.รักชนก ลั่นถ้า ปชน. มีอำนาจจะล้างบางทุจริตคอร์รัปชันให้หมดจากประเทศไทย

'รักชนก’ อัดงบฯ 69 ทุจริตภาครัฐทำสูญเงิน 5 แสนล้านต่อปี ชี้ งบลงทุนเปิดช่องโกง ทั้งสร้างตึก-ถนน-แหล่งน้ำการเกษตร เตือนชาวบ้านได้ สส.ฝั่งรัฐบาลไป อย่าหลงดีใจ เหตุโยกงบไปลงผู้รับเหมาหมด ท้า ไลฟ์สดห้องประชุม พร้อมเปิดเอกสาร

29 พฤษภาคม 2568 - น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม.พรรคประชาชน อภิปรายงบประมาณ 2569 ในหัวข้อการปฏิรูปงบประมาณ เพื่อป้องกันการคอร์รัปชั่น และป้องกันการทุจริตในภาครัฐ ว่า ส่วนแรกคือทำไมการจัดการปัญหาคอร์รัปชั่น จึงเป็นเรื่องเดียวกับนโยบายเศรษฐกิจ เพราะมีข้อมูลว่าการคอร์รัปชั่นในภาครัฐสูงถึง 5 แสนล้านบาทต่อปี และงบก้อนใหญ่ที่สุดในการทุจริตคอร์รัปชั่นคือการจัดซื้อจัดจ้างซึ่งมีการคอร์รัปชั่นมูลค่าสูงสุด 2-3 แสนบาท

โดยเฉพาะในงบลงทุนที่เป็นงบก้อนใหญ่ในการจัดซื้อจัดจ้าง เราจะเห็นจากตามหน้าข่าวว่าการคอรัปชั่นจะเกิดขึ้นจากงบก่อสร้าง รวมถึงคุรุภัณฑ์ต่างๆ ตนไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังหรือไม่ ที่กำหนดสัดส่วนรายจ่ายลงทุนต้องมีสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 20% ของงบประมาณแผ่นดิน ซึ่งเป็นความตั้งใจอันดีที่จะกำหนดไว้ เพราะการลงทุนกับโครงสร้างพื้นฐานเป็นประโยชน์ทางเศรษฐกิจ การจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐทำให้เงินหมุนเวียนในเศรษฐกิจซึ่งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยตัวเองอยู่แล้ว หากมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดีประเทศจะสามารถเดินหน้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่แม้ว่าเราจะมีรายจ่ายลงทุนมากขนาดนี้มาหลายปี แต่ทำไมโครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจยังไม่เป็นอย่างที่หวัง คำตอบคือการคอรัปชั่นในภาครัฐที่เกิดขึ้น ซึ่งไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่งบประมาณต่างๆจะปรากฏอยู่ในสส.เขตฝั่งรัฐบาล

“ประชาชนอย่าหลงดีใจว่าท่านได้สส.เขตอยู่ฝั่งรัฐบาลจะมีงบประมาณมาลงแล้วบ้านท่านจะพัฒนา เพราะเขาไม่ได้โยกงบลงมาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตท่าน แต่เขาโยกงบไปลงให้กับผู้รับเหมาในเครือข่ายตัวเอง แล้วสิ่งที่ท่านได้อาจจะไม่ใช่ความเจริญ แต่เป็นถนนกากๆ ฟุตบาทห่วยๆ ที่สร้างให้ดีไม่ได้เพราะต้องหาเรื่องทุบทำใหม่”น.ส.รักชนก กล่าว

เช่นเดียวกับตึกหน่วยงานราชการที่ถูกทิ้งร้างมีทุกจังหวัดของเก่าไม่สร้างหาสร้างใหม่ไปเรื่อย บางจังหวัดมีงบประมาณบริหารจัดการน้ำลงทุกปีโดยเฉพาะจังหวัดที่มีรัฐมนตรีอยู่ แต่ท่วมและแล้งแบบหัวปีท้ายปีเป็นไปได้อย่างไร ทั้งที่มีงบไปลงทุกปี และไม่นานโครงการพวกนี้ก็จะสลายหายไปกับน้ำ แล้วปีหน้าจะต้องตั้งงบมาทำใหม่ ข้อมูลดัชนีคอรัปชั่นของประเทศไทยตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมาเราถูกเพื่อนบ้านแซงไปหลายเรื่องเพราะไม่ว่าโลกนี้จะเปลี่ยนแปลงไปยังไงก็แล้วแต่ประเทศไทยไม่เคยมีรัฐบาลที่มีเจตจำนงในการจัดการปัญหาทุจริตคอรัปชั่น

ในการหาส่วนต่างจากงบประมาณสามารถแบ่งออกได้เป็น5กลุ่มในการจัดซื้อจัดจ้างคือ 1.การเพิ่มโครงการ รายการที่ไม่จำเป็น 2.การซื้อของแพงเกินราคา 3.การล็อกสเปค 4.การประมูล และ5.การแก้ไขสัญญา ซึ่งตนขอเสนอ การปฏิรูปกระบวนการงบประมาณเพื่อป้องกันปัญหาทุจริตและลดคอรัปชั่น

มีขั้นตอนคือกระบวนการเตรียมคำของบประมาณ รัฐบาลต้องกำหนดกรอบงบประมาณให้แต่ละกระทรวง โดยให้หน่วยงานของบประมาณภายใต้กรอบเพื่อจัดสรรด้วยตัวเองเพื่อให้มีผู้รับผิดชอบชัดเจน เมื่อใช้งบแล้วไม่บรรลุวัตถุประสงค์ ผู้รับผิดชอบคือรัฐมนตรีเจ้ากระทรวง ส่วนสำนักงบประมาณเปลี่ยนหน้าที่จากคนเลือกโครงการมาเป็นผู้วัดผลแทน โครงการไหนที่ทำแล้วประเทศยังเหมือนเดิมต้องทบทวน และส่งความคิดเห็นให้หน่วยงานเลิกทำโครงการ

ส่วนขั้นตอนที่ 2 กระบวนการพิจารณางบประมาณ สำนักงบประมาณจะต้องเปิดข้อมูลคำของบประมาณ ของทุกโครงการที่หน่วยรับงบประมาณส่งมาขอเงินจากท่าน ให้เห็นไปเลยว่ารายละเอียดสร้อยในโครงการเป็นอย่างไร ข้อมูลหลายชิ้นขอซื้ออะไรบ้าง เปิดออกสาธารณะเพื่อให้ประชาชนได้เห็น แค่เปิดประเทศก็เปลี่ยน

“เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา สส.พริษฐ์ ได้เปิดเผยคำของบประมาณของรัฐสภา ต้องเรียกว่าเป็นมิติใหม่เพราะปกติต้องรอให้เขากินให้เสร็จก่อน แบ่งกันให้เสร็จก่อน แล้วค่อยมาจับได้ที่หลัง แต่อันนี้ผิดแต่ยังไม่ได้ใช้งบประมาณ จนทำให้ประชาชนหูตาสว่างว่ารัฐสภาอันทรงเกียรติแห่งนี้ใช้งบทำของอย่างไม่จำเป็นเช่นห้องดูหนัง4มิติ ซ่อมของที่ยังไม่ได้พังอย่างห้องประชุมงบประมาณ สร้างของที่ไม่มีใครเคยได้ใช้ประโยชน์อย่างศาลาแก้ว และจะทุ่มเทงบประมาณอย่างมหาศาลไปเพื่อกลบเกลื่อนความผิดที่ตัวเองทำผิดกฎหมายอย่างที่จอดรถ ดังนั้น ตนจึงเสนอเปิดให้ประชาชนและภาคประชาสังคมเห็นเลย ตั้งแต่ต้นปีและดูไส้ในทุกโครงการ ส่องให้เห็นทุกซอกทุกมุมว่า หน่วยงานไหนขอเงินมาทำอะไรบ้าง”น.ส.รักชนกกล่าว

รวมทั้งขอให้มีการถ่ายทอดสด การประชุมกรรมธิการงบประมาณ รวมถึงอนุกรรมาธิการ และขอให้เปิดเอกสารที่ไม่ตีลับของกรรมาธิการและอนุกรรมาธิการงบประมาณทุกชุด สส.ได้เอกสารแบบไหนประชาชนต้องสามารถโหลดและเอกสารแบบเดียวกันได้ แต่ก็ได้รับเหตุผลว่าจะไปพาดพิงคนที่สาม หรือจะกลัวเพราะเคยมีกรณีที่สส.รีดไถเงินอธิบดีในกรรมธิการงบนอกจากนั้นตนยังเสนอให้สภาท้องถิ่นมีการไลฟ์สดกรรมการงบเช่นเดียวกัน

ในส่วนของกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง คือให้ทำแพลตฟอร์มเหมือนแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ขายสินค้ามีการเปรียบเทียบราคา ทำให้การหาส่วนต่างหายไป โดยหน่วยงานของรัฐสามารถเลือกได้อย่างเรียลไทม์ ตนเข้าใจว่ากรมบัญชีกลางกำลังพัฒนาแพลตฟอร์มที่คล้ายกันอยู่แต่ก็มีความกังวลว่าจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการล็อคสเปค

รวมทั้งขอให้เปิดเผยข้อมูล API ระบบ e-GP เปิดAPI ข้อมูลผู้ถือหุ้นของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมดในระบบDBD ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดAPI ข้อมูลผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐทั้งหมดจากฐานข้อมูลของกพ. และเปิดข้อมูลบัญชีทรัพย์สินข้าราชการระดับสูงและนักการเมือง เพื่อทำRed Flag จับโครงการที่น่าสงสัยที่เสี่ยงต่อการฮั้วประมูล ล็อคสเปค รวมถึงโครงการที่ข้าราชการนักการเมืองมีเอี่ยว และขอให้กรมบัญชีกลางเปิดเผย ข้อมูลการบริหารสัญญาโดยให้กำหนดรหัสเดียวตั้งแต่เริ่มโครงการโดยให้ประชาชนสามารถเข้าไปตรวจสอบผ่านช่องทางออนไลน์

น.ส.รักชนก กล่าวว่า ข้อเสนอในการสอบทานคือปฏิรูป สตง. และสำนักงบประมาณ ซึ่งมีหน้าที่ที่เหมาะสมคือการวัดผลโครงการที่ถูกใช้งบประมาณไปเมื่อปีก่อนเพื่อประกอบการจัดสรรงบประมาณในปีถัดไป หากโครงการไหนที่ทำไปแล้วไม่มีผลสัมฤทธิ์หรือพบว่ามีการทุจริตสำนักงบประมาณต้องไม่ปล่อยให้เกิดขึ้นอีก ส่วนสตง.ควรเป็นเสาหลักในการทำงบประมาณให้ถูกต้องและคุ้มค่ามีประสิทธิภาพ รวมถึงให้ความรู้แก่หน่วยงบประมาณ เพื่อให้ใช้งบประมาณได้อย่างคุ้มค่าและป้องกันการทุจริตคอรัปชั่น

สุดท้ายการทุจริตและคอร์รัปชั่น นางสาวรักชนก ยืนยันว่า มันป้องกันได้ และตนเชื่อว่าประชาชนในประเทศนี้ ไม่ว่าจะเป็นอนุรักษ์นิยมหรือเสรีนิยมไม่มีใครที่ชอบเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่น ทุกท่านรู้ว่ามันเป็นสิ่งที่เลวร้าย และถ่วงความเจริญก้าวหน้าของประเทศไทยและเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับให้เกิดขึ้นได้ในประเทศนี้ ตั้งแต่ตนเกิดมาก็ถูกเสี้ยมสอนอะไรหลายๆ อย่างตั้งแต่โตไปไม่โกง สอนกันมาตั้งแต่เด็กๆ แต่พอดิฉันโตมาถึงได้รู้ว่าไอ้พวกที่พยายามจะเสี้ยมสอนเด็กๆ นั่นแหล่ะ โกงกันฉิบหายคอร์รัปชั่นกันทุกระดับ ตั้งแต่ของใหญ่ ๆ

อย่างตึก อาคาร ถนน แหล่งน้ำเพื่อการเกษตร ไปจนถึงอาหารกลางวันและนมโรงเรียน ถามว่าประเทศไทยเราจะจัดการปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นได้จริงหรือไม่ คำตอบคือทำได้แต่มันต้องเป็นรัฐบาลที่มีเจตจำนงมาทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชนจริงๆ สิ่งที่ตนพูดมาทั้งหมดนี้ มันไม่ได้วิเศษวิโสหรือวิลิศมาหราอะไรเลย มันไม่ได้ไกลเกินสมองของรัฐมนตรีที่นั่งอยู่ทั้งหมดในสภาแห่งนี้จะคิดได้ แต่ถามว่าพวกเขารู้ทุกอย่างแต่ทำไมพวกเขาไม่จัดการ ก็เพราะว่าจัดการแล้วจะกอบโกยเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง จะหาประโยชน์เข้าพวกพ้องตัวเองได้อย่างไร

“วันนี้คนที่ดิฉันอยากสื่อสารมากที่สุดคือประชาชนที่อยู่ทางบ้าน ตนกล้าพูดว่าถ้าพวกเราพรรคประชาชนมีอำนาจ พวกเราทำได้ พวกเราจะสร้างระบบงบประมาณที่ทำให้ภาษีทุกบาททุกสตางค์ของท่าน ถูกใช้อย่างคุ้มค่า ถูกใช้เพื่อพัฒนาทุกชีวิตในประเทศนี้ให้มีโอกาสได้เข้าถึงศักยภาพสูงสุดของตัวเอง และก่อนที่เราจะลดคอร์รัปชันได้เราจะต้องมีรัฐบาลที่มันจริงจังก่อน ดังนั้นตนจึงไม่สามารถโหวตรับร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ได้ นอกจากพวกเราจะล้างบางพวกทุจริตคอร์รัปชั่นให้หมดประเทศก่อน”น.ส.รัชนก กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'วันนอร์' นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้รัฐธรรมนูญ วาระ 2

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ได้มีคำสั่งให้นัดประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ ระหว่างวันที่ 10 ธ.ค. และ ครั้งที่2 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ วันที่ 11 ธ.ค. เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่..) พ.ศ... ในวาระสอง ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.)

'ไอซ์' เดือด! ถอนหงอก 'ทูตนอกแถว' ปม 'ลิซ่า' ลงช่วยหาดใหญ่หรือทำคอนเทนต์

“ไอซ์ รักชนก” โดดป้อง “ลิซ่า” หลังถูกหาว่าช่วยน้ำท่วมไม่จริง ซัด เดือด “รัศม์ ชาลีจันทร์” สมชื่อ “ทูตนอกแถว” มองข้ามวิกฤตหาดใหญ่ แต่กลับจับผิดผู้หญิงตัวเล็กที่ลุยน้ำช่วยชาวบ้านทั้งสัปดาห์

'ชลน่าน' คาดถกแก้ รธน. วาระสอง ใช้เวลา 2 วันพอ แม้มีประเด็นให้เถียงกันหนัก

“ชลน่าน” ประเมิน ถกแก้รธน.วาระสอง 2 วันเพียงพอ แม้มีรายละเอียดมาก- ถกกันหนัก แต่ยุติด้วยเสียงข้างมาก เผยสงวนความเห็นไปสู้ในรัฐสภา ทวงคืน “สสร.- โละสูตร20 หยิบ1

ครม. เห็นชอบ พ.ร.ฎ.เรียกประชุมสภาสมัยวิสามัญ 10-11 ธ.ค. ลุยแก้ รธน. ให้เสร็จทันสิ้นปี

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาเรียกสมัยประชุมวิสามัญ รัฐสภา ในวันที่ 10-11 ธ.ค. เพื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 2 และวาระ 3

'ชูวิทย์' การันตี 'ไอซ์ รักชนก' บริจาคเงิน 2 แสนเข้าพรรคตัวเองเป็นเรื่องปกติ

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์เฟซบุ๊กว่า ประเทศแห่งการร้องเรียน การตรวจสอบร้องเรียน จะเอากันไปหมดทุกเรื่องไม่ว่าเล็กๆ น้อยๆ