"สว.นันทนา" ซัดสว.เสียงข้างมาก 125 เสียง ฝืนใจปชช. เดินหน้าลงมติเลือกองค์กรอิสระ ท่ามกลางคดีฮั้วสว. หวั่นผลประโยชน์ทับซ้อน ทนายอั๋นลั่น ล็อตต่อไป ถึงคิวเจ้ใหญ่เมืองอำนาจ ลูกเทพถึงคิว ยื่นป.ป.ช.-ศาลรธน. สกัดจริยธรรม
30 พฤษภาคม 2568 - เวลา 13.25 น. ที่รัฐสภา น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว. แถลงภายหลังที่ประชุมวุฒิสภามีมติไม่เห็นด้วยที่จะชะลอการพิจารณาตามญัตติชะลอการตั้งคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ รวมทั้งให้ความเห็นชอบกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จนกว่ามีคำตัดสินในคดีที่สมาชิกวุฒิสภาจำนวนมากตกเป็นผู้ถูกร้องและผู้ร้องขณะนี้ ว่า ผลการลงมติในการชะลอการลงมติเห็นชอบองค์กรอิสระและการตั้งกรรมาธิการวิสามัญเพื่อตรวจสอบคุณสมบัติผู้ดำรงตำแหน่งองค์กรอิสระในวันนี้ ซึ่งเสียงข้างมากสามารถทำให้ญัตตินี้ตกไปด้วยเสียงจำนวน 125 เสียง ซึ่งถือว่าเป็นเสียงข้างมากที่ใช้ในการลงมติโดยปกติทั่วไป ไม่ว่าเสียงข้างน้อยของสว.จะอภิปรายด้วยหลักการด้วยเหตุผลที่สมเหตุสมผลเพียงใด แต่ก็ไม่อาจที่จะโน้มน้าวให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกระบวนการการลงมติ และที่สำคัญประชาชนจำนวนมากไม่ต้องการให้สว.ลงมติเพื่อที่จะดำเนินการเลือกองค์กรอิสระในวันนี้ซึ่งมีถึง 7 ตำแหน่ง โดยจะเป็นสถานะขององค์กรอิสระไปอย่างสิ้นเชิง ทั้งนี้ สว.เสียงข้างมากก็ไม่ได้สนใจ ไม่เห็นหัวประชาชน ยังเดินหน้าเลือกองค์กรอิสระ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ฝืนความรู้สึกประชาชนและทำให้กระบวนการองค์กรอิสระบิดเบี้ยวไปหมด โดยสว.เสียงข้างน้อยได้อภิปรายและแสดงเหตุผลว่าเพราะอะไรที่ไม่ควรที่จะเลือกองค์กรอิสระ เนื่องจากเป็นประโยชน์ทับซ้อน
“เมื่อคู่กรณีนั่นคือสว.ไปลงมติเลือกองค์กรอิสระซึ่งจะมาตัดสินคดีของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นกกต. ป.ป.ช. หรือศาลรัฐธรรมนูญย่อมเกิดการบิดเบี้ยวของกระบวนการดังกล่าว จึงขอแสดงความเสียใจกับประชาชนว่าสว.เสียงข้างมากเดินหน้าที่จะเห็นชอบองค์กรอิสระต่อไป และขอฟ้องประชาชน การทำหน้าที่ของสว.เสียงข้างมากนั้นเหมาะสมหรือไม่” น.ส.นันทนา กล่าว
ด้านน.ต.วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ สว. กล่าวว่า ในนามสว.เสียงข้างน้อย 30 คน เราพยายามทำเต็มที่แล้ว เราพยายามบอกว่าขอเลื่อนการพิจารณาออกไปก่อนเพื่อให้ผู้ที่ตรวจสอบเราดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1-2 เดือน แต่สุดท้ายแล้วก็ได้เท่านี้ ขั้นตอนต่อไปประชาชนจะต้องพิจารณาเอาเอง
นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น บุรีรัมย์ กล่าวว่า หลังแถลงข่าวเสร็จตนจะไปยื่นต่อ ป.ป.ช.ตรวจสอบจริยธรรมของสว.ที่ลงมติว่ามีจริยธรรมในการลงมติหรือไม่ และผลที่สว.เหล่านั้นได้กระทำไปชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และเรื่องการขัดกันของผลประโยชน์ตามกฎหมาย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการกระทำของพวกคุณในวันนี้และวันหน้า นอกจากนี้ ในสัปดาห์หน้าตนจะยื่นต่อนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ในมาตรา 113 ของรัฐธรรมนูญ และสุดท้ายจะยื่นต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน
“พวกคุณทั้งหลายไปให้สุด ขาข้างหนึ่งติดคุกไปแล้ว วันนี้กกต. ดีเอสไอออกมาเรียกในล็อตที่ 5 แล้วและล็อตที่ 6 ผมบอกเลยว่าเป็นเจ้ใหญ่เมืองอำนาจ ล็อตที่ 7 บรรดาลูกเทพทั้งหลาย และล็อต 8 เจ้าพ่อเขากระโดงโดนแน่” ทนายอั๋น กล่าว
เมื่อถามว่า สว.เสียงข้างน้อยมีจำนวน 40 คน แต่ทำไมสว.เหล่านี้จึงไม่ร่วมลงชื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญ น.ส.นันทนา กล่าวว่า กระบวนการวันนี้เป็นแค่การชะลอ การลงมติ ไม่ได้มีผลไปกล่าวโทษหรือส่งผลกระทบต่อผู้ที่ทำหน้าที่ แต่ญัตติที่ตนเสนอไปที่ต้องการสว. 20 คนคือ 1 ใน 10 เป็นเรื่องตามมาตรา 82 คือการถอดถอนก่อนแล้วจึงขอให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ จึงเป็นยาแรงที่ส่งผลกระทบต่อผู้ที่ร่วมลงชื่อจึงมีผู้ร่วมลงชื่อไม่ครบตามจำนวน การชะลอตรงนี้เมื่อสว.ทั้งหลายที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาได้รับการพิพากษาว่าบริสุทธิ์ เขาก็สามารถกลับมาทำหน้าที่ต่อไป ฉะนั้น สว.เสียงข้างน้อยมองว่าเป็นมาตรการที่เหมาะสม
เมื่อถามว่า มั่นใจได้อย่างไรว่าสว. 37 คนที่ลงมติเห็นชอบให้ชะลอการเลือกองค์กรอิสระจะอยู่รอดปลอดภัย น.ต.วุฒิพงศ์ กล่าวว่า ไม่ปลอดภัย ทุกวันนี้เราเสี่ยงค่อนข้างสูง เพราะเขาอาฆาตมาดร้ายเราแล้ว ส่วนการทำงานต่อไปของสว.เสียงข้างน้อยค่อนข้างยากลำบาก อย่างไรก็ตาม หากกกต. และดีเอสไอจะทำงานล่าช้าคิดดูแล้วกันว่าจะเกิดผลกระทบอะไรกับเสียงข้างน้อย โดนกันหมดทุกฝ่าย ทำงานลำบาก
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า กลุ่ม สว.เสียงข้างมาก เริ่มน้อยลงนั้น น.ต.วุฒิพงศ์ และน.ส.นันทนา เห็นตรงกันว่า ขณะนี้เริ่มมีปฏิกิริยาจาก สว.เสียงข้างมาก ที่วันนี้มีการลาถึง 25 คน เพราะถูกแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้ว จึงคิดว่าไม่มาเสียดีกว่า ส่วน สว.เสียงข้างน้อย ก็มีหายไปเช่นกัน ซึ่งเป็นพวกที่กลัว เพราะอาจมีปัญหาในการทำงาน วันนี้ทุกคนหวั่นเกรงต่อประชาชน แม้จะไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน เพราะประชาชนกว่า 80-90% ไม่เห็นชอบ
“บางคนไปตลาดถูกถามว่าเป็น สว.หรือไม่ จะไม่ขายของให้ อีกทั้งถูกญาติพี่น้องสอบถามว่าเหตุใดจึงไม่ร่วมลงชื่อถอดถอน สว. ซึ่งเป็นเรื่องลำบากที่จะทำให้อยู่อย่างปลอดภัย และเมื่อฟังการอภิปรายในห้องประชุม ผมก็น้ำตาไหล สงสารตัวเอง สงสารประชาชน วันนี้จึงตัดสินใจลงมาชี้แจงกับประชาชนว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ตอนนี้ผมไม่กลัวแล้ว แต่ขอยอมรับว่าก่อนหน้านี้เคยกลัว วันนี้ความกลัวเปลี่ยนเป็นความกล้าแล้ว อย่าขู่มาก ผมเป็นอดีตทหาร หากเจอขู่มากแล้วจะกล้า กล้าแล้วบ้าบิ่นด้วย หลายคนก็เป็นเพื่อนกันมา แต่วันนี้เขาบอกว่าไม่อยากพูดกับผม ไม่อยากมองหน้า แต่ก็ไม่เป็นอะไร ผมมองหน้าประชาชนได้ มองหน้าสื่อมวลชนได้ ไม่ละอายใจ แหงนหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายดิน ถ้าทำงานไม่ได้ ไม่สนุก อย่างมากก็กลับไปอยู่บ้านเลี้ยงหลาน วันนี้อายุ 64 ปีแล้ว” น.ต.วุฒิพงศ์ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มาดุ! 'บิ๊กเกรียง' ฉะคนปล่อยเฟคนิวส์ หาน้ำท่วมใต้คนตายเป็นพัน น่าจะเอาหัวเสียบประจาน
'บิ๊กเกรียง' รับมอบของบริจาคช่วยอุทกภัย ฉะ คนปล่อยเฟคนิวส์ หาว่าน้ำท่วมใต้คนตายเป็นพัน น่าจะหัวเสียบประจาน ถามเอาจากไหนมาพูด บอก เสียหาย ถ้าเล่นการเมืองกัน ทำขวัญของประชาชนตกต่ำ ให้กำลังใจ 'นายกฯอนุทิน-รัฐบาล' เชื่อทำตามแผนฟื้นฟู-เยียวยาอยู่แล้ว
ศาลสั่งจำคุก 4 ปี 'สว.ธนกร' คดีลักทรัพย์คนตายจากอุบัติเหตุ
ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้อ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการยื่นฟ้อง นายธนกร ถาวรชินโชติ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ซึ่งในขณะนั้นเพียงผู้ที่ทำธุรกิจประมง เเละนายอภิชัย หมู่มาก จำเลยที่ 1 เเละ2 ฐานลักทรัพย์ของผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ มูลค่าความเสียหายกว่า 1.5 ล้านบาท
อย่าประมาท 'บุรีรัมย์โมเดล' หลังพยานกลับคำ 'คดีฮั้ว สว.'
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า คดีฮั้ว สว. อย่าประมาท กรณีพยานกลับคำ
เดือด! ชิง 'ปธ.กกต.คนใหม่' หึ่งน้ำเงินดัน 'อดีตผู้ว่าฯ' สายตรงบ้านใหญ่ เจอ 'สายศาลฎีกา' ฮึดสู้
ศึกชิงเก้าอี้ปธ.กกต.คนใหม่เดือด หลังลือสะพัด สีน้ำเงินดันอดีตผู้ว่าฯ สายตรงบ้านใหญ่ ไปนั่งคุม 7 เสือกกต. แต่สายศาลฎีกาฯฮึดสู้ ตั้งป้อมสกัด วัดใจโค้งสุดท้าย ใครถอย-ใครลุย พบสองงานสำคัญรออยู่ คุมเลือกตั้งปีหน้า-ลงมติคดีฮั้วสว.
เคาะแล้ว! กติกา-ที่มา '35 อรหันต์' ยกร่าง รธน.ใหม่
'กมธ.แก้รัฐธรรมนูญ' เคาะที่มา 'กมธ.ยกร่าง รธน.ใหม่' จากการสมัครผ่าน กกต. พร้อมกำหนดกติกา ก่อนส่งให้รัฐสภาเลือกผ่านสูตร '20 หยิบ 1' ปัดเอื้อพรรคเสียงข้างมาก ยันครอบงำไม่ได้
ศาลแขวงดุสิต พิพากษา ยกฟ้อง 'สว.นันทนา' ไม่ผิดคดีหมิ่นประมาทคนขายหมู
เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน ที่ศาลแขวงดุสิต ศาลพิพากษายกฟ้องคดีหมายเลขดำที่ อ 562/2568 ในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ว่า น.ส.นันทนา นันทว


