นักกฎหมายมหาชน เตือน รัฐบาลแพทองธาร เสี่ยงซ้ำรอย “เศรษฐา” หากเดินหน้าดันชื่อ “ธรรมนัส” เข้าครม. ชี้คำวินิจฉัยศาลรธน.กรณีเดิม ไม่ได้ตัดสินเนื้อหา จึงไม่เป็นบรรทัดฐานในการตั้งรัฐมนตรีได้
7 มิถุนายน 2568 – จากกรณี ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยไม่รับคำร้อง ในคดีที่มีผู้ร้องให้ตรวจสอบ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าการแต่งตั้ง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกฯ นั้น ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่
ล่าสุด ”ดร.ณัฏฐ์” หรือ ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชนคนดัง ได้ให้ความรู้ทางกฎหมายมหาชนเพื่อประโยชน์สาธารณะ โดยระบุว่า มีผู้สอบถามเป็นจำนวนมากว่า ผลคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องดังกล่าวจะกลายเป็นบรรทัดฐานเปิดทางให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แต่งตั้ง ร.อ.ธรรมนัส เป็นรัฐมนตรีอีกครั้งในโควต้าพรรคกล้าธรรมหรือไม่
ดร.ณัฏฐ์ ชี้แจงว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ ไม่รับคำร้อง ในกรณีนี้ มีเหตุผลทางกฎหมาย 2 ประการหลัก คือ
(1) ผู้ร้องใช้ช่องทาง รัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรคหนึ่ง ซึ่งกำหนดให้ เฉพาะ ส.ส. หรือ ส.ว. เท่านั้นมีสิทธิยื่นคำร้อง ศาลจึงไม่รับพิจารณา เพราะผู้ร้องไม่มีสถานะตามที่กำหนด
(2) ศาลยังไม่ได้วินิจฉัยในเนื้อหาแห่งคำร้อง จึงไม่มีการวินิจฉัยเป็นบรรทัดฐานว่า การแต่งตั้ง ร.อ.ธรรมนัสในสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญหรือไม่ การไม่รับคำร้องในครั้งนี้จึง ไม่อาจถือเป็นบรรทัดฐาน ที่จะนำไปอ้างในกรณีอื่นได้
ซึ่งแตกต่างจากกรณีคำวินิจฉัยที่ 21/2567 นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีการชี้ชัดว่าการแต่งตั้ง นายพิชิต ชื่นบาน ของนายเศรษฐา ทวีสิน ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญมีความซื่อสัตย์ไม่สุจริตเป็นประจักษ์ และมีพฤติกรรมฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ส่งผลให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ดร.ณัฏฐ์ อธิบายเพิ่มเติมว่า กรณีนี้ ผู้ร้องไม่ได้มีสถานะตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด จึงไม่มีอำนาจยื่นคำร้องไม่ได้ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 170 วรรคสาม ทั้งยังไม่เข้าข่ายที่ กกต.สามารถยื่นแทนได้ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคท้าย ประกอบมาตรา 170 วรรคสาม เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ พ้นตำแหน่งไปแล้ว การวินิจฉัยจึงไม่มีผลต่อเนื้อหา และไม่ถือเป็นการตีความว่า พล.อ.ประยุทธ์เคยฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญหรือไม่ในประเด็นแต่งตั้ง ร.อ.ธรรมนัส
หากรัฐบาลแพทองธาร เสนอชื่อ ร.อ.ธรรมนัส อีกครั้ง จึงไม่สามารถอ้างคำวินิจฉัยเดิมเป็นเกราะป้องกันได้ และอาจเข้าข่ายฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4)(5) ซึ่งกำหนดให้รัฐมนตรีต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตและไม่มีพฤติกรรมฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง
โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับกรณีนายเศรษฐา ซึ่งแต่งตั้งบุคคลที่เคยมีคดีละเมิดอำนาจศาล และถูกศาลตัดสินจำคุก จนศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่าขัดต่อคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี และนำไปสู่การพ้นจากตำแหน่ง
ดร.ณัฏฐ์ ยังกล่าวถึงประเด็นที่ว่า ร.อ.ธรรมนัสเคยต้องคำพิพากษาในต่างประเทศ ว่า กฎหมายไทยมองเพียงพฤติกรรมในราชอาณาจักรในแง่คุณสมบัติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160(6) ประกอบมาตรา 98 ตามหลักดินแดน แต่หากเป็นกรณีจริยธรรมร้ายแรง (มาตรา 160(5)) ไม่จำกัดเขตดินแดน จึงอาจ เข้าข่าย “จริยธรรมสากล” ได้เช่นกัน
หากนายกรัฐมนตรีรู้หรือควรจะรู้ หรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง แต่ยังคงเสนอชื่อบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามดังกล่าว ส่งผลกระทบโดยตรงต่อตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเอง เช่นเดียวกับ กรณีที่ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน อยู่ระหว่างถูก ปปช.-กกต. ตรวจสอบปมซุกหุ้น -เป็นกรรมการบริษัทของตนเอง จนอาจกระทบถึงผู้เสนอแต่งตั้งด้วย
ดร.ณัฏฐ์ ยังตั้งข้อสังเกตว่า มาตรา 160(5) ที่ว่าด้วย “จริยธรรมร้ายแรง” นั้น มีนิยามที่กว้างมาก และหากเข้าข่ายอาจนำไปสู่กระบวนการ เพิกถอนสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต ตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 235 วรรคหนึ่ง(1)และวรรคสี่ โดยผ่านกระบวนการไต่สวนของ ป.ป.ช. และส่งให้ศาลฎีกาฯ พิจารณา ซึ่งต่างจากศาลรัฐธรรมนูญที่ไม่มีอำนาจเพิกถอนสิทธิ
อย่างไรก็ดี หากรัฐบาลยังเดินหน้าผลักดัน ร.อ.ธรรมนัส โดยไม่ระวังความเสี่ยงเชิงกฎหมาย ก็อาจ เปิดช่องให้เกิดการร้องถอดถอนนางสาวแพทองธารฯ นายกรัฐมนตรี ตามแนวคำวินิจฉัยที่เคยเกิดขึ้นแล้วกับรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กล้าธรรมเชิญ ‘ปวีณา’ ร่วมทัพ นั่งประธานที่ปรึกษาความยุติธรรม
พรรคกล้าธรรม ดึงอดีต สส.หญิงนักทำงานสังคม ร่วมขับเคลื่อนนโยบายคุ้มครองเด็กและสตรี พร้อมลง สส.บัญชีรายชื่อ ชูประสบการณ์กว่า 30 ปี ทำงานจริงในภาคสนาม
‘เอก จาตุรันต์’ สมัครสส. สมุทรปราการ เขต 1 ชูคนพื้นที่ แก้ปัญหาแรงงาน
ผู้สมัคร สส. เขต 1 พรรคกล้าธรรม ประกาศขอทำงานจริง แก้ปัญหาปากท้อง ความปลอดภัย และน้ำท่วม ย้ำไม่ขายฝัน แต่ขอพิสูจน์ด้วยผลงาน
'อนุดิษฐ์' นำทัพ 'กล้าธรรม' ขึ้นรถสไลด์ เข้าสมัคร สส.กทม. 33 เขต
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ประธานยุทธศาสตร์พรรคกล้าธรรม ได้นำว่าที่ผู้สมัคร สส.กทม.ทั้ง 3
กังขา 'ปชน.' ไม่จับมือ 'กธ.' แต่จับมือ 'พท.' แม้ 'ทักษิณ-ประเสริฐ' แนบแน่น 'เบน สมิธ'
นายไทกร พลสุวรรณ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน โพสต์ข้อความผ่าน เฟซบุ๊กระบุว่า พรรคประชาชนไม่จับมือตั้งรัฐบาลกับพรรคกล้าธรรม เพราะ ธรรมนัส สนิทกับ เบนสมิธ

