2 สส.ไทยสร้างไทยร่วมทัพ 'อนุทิน' ลงพื้นที่

“อนุทิน”  ลงพื้นที่อุดรธานี  2 สส.ไทยสร้างไทย มาร่วมคณะตามคาด หลังสะพัดเตรียมร่วมงานภท.

15 มิ.ย.2568 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในระหว่างที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย  ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย แล สส.พรรคภูมิใจไทย ในพื้นที่ อุดรธานี เพื่อตรวจ และติดตามงานในราชการ 
โดยในช่วงเช้า ในระหว่างลงพื้นที่ อำเภอศรีธาตุ มีนายอดิศักดิ์  แก้วมุงคุณทรัพย์ สส.อุดรธานี พรรคไทยสร้างไทยมาให้การต้อนรับ ขณะที่ช่วงบ่าย  นายอนุทิน ลงในพื้นที่อำเภอเพ็ญ นายหรั่ง ธุระพล สส. อุดรธานี พรรคไทยสร้างไทยมาให้การต้อนรับ

หลังมีกระแสข่าวว่า 2 สส. ดังกล่าวเตรียมย้ายมาร่วมกิจกรรมกับพรรคภูมิใจไทย แม้นายอนุทิน จะออกมาปฏิเสธกระแสข่าวดังกล่าว เพราะเป็นการร่วมกันทำงานเพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชนเนื่องจาก จังหวัดอุดรธานีไม่มีสส.พรรคภูมิใจไทย  ส่วนจะมาร่วมกับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่เป็นเรื่องของอนาคตและความสมัครใจ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โฆษกภูมิใจไทย โต้เดือด โทรโข่งเพื่อไทยแกล้งตาบอด ไม่เห็นภาพทักษิณกับเบน สมิธ

โฆษกภูมิใจไทย สวนโฆษกเพื่อไทย อย่าแกล้งตาบอด ปีนี้ใครถ่ายรูปกับ "เบน สมิธ" ยัน "อนุทิน" แค่รู้จักแต่ไม่สนิท ผลงานประจักษ์ยึดทรัพย์หมื่นล้านสแกมเมอร์รายใหญ่ บีบพ้น มท.1 เหตุไม่ให้สัญชาติใครหรือไม่ เย้ย 4 เดือนใครบริหารน้ำท่วมเหลว ขณะที่ "2 เดือน" นายกฯอนุทิน" เข้ามาแก้วิกฤติ

ภาพเก่าถูกยกมาปั่น! เกมเบี่ยงศึกสแกมเมอร์หมื่นล้านในยุคอนุทิน

วันที่ภาพเก่าหลายเฟรมของ “เบน สมิธ” ถูกดันกลับขึ้นมาในโซเชียล คือวันเดียวกับที่ ปปง. แถลง ยึด-อายัดทรัพย์ 289 รายการ มูลค่ากว่า 10,165 ล้านบา

'เพื่อนธนาธร' โยงปมภาพหลุด 'อนุทิน-เบน สมิธ' ปล่อยจากเด็กผู้จัดการ 'สนธิ' อยู่ตรงไหนในเกมนี้!

เพื่อนธนาธร ‘ธนาพล อิ๋วสกุล’ วิเคราะห์ทิศทางข้อมูล เมื่อภาพหลุด ‘อนุทิน-เอกนิติ’ ร่วมเฟรม ‘เบน สมิธ’ โผล่ครั้งแรกจากคนของเครือผู้จัดการ ทั้งที่ ‘สนธิ’ เพิ่งปกป้องเบนสมิธหมาด ๆ ก่อนเปิดช้อยให้เลือก, ปรับจุดยืนหลัง ปปง.ยึดทรัพย์, หรืออ่านเกมว่ารัฐบาลไม่ไม่รอด-กลัวตกขบวน-หรืออาจ “ถูกทุกข้อ”

ฉับไว! ปชป. แถลงจี้ ‘อนุทิน-เอกนิติ’ แจงภาพถ่ายร่วม ‘เบน สมิธ’

พรรคประชาธิปัตย์ออกแถลงการณ์ขอให้นายอนุทิน และนายเอกนิติ ชี้แจงความเกี่ยวข้อง หลังมีภาพถ่ายร่วมผู้ถูกอายัดทรัพย์ในคดีเครือข่ายสแกมเมอร์ ชี้เพื่อความโปร่งใสและสร้างความเชื่อมั่นต่อภารกิจปราบอาชญากรรมข้ามชาติ