นายกฯลาออกไม่พอแล้ว! 'วิโรจน์' ชี้เหลือทางเดียวต้องยุบสภาเท่านั้น ไม่เอารัฐประหาร

19 มิถุนายน 2568 - นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน โพสต์เฟซบุ๊กว่า ลาออกไม่พอแล้ว ต้อง #ยุบสภา เท่านั้น! ถ้าหลงกลฮุนเซนทำรัฐประหารประเทศชาติจะยิ่งเสียเปรียบ

จากกรณีคลิปเสียงของนายกฯ แพทองธารกับฮุนเซน ผมว่าปัจจุบันปัญหามันไม่ใช่แค่ "วิกฤติที่ตัวแพทองธาร" เท่านั้นแล้วครับ ด้วยความที่ประชาชนจำนวนมาก ได้หมดความไว้วางใจต่อรัฐบาลชุดนี้แล้ว แม้แต่ สส.ของพรรคร่วมรัฐบาลจำนวนไม่น้อย ก็ได้แสดงท่าทีว่าไม่สามารถที่จะรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ได้ เท่ากับว่า "รัฐบาลนี้ไม่เหลือความชอบธรรมที่จะบริหารราชการแผ่นดินแล้ว"

การแก้ไขปัญหาข้อพิพาทระหว่างไทย และกัมพูชา มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้ "คณะรัฐมนตรี" ชุดใหม่ ที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ผ่านกลไกของการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ถึงจะทำให้ประชาชนมั่นใจ และมีความไว้เนื้อเชื่อใจว่า การเจรจา และการดำเนินมาตรการต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทระหว่างไทย และกัมพูชา รัฐบาลได้ยึดเอาผลประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชนคนไทย เป็นสำคัญ

การลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ของแพทองธาร ชินวัตร จึงไม่เพียงพอต่อการแก้ไขปัญหา ที่จะทำให้ประชาชนหวนกลับมาไว้วางใจรัฐบาลได้ ทางออกที่ดีที่สุดในตอนนี้ ก็คือ ***การยุบสภา คืนอำนาจให้กับประชาชน เท่านั้น!***

ซึ่งหากแพทองธารยังคงดูแคลนความรู้สึกของประชาชน หวงอำนาจ และไม่ยอมที่จะยุบสภา

ก็คงต้องใช้กลไกการลงมติในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อถามใจทุกพรรคการเมือง และถามใจ สส.ทุกคน เพื่อให้แพทองธาร พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในที่สุด

ไม่ต้องอ้างครับว่าถ้ายุบสภาแล้ว การบริหารราชการแผ่นดิน และการใช้จ่ายงบประมาณจะมีปัญหา เพราะรัฐบาลรักษาการณ์นั้นสามารถบริหารงานราชการประจำวันได้อยู่แล้ว ประชาชนจะสบายใจด้วยซ้ำ เพราะรัฐบาลรักษาการณ์ จะไม่สามารถแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงได้ ไม่สามารถลงนามในสัญญาระหว่างประเทศได้ สำหรับเรื่องงบประมาณ ก็เช่นเดียวกัน หน่วยงานราชการต่างๆ สามารถใช้งบปี 2568 ไปพลางก่อนได้ รายจ่ายประจำ และโครงการต่างๆ ที่ผูกพันงบประมาณไปแล้ว ก็ยังสามารถเบิกจ่ายได้

เรื่องสำคัญๆ ที่เกี่ยวกับความมั่นคงของชาติ ทั้งกรณีข้อพิพาทระหว่างไทย และกัมพูชา และการเจรจาภาษีการค้ากับสหรัฐอเมริกา รัฐบาลใหม่ที่ได้รับฉันทามติจากประชาชน จากการเลือกตั้ง จะมีความชอบธรรมโดยสมบูรณ์ในการแก้ปัญหา ซึ่งจะทำให้ประชาชนคนไทยทั้งประเทศวางใจ

และต้องย้ำตรงนี้ว่า การทำรัฐประหาร ไม่ใช่ทางออกที่ดีสำหรับประเทศ ซ้ำร้ายจะทำให้ประเทศกลับมาติดหล่มอยู่ในวังวนเดิม และสูญเสียความชอบธรรมในเวทีโลก ซึ่งจะทำให้การเจรจาต่อรองใดๆ ทั้งในกรณีข้อพิพาทระหว่างไทย และกัมพูชา และกรณีการเจรจาภาษีการค้ากับสหรัฐอเมริกา ของประเทศไทยตกอยู่ในสภาวะที่เสียเปรียบ ขาดการยอมรับจากนานาอารยประเทศ กว่าเราจะรู้สึกตัว ก็อาจจะสายเกินแก้เสียแล้ว ดังนั้นทางออกเดียวที่ดีที่สุดในตอนนี้ ก็คือ การ #ยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชน เท่านั้น!

หมดเวลาแล้วครับ แพทองธาร ชินวัตร #ยุบสภา ได้แล้วครับ!

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สถานการณ์แรงงานข้ามชาติปี 2568 จับตาพรรคการเมืองปั่นกระแส บิดเบือนข้อมูลเพื่อโจมตีทางการเมือง

เข้าสู่ช่วงนับถอยหลังกำลังจะผ่านพ้นไปแล้วสำหรับปี 2568 หลายภาคส่วนมีการวิเคราะห์-สรุปสถานการณ์ในด้าน”การเมือง-เศรษฐกิจ-สังคม-สิ่งแวดล้อม-เทคโนโลยี

สนามเลือกตั้งเมืองหลวง-กทม. ศึกชิง33เก้าอี้-แย่งเสียงปาร์ตี้ลิสต์ พรรคส้มเหงื่อตก หลายพรรครอเจาะยาง

หนึ่งในสาเหตุทางการเมืองที่คนยังเชื่อว่า พรรคส้ม-พรรคประชาชน จะชนะการเลือกตั้งในวันที่ 8 ก.พ.2569 ก็เพราะมองว่า สนามเลือกตั้งเมืองหลวง กรุงเทพมหานคร ที่มี

เสธ ทบ. เผยพบร่างทหาร 2 นาย เหตุปะทะพื้นที่ปราสาทตาควาย 'เนิน 350' แล้ว

พล.อ.ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ เสนาธิการทหารบก เปิดเผยความคืบหน้ากรณีการปะทะในพื้นที่ปราสาทตาควาย และบริเวณเนิน 350 จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการสู้รบอย่างหนั

โคราชเดือด! ถล่มยิงเป้าผู้นำเขมร

สโมสรกีฬายิงธนูโคราชเปลี่ยนเป้าซ้อมเป็นรูปผู้นำกัมพูชา ทั้งฮุน เซน–ฮุน มาเนต รวมถึงโฆษกกองทัพและอินฟลูเอนเซอร์เขมร ลูกค้าแห่ทดลองยิง ระบุเป็นกิจกรรมผ่อน

ทัพเรือเผยเหตุเขมรบุกหนัก เคยใช้สไนป์เปอร์ลอบยิง ผบ.หน่วย ก่อนเปิดฉากรบ

โฆษกกองทัพเรือเปิดเผย ช่วงก่อนการโจมตีบ้านเรือน 3 หลัง ฝ่ายกัมพูชามีความพยายามยั่วยุหลายครั้ง รวมถึงเหตุใช้พลซุ่มยิงลอบยิงผู้บังคับหน่วยระดับผู้นำ ก่อนสถานการณ์พัฒนาไปสู่การสู้รบ

ทภ.2 สรุปชายแดนไทย-กัมพูชา ปะทะเป็นระยะ โดรนฝ่ายตรงข้ามหนาแน่น

กองทัพภาคที่ 2 รายงานภาพรวมสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พบการปะทะต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ฝ่ายตรงข้ามใช้งานโดรนและอาวุธหนักหนาแน่น ขณะฝ่ายไทยยิงตอบโต้ทำลายที่ตั้งยิงและยานพาหนะได้หลายครั้ง สถานการณ์ยังอยู่ในการควบคุม