มือยื่นถอด 'อิ๊งค์' บอกนายกฯโดนแขวน ประเทศเดินต่อได้

คีย์แมน 36 สว.”พลเอกสวัสดิ์”ออกโรง อังคารนี้ ไม่มีพลิก ศาลรธน.รับคำร้องถอดถอน”อิงค์” แต่ต้องลุ้นหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ย้ำนายกฯ โดนแขวน ประเทศเดินต่อไปได้  

29 มิ.ย.2568 –  พลเอก สวัสดิ์ ทัศนา สมาชิกวุฒิสภาและประธานคณะกรรมาธิการทหารและความมั่นคงแห่งรัฐ วุฒิสภา ในฐานะแกนนำหลักของกลุ่ม 36 สว.ที่ร่วมกันลงชื่อยื่นคำร้องถึงศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาคำร้องถอดถอนน.ส.แพทองธาร ชินวัตร ออกจากตำแหน่งจากกรณีคลิปเสียงสนทนากับฮุน เซน กล่าวถึงการประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญวันอังคารนี้ 1 ก.ค. ที่มีข่าวว่าจะมีการพิจารณาคำร้องดังกล่าวว่า จากวันที่สว.ร่วมกันยื่นคำร้องจนถึงขณะนี้สถานการณ์ล่วงเลยมา ทุกอย่างยิ่งมีความชัดเจนมากขึ้น แต่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีความเห็นอย่างไรต่อคำร้องดังกล่าวก็เป็นการพิจารณาของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ แต่ที่ผ่านมา ประชาชนก็ได้เห็นแล้วว่าเรื่องนี้มีความชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ

“การประชุมศาลรัฐธรรมนูญวันอังคารนี้ ผมมั่นใจว่า ศาลรัฐธรรมนูญน่าจะรับคำร้องของสว.ไว้พิจารณา แต่ต้องดูว่าจะสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่อย่างไรหรือไม่”พลเอก สวัสดิ์ ระบุ

 เมื่อถามว่า ในเหตุผลต่างๆ ในตัวคำร้องที่ยื่นไป มั่นใจว่าอาจมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่การเป็นนายกฯไว้ก่อนใช่หรือไม่ พลเอกสวัสดิ์ กล่าวว่า”ใช่ครับ” ซึ่งในหลักการและกระบวนการต่างๆมีตัวแก้หรือระบบต่างๆ ที่ทำให้การทำงานเดินต่อไปได้ เพราะหากนายกฯไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ ก็มีระบบกระบวนการต่างๆ ที่ทำให้การทำงานเดินต่อไปได้

ทั้งนี้คำร้องดังกล่าวของ 36 สว. ยื่นให้ศาลรธน.วินิจฉัย ว่า ความเป็นนายกรัฐมนตรีของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่จากรณีคลิปเสียงสนทนากับฮุน เซน  

        โดยในเอกสารคำร้องดังกล่าว นอกจากขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้องแล้ว ยังได้ขอให้ ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้อง(น.ส.แพทองธาร ชินวัตร) หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสอง พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 71 ประกอบข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2562 ข้อ 40 (8)รวมถึงยังได้แจ้งต่อศาลรัฐธรรมนูญว่า ทางผู้ร้องรวมจำนวน 36 คนมอบให้พลเอกสวัสดิ์ ทัศนา สมาชิกวุฒิสภา เป็นผู้มีอำนาจยื่นคำร้องคำร้องเพิ่มเติมขอแก้ไขเพิ่มเติมคำร้องหรือคำร้องเพิ่มเติม ยื่นบัญชีระบุพยานต่าง ๆ ยื่นคำร้องคำแถลงการณ์เปิดและปิดคดี คำแถลงคำชี้แจงให้การให้ถ้อยคำหรือให้ถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงหรือความเห็นและเบิกความต่อศาล ดำเนินกระบวนพิจารณา หรือดำเนินการใด ๆ ทั้งปวง ในคดีนี้ต่อประธานวุฒิสภาและศาลรัฐธรรมนูญแทนคณะสมาชิกวุฒิสภาทุกคน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘อิ๊งค์-ปอ’ เข้าเยี่ยม ‘ทักษิณ’ คุยแคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย ฝากกำลังใจยศชนัน

“อิ๊งค์-ปอ” ตัวแทนครอบครัวเข้าเยี่ยม “ทักษิณ ชินวัตร” ครั้งที่ 26 ภายในเรือนจำกลางคลองเปรม เผยมีการพูดถึงแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย พร้อมส่งกำลังใจให้ “ศ.ยศ

ศาลรธน.ยังไม่นัดวินิจฉัยสถานะ 'ภูมิธรรม-ทวี' ปมแทรกแซงคดีฮั้วสว. รอความเห็นพยาน

ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการพิจารณาคำร้องที่ประธานวุฒิสภาส่งคำร้องของสมาชิกวุฒิสภาที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 42

'เพื่อไทย' ง้างมือศาลรธน. เชือด 'รมต.รัฐบาลอนุทิน'  

'พท.' จ่อร้อง 'ศาล รธน.' เอาผิดจริยธรรม 'รมต.รัฐบาลอนุทิน' ก่อนยื่นซักฟอกต่อ 'สุทิน' ขอรอดูถกร่าง รธน.วาระ 2 ก่อนเคาะวัน เย้ย ควรยกธงขาวเตรียมเผ่นหลังขู่ยุบสภาหนี เตือนฝ่ายค้ำระวังล้มทับกันเอง

มาดุ! 'บิ๊กเกรียง' ฉะคนปล่อยเฟคนิวส์ หาน้ำท่วมใต้คนตายเป็นพัน น่าจะเอาหัวเสียบประจาน

'บิ๊กเกรียง' รับมอบของบริจาคช่วยอุทกภัย ฉะ คนปล่อยเฟคนิวส์ หาว่าน้ำท่วมใต้คนตายเป็นพัน น่าจะหัวเสียบประจาน ถามเอาจากไหนมาพูด บอก เสียหาย ถ้าเล่นการเมืองกัน ทำขวัญของประชาชนตกต่ำ ให้กำลังใจ 'นายกฯอนุทิน-รัฐบาล' เชื่อทำตามแผนฟื้นฟู-เยียวยาอยู่แล้ว

มติเอกฉันท์! ศาลรธน. ไม่รับคำร้อง 'เรืองไกร' กล่าวหารัฐสภาแก้ รธน.ล้มล้างการปกครอง

‘ศาลรธน.’ มีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้อง ‘เรืองไกร’ ปมกล่าวหาประธานรัฐสภา–สมาชิกรัฐสภาใช้สิทธิล้มล้างการปกครอง ชี้การประชุมร่วมแก้รัฐธรรมนูญยังไม่ปรากฏพฤติการณ์เข้าข่ายมาตรา 49 แม้อัยการสูงสุดไม่ดำเนินการแต่ผู้ร้องมีสิทธิเข้าศาลโดยตรงก็ตาม

ศาลสั่งจำคุก 4 ปี 'สว.ธนกร' คดีลักทรัพย์คนตายจากอุบัติเหตุ

ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้อ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการยื่นฟ้อง นายธนกร ถาวรชินโชติ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ซึ่งในขณะนั้นเพียงผู้ที่ทำธุรกิจประมง เเละนายอภิชัย หมู่มาก จำเลยที่ 1 เเละ2 ฐานลักทรัพย์ของผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ มูลค่าความเสียหายกว่า 1.5 ล้านบาท