ประธานคณะก้าวหน้าเปิดใจกลางเวที “ผ่าทางตัน” ย้ำชัดไม่เคยตั้งพรรคเพื่อล้มสถาบันฯ โต้ความเข้าใจผิด ปมแก้ ม.112 ชี้ทุกข้อเสนอมีเป้าหมายให้สถาบันอยู่ร่วมกับประชาธิปไตยอย่างยั่งยืน
19 กรกฎาคม 2568 – เมื่อ18 กรกฎาคมที่ผ่านมา ที่โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวผ่านรายการ Exclusive Talk : ผ่าทางตัน ซึ่งจัดโดยเครือเนชั่น ถึงกรณี คดีอดีต 44 สส.พรรคก้าวไกล ที่เคยลงชื่อเสนอร่างกฎหมายแก้ไขความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งเป็น สส.พรรคประชาชนอยู่ 25 คน จะมีผลกับกลไกสภาฯ หรือไม่ ว่า ขณะนี้ประเทศไทยมี 4 คดี ที่ทุกฝ่ายจับตามองอยู่
ทั้งคดี 44 อดีต สส.ของพรรคก้าวไกล คดี ม.144 เรื่องการผ่านงบประมาณ คดี ฮั้ว สว. และคดีของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่เป็นคดีทางการเมืองที่ทุกคนจับตาอยู่ เพราะทั้ง 4 คดี มีผลกระทบกันและกัน ไม่ว่าอะไรจะเกิดก่อนเกิดหลัง จะส่งผลกระทบกับที่เหลือ
แต่ส่วนตัว ไม่มีข้อมูลเบื้องลึกเลย ดังนั้น จึงไม่สามารถตอบได้ว่า คดีไหนใครจะโดนบ้าง และคดีไหน ใครจะมาก่อนหลัง แต่จะส่งผลถึงกันและกันทั้งนั้น ดังนั้น จึงมีเพียงการเตรียมความพร้อม ซึ่งเชื่อว่า พรรคประชาชนได้เตรียมความพร้อมมือกับทุกสถานการณ์ ทั้งการยุบสภา การเลือกตั้งเร็ว และ 44 สส.ที่อาจจะถูกตัดสิทธิ์บางส่วนหรือทั้งหมด ซึ่งพรรคประชาชนก็พร้อมทุกสถานการณ์
เมื่อถามว่า พร้อมหรือไม่ ที่จะปรับนโยบายในเชิงถอนรากถอนโคน แล้วประนีประนอมลง หรือมีการลดเพดานนโยบายลง เพื่อนำพาประเทศเปลี่ยนแปลง นายธนาธร ระบุว่า ถ้าตัดอคติ และสิ่งที่ไม่เป็นจริงออก วันที่สร้างพรรคอนาคตใหม่ เราพูดถึงการปฏิรูปกองทัพ และรัฐธรรมนูญ รวมถึงการที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า พูดในที่สาธารณะ ว่าไม่แก้ ม.112 และในวันนั้น ไม่มีการพูดเรื่องการปฏิรูปสถาบันฯ แพราะทุกฝ่ายโจมตี จนสังคมเชื่อไปแบบนั้นแล้ว หากใครจำไม่ได้ ตนเองท้าให้ไปเปิดดูข้อมูลได้ และในสมัยอนาคตใหม่ไม่มีนโยบายที่เกี่ยวข้องกับสถาบันดัวย แต่การเรียกร้องการปฏิรูปสถาบันฯ เกิดขึ้นหลังการยุบพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งคงต้องไปถามคนที่ทำม็อบว่า ยึดโยงกันมาได้อย่างไร
“ผมคิดว่า ไม่มีใครหรอกที่คิดจะล้มสถาบันฯ ทุกคนล้วนต่างปรารถนาดีกับประเทศด้วยกัน และพวกเราพูดเสมอว่า วิธีการที่จะธำรงสถาบันฯ ให้อยู่คู่กับสังคมไทยตลอดไป คือการค่อยๆ ปรับเปลี่ยนสถาบันฯ ให้อยู่กับยุคสมัย ให้อยู่กับรัฐธรรมนูญ และประชาธิปไตย ดังนั้น ถ้าใครมองว่า ข้อเสนอนี้ radicle แล้วข้อเสนอปฏิรูปที่ไม่ radicle นั้น หน้าตาเป็นอย่างไร พวกเราตั้งพรรคการเมือง ทำงานการเมืองในสภาฯ ปืนสักกระบอกยังไม่มี แล้วจะเอาอะไรไปทำ” นายธนาธร กล่าว
นายธนาธร กล่าวอีกว่า หากมองอย่างไม่อคติ ตอนทำ MOU ที่พรรคก้าวไกล ทำกับพรรคเพื่อไทย ยังไม่มีเรื่องนี้เลย เพราะเขาเพียงแค่หาเหตุไม่จับมือเป็นพรรคร่วมรัฐบาล
“ดังนั้น หากถามว่า ม.112 อยู่ในเงื่อนไขหรือไม่ ถ้าตัดอคติ และเอาเรื่องที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริงออกไป ไม่มีครับ ที่บอกว่า มาร่วมรัฐบาลกันเถอะ มาแก้ ม.112 ด้วยกัน ใครไม่แก้ ม.112 ร่วมกับฉัน ร่วมรัฐบาลไม่ได้ ไม่เคยมีเรื่องนี้” นายธนาธร กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ประชาคมแพทย์ชี้ 'ประชาธิปัตย์' เผาสะพานจริงสะเทือนแผนรัฐบาลส้มแดงแป้ง!
เพจประชาคมแพทย์ได้โพสต์ในลักษณะบทความ
'ชูวิทย์' งง 'พรรคส้ม' ย้อนแย้ง กับความฝันเรื่องการเมืองใหม่ แต่กลับไปได้ของเก่ากว่าเดิม
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตส.ส.และอดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ความย้อนแย้งของการเมืองใหม่
อดีตพรรคส้มโวย ถูกถอดชื่อว่าที่ผู้สมัคร สส. รับไม่ได้ลาออกทันที
อดีตสมาชิกพรรคประชาชน จ.กระบี่ เปิดใจ หลังถูกถอดชื่อออกจากบัญชีว่าที่ผู้สมัคร สส. ทั้งที่ประกาศชื่อผ่านสื่อแล้ว ชี้คำอ้างผิดพลาดฟังไม่ขึ้น ลาออกพรรค พร้อมเตรียมซบพรร
‘ทหารมีไว้ทำไม’ คำถามเก่าที่ตามหลอนพรรคส้ม!
สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้บทบาทกองทัพและประเด็นความมั่นคง กลับมาอยู่ในความสนใจของสังคมอย่างชัดเจน
ชูวิทย์ ฟันธงเลือกตั้งครั้งหน้าคนเท ‘พรรคส้ม’
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตสส. หัวหน้าพรรครักประเทศไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หัวข้อ
'อนุทิน' ยังนิ่ง! ไม่ตอบโต้ 'เท้ง' ปิดประตูร่วมรัฐบาลกับภูมิใจไทย
"อนุทิน" บอกหลังเลือกตั้งพร้อมจับมือกับพรรคที่สร้างประโยชน์ให้บ้านเมือง ไม่อยากพูดก่อน ผลลต.ออก เดี๋ยวทำไม่ได้ใครพูดก่อนต้องกลืนน้ำลาย

