'จักรภพ' ย้ำไทยมีสิทธิโต้กลับเต็มรูปแบบ จับตา 'UNSC' เรียกประชุมด่วน

‘จักรภพ’ ย้ำไม่สูญเสียดินแดน ซัดกัมพูชาละเมิดอธิปไตยไทยชัดเจน รัฐบาลมีสิทธิโต้ตอบเต็มรูปแบบ เผย UNSC เรียกประชุมด่วนวันนี้

25 ก.ค. 2568 – นายจักรภพ เพ็ญแข ที่ปรึกษาของเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการปะทะชายแดนไทย–กัมพูชา โดยย้ำว่า สิ่งที่กัมพูชาทำกับไทยคือการละเมิดอำนาจอธิปไตยอย่างชัดเจน และละเมิดบูรณภาพแห่งดินแดน ซึ่งทั้งสองอย่างถือเป็นความผิดตามมาตรฐานสากล ตั้งแต่กฎบัตรสหประชาชาติ ไปจนถึงอนุสัญญาต่างๆ สิ่งสำคัญคือ การตั้งหลักอย่างมั่นคงในการสื่อสารว่า ไทยถูกละเมิดอธิปไตย แต่ยังไม่สูญเสียดินแดน และเรามีสิทธิ์โต้กลับในระดับที่สูงกว่านี้ได้ หากจำเป็น แต่ต้องวางแผนให้แน่น เพื่อกลับมาเป็นผู้ชนะไม่ใช่แค่ในสนามรบ แต่บนเวทีโลกด้วย

“ไทยมีสิทธิในการตอบโต้ตามหลักสากล เพราะกัมพูชาเป็นฝ่ายรุกรานก่อน เขาผิดเต็มประตู และรัฐบาลไทยได้ดำเนินการตอบโต้ไปในระดับหนึ่งแล้ว เช่น การส่งเครื่องบิน F-16 ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณเตือนว่าไทยมีศักยภาพในการใช้กำลังที่เหนือกว่า หากจำเป็น แต่เราไม่สามารถตอบโต้แบบไม่ลืมหูลืมตา เพราะต้องรักษาจุดยืนที่ชัดเจนในเวทีระหว่างประเทศ เราต้องเป็นฝ่ายถูก ไม่ใช่ตกเป็นเป้าโจมตีของเพื่อนบ้านหรือมหาอำนาจ” นายจักรภพ ระบุ

ทั้งนี้กระทรวงการต่างประเทศของไทยได้ประสานงานกับนานาประเทศเพื่อผลักดันให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (United Nations Security Council; UNSC) และจะเปิดประชุมด่วนในวันนี้ โดยได้ยื่นเหตุผลและหลักฐานเพื่อให้การโจมตีของกัมพูชาถูกยกเป็นเรื่องเร่งด่วน ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนภายในวันนี้

ที่ปรึกษาของเลขาธิการนายกฯ กล่าวว่า แม้ประชาชนไทยจะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการรุกรานของกัมพูชา ทั้งการเสียชีวิต บาดเจ็บ และความหวาดกลัวใน 5 จังหวัดชายแดน แต่ขอให้แยกให้ชัดเจนระหว่างคำว่าการละเมิดกับการสูญเสีย ซึ่งในขณะนี้ไทยถูกละเมิดอย่างแน่นอน แต่ยังไม่ถึงขั้นสูญเสียดินแดนเพิ่มเติมไปจากพื้นที่ทับซ้อน ที่ต้องมีการเจรจาในอนาคต เราจำเป็นต้องตั้งต้นเจรจาอย่างมีหลักการ ไม่ใช่ปล่อยให้สถานการณ์นำพาไปด้วยอารมณ์

ขณะเดียวกัน รัฐบาลไทยได้บูรณาการการทำงานของหน่วยงานต่าง ๆ อย่างน้อย 12 กระทรวง อาทิ กระทรวงมหาดไทย ดูแลแนวหลังและการช่วยเหลือประชาชน, กระทรวงกลาโหม ประสานกำลังทหาร กระทรวง อว. เปิดพื้นที่รองรับผู้อพยพ ซึ่งขณะนี้มีมากกว่า 5,000 คน, กระทรวงสาธารณสุข ประณามการโจมตีโรงพยาบาลไทยว่าเข้าข่ายอาชญากรรมสงคราม, กระทรวงการต่างประเทศ เร่งอพยพคนไทยออกจากกัมพูชา, กระทรวงดีอีเอสและหน่วยงานข่าวกรอง ประสานข่าวสารอย่างเร่งด่วน

“ขอให้พี่น้องประชาชนสบายใจว่า ไม่มีใครทำตัวเย็นชา ทุกกระทรวงกำลังเคลื่อนไหวอย่างเต็มที่ ทั้งโกรธ แค้น และพร้อมจะโต้กลับ แต่เราต้องใช้สติในการวางหมากระยะยาวเพื่อผลประโยชน์สูงสุดของชาติ จุดยืนของประเทศไทยคือต้องการให้ กัมพูชาเป็นฝ่ายที่ถูกประณาม ในเวทีระหว่างประเทศ และไทยต้องเป็นฝ่ายที่โลกเห็นว่าถูกกระทำซึ่งจะนำไปสู่ชัยชนะในการเจรจาและสงครามทางการทูตในระยะยาว เราไม่ต้องการให้มหาอำนาจแทรกแซง ไม่ต้องการให้เพื่อนบ้านประณามเรา เราต้องการให้ฝ่ายรุกรานคือกัมพูชาถูกประณามแทน นั่นคือต้นทางของการวางยุทธศาสตร์ให้ถูกต้อง” นายจักรภพ ระบุ

ส่วนกรณีที่ได้มีการถกเถียงกับน็อต-วรฤทธิ์ เฟื่องอารมณ์ ผู้ดำเนินรายการแฉ เมื่อวันที่ 24 ก.ค. ที่ผ่านมานั้น นายจักรภพ กล่าวว่า เป็นประเด็นอธิปไตย จึงไม่ได้อธิบายเพิ่มเติมในขณะนั้น เพราะเกรงว่าจะมีการตัดต่อคลิปเพื่อนำไปใช้ในทางที่ปลุกปั่นผิดเจตนา ทั้งที่ประเด็นนี้สำคัญยิ่ง และจำเป็นต้องอธิบายให้ครบถ้วนตามที่กล่าวแล้วข้างต้น.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทหารไทยเสียขารายที่ 9 เหยียบทุ่นระเบิดใกล้ปราสาทตาควาย

มีกำลังพลเหยียบทุ่นระเบิด ทราบชื่อ ส.อ.นิติธรรม ศรีคำแซง สังกัด ช.6 ประสบเหตุเหยียบทุ่นระเบิดในพื้นที่ใกล้ปราสาทตาควาย ขณะปฏิบัติภารกิจตามแนวชายแดน ส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ขาซ้าย

'นักข่าวเทวดา' ซัดทหารไทยเมาสงคราม สื่อ-กองเชียร์สิ้นคิดทำลายรูปปั้นเทพเจ้าฮินดู จี้รัฐบาลขอโทษอินเดียด่วน

นายประวิตร โรจนพฤกษ์ นักเคลื่อนไหว และผู้สื่อข่าวประจำข่าวสดภาคภาษาอังกฤษ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า นี่ก็อาการเมาสงคราม! ถามจริง ตอนนี้เมาจนสังคมขาดสติ ไม่รู้ว่าทำอะไรไปบ้าง และสร้างความรู้สึกยี้ให้กับต่างชาติมากขึ้นเรื่อยๆ?

เผย 'เนิน 225' อยู่ไหน สำคัญอย่างไร หลังกองทัพภาค 2 ต้องประกาศให้รู้ยึดพื้นที่ได้แล้ว

กองทัพภาคที่ 2 แจ้งว่า ขณะนี้ยึด "เนิน 225" เรียบร้อย และยังอยู่ในระหว่างปฏิบัติการทางทหารอย่างต่อเนื่อง

เปิดภารกิจสุดท้าย 'จ่าเริง-พลทหารวุ้น' วีรกรรมสุดห้าวหาญบุกยึดเนิน 350

กองทัพภาคที่ 2 โพสต์คลิปวิดีโอขนาดความยาว 3.50 นาที เผยแพร่ภารกิจสุดท้ายของ 2 ทหารกล้าพลีชีพปกป้องแผ่นดินไทย "จ่าสิบเอกสำเริง คลังประโคน" และ "พลทหารภานุพัฒน์ เสาร์