
“ภูมิธรรม” ลงนามคำสั่งให้ ศบ.ทก. ทำงานต่อเนื่อง มุ่งแก้ไขความตึงเครียด ความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา
31 ส.ค. 2568 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี เซ็นคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 275/2568 เรื่อง จัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา โดยที่เป็นการสมควรจัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา ขึ้น เพื่อบูรณาการการปฏิบัติของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา ให้มีความเป็นเอกภาพ โดยมุ่งหมายที่จะแก้ไขความตึงเครียดและความขัดแย้งที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดนกับประเทศกัมพูชาอย่างมิตรประเทศที่ใฝ่สันติจะพึงปฏิบัติต่อกัน บนหลักการทวิภาคีและด้วยสันติวิธีเคารพซึ่งกันและกันในเอกราช อธิปไตย ความเสมอภาค และบูรณภาพแห่งดินแดน รวมทั้งเป็นศูนย์กลางในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเกี่ยวกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นต่อสาธารณชน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 (6) และ (9) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 นายกรัฐมนตรีจึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ให้จัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา เรียกโดยย่อว่า “ศบ.ทก.” ประกอบด้วย 1.รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ผู้อำนวยการศูนย์ 2.เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ รองผู้อำนวยการศูนย์ 3.ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ รองผู้อำนวยการศูนย์ 4.ปลัดกระทรวงมหาดไทย รองผู้อำนวยการศูนย์ 5.ปลัดกระทรวงกลาโหม กรรมการ 6.ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กรรมการ
7.ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กรรมการ 8.ปลัดกระทรวงแรงงาน กรรมการ 9.เลขาธิการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรรมการ 10.เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา กรรมการ 11.ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ กรรมการ 12.ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กรรมการ 13.ผู้บัญชาการทหารบก กรรมการ 14.ผู้บัญชาการทหารเรือ กรรมการ 15.ผู้บัญชาการทหารอากาศ กรรมการ 16.ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กรรมการ 17.อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กรรมการ 18.อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กรรมการ 19.อธิบดีกรมสารนิเทศ กรรมการ 20.อธิบดีกรมเอเชียตะวันออก กรรมการ
21.โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กรรมการ
22.พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย กรรมการ 23.นายวรณัฐ คงเมือง รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ กรรมการ 24.ผู้แทนหน่วยงานของรัฐ หรือผู้ทรงคุณวุฒิ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่พิจารณา กรรมการ 25.ผู้ช่วยเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ กรรมการและเลขานุการ 26.เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ 27.ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
ข้อ 2 ให้ ศบ.ทก. มีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้
1.ติดตาม ตรวจสอบ วิเคราะห์ กลั่นกรอง และประเมินสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชาอย่างใกล้ชิด 2.ให้ความเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับมาตรการที่จำเป็นเพื่อเป็นประโยชน์ในการบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา ต่อสภาความมั่นคงแห่งชาติ นายกรัฐมนตรี หรือคณะรัฐมนตรี แล้วแต่กรณี เพื่อพิจารณาดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจต่อไป 3.บูรณาการการปฏิบัติงานของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา ให้มีความเป็นเอกภาพ และเป็นศูนย์กลางในการเผยแพรข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เกี่ยวกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา ต่อสาธารณชน 4.แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ คณะทำงาน หรือมอบหมายเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม 5.รายงานผลการปฏิบัติงานและการบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชาต่อสภาความมั่นคงแห่งชาติ นายกรัฐนตรี หรือคณะรัฐมนตรี แล้วแต่กรณี เพื่อทราบเป็นระยะ
6.ดำเนินการอื่นใดตามที่นายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีมอบหมายในการดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจตามวรรคหนึ่ง ให้คำนึงถึงความมุ่งหมายที่จะแก้ไขความตึงเครียดและความขัดแย้งที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดนกับประเทศกัมพูชาให้กลับเข้าสู่สภาวะปกติอย่างเช่นมิตรประเทศที่ใฝ่สันติจะพึงปฏิบัติต่อกันบนหลักการทวิภาคี อย่างเท่าเทียม และด้วยสันติวิธี เคารพซึ่งกันและกัน ในเอกราช อธิบโตย ความเสมอภาค บูรณภาพแห่งดินแดน และเอกลักษณ์ของทั้งสองประเทศ และโดยปราศจากการแทรกแซงของประเทศที่สามหรือองค์กรระหว่างประเทศทั้งปวง
ทั้งนี้ ข้อ 3 ให้ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ และรัฐวิสาหกิจ มาชี้แจงข้อเท็จจริง ส่งเอกสารหลักฐาน หรือดำเนินการตามที่ ศบ.ทก. กำหนด เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการของ ศบ.ทก. ตามคำสั่งนี้ ข้อ 4 ให้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ รับผิดชอบงานธุรการและวิชาการของ ศบ.ทก. ให้การจัดโครงสร้าง การติดต่อสื่อสาร การรายงาน และการติดตามประเมินผลการของ ศบ.ทก. เป็นไปตามที่ผู้อำนวยการศูนย์กำหนด การเบิกจ่ายเบี้ยประชุมหรือค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงานของคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ หรือคณะทำงานที่แต่งตั้งตามคำสั่งนี้ ให้เป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมกรรมการ พ.ศ. 2547 หรือตามระเบียบของทางราชการ แล้วแต่กรณี โดยให้เบิกจ่ายจากงบประมาณของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ และข้อ 5 เมื่อสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ ให้ผู้อำนวยการศูนย์รายงานต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อทราบ และมีคำสั่งยกเลิกคำสั่งนี้ ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
สั่ง ณ วันที่ 30 ส.ค. พ.ศ. 2568
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ลุ้นกันยาวๆ 24 ธ.ค.ศาล รธน.นัดไต่สวนพยานคดี 'ภูมิธรรม-ทวี' จุ้นคดีฮั้ว สว.
ศาล รธน.นัดไต่สวนพยานคดีสถานะ 'ภูมิธรรม-ทวี' จุ้นคดีฮั้วเลือก สว. 24ธ.ค.นี้ พร้อมไม่อนุญาต 'สราวุธ' ถอนตัวจากการพิจารณาคดี
'บิ๊กเล็ก' ยัน 'ภูมิธรรม' ไม่เคยสั่งผ่านตนเองให้ทหารหยุดยิง เหตุปะทะไทย-กัมพูชา
‘บิ๊กเล็ก’ ลั่นไม่เคยสั่งหยุดยิง ‘ไทย-กัมพูชา’ ผบ.ทบ. ก็ยันไม่มีใครสั่ง โต้ปม ‘ภูมิธรรม’ สั่งผ่านตนเอง เผยคำพูด ‘บิ๊กกุ้ง’ ก่อนเกษียณฯ หลังประกาศจะเอาคืน ‘กัมพูชา’ จึงหนุนทำให้เสร็จก่อนเกษียณฯ
ระทึก! ศาลรัฐธรรมนูญสั่งไต่สวนพยานบุคคลคดี 'ภูมิธรรม-ทวี' ใช้อำนาจแทรกแซง
ศาลรัฐธรรมนูญสั่งไต่สวนพยานบุคคล คดี สว. ร้อง 'ภูมิธรรม-ทวี' ใช้อำนาจแทรกแซงการเลือก สว.โดยมิชอบ
ส่องรายละเอียดโยก 45 เก้าอี้ มท.เป้าชัดจัดทัพใหญ่รับศึกเลือกตั้ง 2569
เอ็กซเรย์โยก 45 เก้าอี้ มท. สิงห์น้ำเงินผงาด มตำแหน่งหลัก ใครเป็นใคร เป้าชัด 'อนุทิน-เนวิน-ภท.' จัดทัพใหญ่ รับศึกเลือกตั้ง 69
'สว.สำรอง' อุ้มพระนำทาง จี้อนุฯวินิจฉัยชุด36 กกต. เร่งสรุป 'คดีฮั้วสว.' หวั่นรัฐบาลแทรกแซง
'สว.สำรอง' อุ้มพระ นำทาง จี้อนุฯวินิจฉัยชุด36 กกต. เร่งสรุปคดี'ฮั้วสว.' ชงกกต.หวั่นรัฐบาลแทรกแซง บิดเบือนคดี ยื้อเวลาประกาศยืนหยัดเคลื่อนไหวจนกว่ากกต. วินิจฉัย
'ภูมิธรรม-ทวี' ลุ้นต่อ ศาล รธน.รอเอกสารยื่นถอดถอน
รอต่อไป 'ศาล รธน.' รอเอกสารหลักฐานจากเลขาฯ กกต. ปม สว.ยื่นถอดถอน 'ภูมิธรรม - ทวี' พ้นรมต.


