“ทรงศักดิ์” โต้ ปม “ที่ดินเขากระโดง” ศาลตัดสินเพิกถอนเรียบร้อยแล้ว ชี้ “ภูมิธรรม - เดชอิศม์” ตั้ง คกก. สอบ ไม่มีกฎหมายรอบรับ ลั่น “อดีตรมว.ยุติธรรม” พูดไม่ครบ ด้าน “ทวี” ย้อนไปอ่านคำพิพากษาให้ละเอียด
29 กันยายน 2568 - จากนั้นเวลา 13.42 น. นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ลุกขึ้นชี้แจงว่า จากการฟังพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ ซึ่งเป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พูดถึงเรื่องที่จะทำให้พี่น้องประชาชน หรือแม้แต่ สส. เอง อาจจะฟังแล้วมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน และทำให้เสียหาย โดยเฉพาะนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ซึ่งครั้งหนึ่งนายอนุทิน ก็เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงไทย และตนเองก็เป็นรัฐมนตรีช่วยมหาดไทย โดยมีการพูดถึงที่ดินเขากระโดง ซึ่งเป็นมหากาพย์ ว่าเป็นที่หลวงและมีประชาชนเข้าไปบุกรุก ตามที่มีความเข้าใจกัน
นายทรงศักดิ์ กล่าวว่า หากเป็นที่หลวงจริง การจะไปครอบครอง ปรปักษ์ต่อเนื่อง กี่พันปี ก็เป็นเจ้าของไม่ได้ แต่มีการอ้างถึงเป็นที่พระราชทานให้กับการรถไฟ แล้วถือว่าการรถไฟเป็นเจ้าของมาตั้งแต่พ.ศ. 2462 ตั้งแต่มีการสำรวจและต่อเนื่องมาจนถึงมีการแจ้ง ส.ค. 1 ในปี พ.ศ. 2498 หลังมีประมวลกฎหมายที่ดินในที่สุดมีคำพิพากษา เรื่องนี้เป็นหัวใจสำคัญ เพราะคนที่พูดเป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งการพูดและการแสดงออก ต้องพูดให้ครบ แต่ถ้าพูดไม่ครบ คนที่ฟังจะเกิดความสับสน และอาจเข้าใจไปในแนวทางที่พูดว่าเมื่อศาลตัดสินไปแล้ว ต้องทำตามคำสั่งของศาล ตนเองก็เห็นด้วย แต่ต้องดูว่าคดีความที่เกิดขึ้นนั้น มี 3 คดี ที่ศาลตัดสินพิพากษาไปแล้ว แต่ไม่มีคดีไหนเลยที่ศาลตัดสินให้เป็นที่ของการรถไฟ เพราะคนที่ไปฟ้องคดี เขาตัดสินสืบเนื่องจากคนมีที่ดินที่เป็น ส.ค. หรือ น.ส.3 ออกโฉนดไปฟ้องศาล ขอให้ศาลสั่งให้กรมที่ดินในจังหวัด ออกโฉนดให้ และการรถไฟก็ไปคัดค้าน และศาลตัดสินว่าที่ดินดังกล่าว ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิ์ได้ ประเด็นมีอยู่แค่นี้ แต่เมื่อนำไปพูดในสื่อ และการพูดเมื่อสักครู่สมาชิกหลายท่านเข้าใจว่าศาลตัดสิน และกรมที่ดินไม่ดำเนินการอะไร แต่ความจริงแล้ว กรมที่ดินดำเนินการหมดแล้วเป็นไปตามคำพิพากษาของศาลทุกประการ
นายทรงศักดิ์ กล่าวต่อว่า คดีที่ 1 มีการยกคำร้องขอออกโฉนด ออกโฉนดไม่ได้ แล้วก็เป็นการปฏิบัติตามคำสั่งของศาล เพราะศาลระบุว่าไม่ใช่ที่ที่จะออกโฉนดได้ คดีที่ 2 ปี 2561 ก็เช่นเดียวกัน เมื่อศาลตัดสินไม่ออกโฉนดกรมที่ดินก็ยกเลิกคำขอ และคดีที่ 3 ส่วนเรื่องที่มีการขอคำพิพากษา ศาลอุทธรณ์ภาค 3 ปี 63 เป็นคดีที่การรถไฟเป็นโจทก์ฟ้องราษฎรเรื่องขับไล่ เมื่อศาลมีคำสั่งว่าให้เพิกถอนกรมที่ดินก็ดำเนินการเพิกถอนเป็นที่เรียบร้อย
นายทรงศักดิ์ กล่าวว่า สรุปว่าเขากระโดงทุกคดีกรมที่ดินได้ดำเนินการเพิกถอนเป็นไปตามคำสั่งของศาลเป็นที่เรียบร้อย แต่ไม่ได้หมายความว่าศาลตัดสินให้ที่ดินทั้งหมดเป็นที่ของการรถไฟ ย้ำว่าไม่มี ส่วนเรื่องการดำเนินการตามมาตรา 61 เป็นเรื่องการเพิกถอน ซึ่งมีหลายวรรค หากเป็นวรรค 8 จะเป็นการเพิกถอนคำสั่งที่ดินที่มีโฉนดมีกรรมสิทธิ์ ซึ่งสามารถเพิกถอนได้ ส่วนเรื่องอื่น ๆ ศาลสั่งให้มีการเพิกถอน สั่งให้อธิบดีกรมที่ดินไปตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามมาตรา 61 วรรค 2 ที่มีการพิพาทกันทั้งหมดนี้สามารถเพิกถอนได้หรือไม่ ก็ดำเนินการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา แล้วตามกฎหมาย ไม่สามารถตั้งคนอื่นได้ ซึ่งที่ทราบมาไม่สามารถชี้แนวเขตได้อย่างชัดเจน และการขอให้การรถไฟแสดงการได้มาซึ่งที่ดินของการรถไฟ ซึ่งการได้มาซึ่งที่ดิน ไม่เหมือนประชาชน มีกฎหมายเฉพาะ มีพระราชกฤษฎีกาจัดวางรางและทางหลวง ไม่มีกฎหมายเรื่องการครอบครอง เพราะการครอบครองเป็นเรื่องของประชาชน การรถไฟจะได้กรรมสิทธิ์ที่ดินอะไรจะต้องได้มาตามพระราชกฤษฎีกา
นายทรงศักดิ์ ชี้แจงต่อว่า ทุกอย่างยังอยู่ในกระบวนการ ตนพ้นจากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยก็เห็นว่ามีการแถลงข่าวมีนายภูมิธรรม เวชยชัย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายเดชอิศม์ ขาวทอง อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ตั้งคณะกรรมการอะไรก็ไม่ทราบ ซึ่งไม่มีกฎหมายรองรับ และบอกว่าให้มีการเพิกถอนโฉนดต่าง ๆ ที่อยู่ในที่ดิน 995 แปลง 5,083 ไร่เศษ ที่บอกว่าจะถอนทันที จนบัดนี้ก็ยังไม่เห็นมีการเพิกถอน พร้อมย้ำว่า ขอให้กรมที่ดินดำเนินการไปตามกฏหมายต่อไป
ขณะที่พ.ต.อ.ทวี ขอใช้สิทธิ์พาดพิงว่า การที่บอกว่าตนพูดไม่ครบนั้น จริง ๆ ตนไม่ทราบว่าท่านได้ดูคำพิพากษาหรือไม่ เพราะคำพิพากษาที่ฟ้อง ประเทศไทยมีศาลคู่ มีศาลยุติธรรม และศาลปกครอง ซึ่งศักดิ์ของคำพิพากษาของศาลเหมือนกัน ในคำพิพากษาของศาลปกครอง ผู้ฟ้องคดีคือการรถไฟเข้าครอบครองที่ดินมาเกือบ 100 ปีแล้ว ขณะนั้น ประเทศไทยใช้ระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ เรื่อยมาจนกระทั่งบอกว่าที่ดินทั้ง 5,083 ไร่ 80 ตารางวา เป็นที่ดินของการรถไฟ ย่อมถือแสดงแนวเขต ซึ่งศาลวินิจฉัยสิ้นสุดแล้วเป็นการฟ้องทั้ง 5,000 กว่าไร่ ไม่ใช่รายแปลง และสั่งให้กรมที่ดินให้ผู้ถูกฟ้องที่สองคืออธิบดีกรมที่ดิน ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไทย ต้องไปดูแลรัฐต้องจัดการปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายตามมาตรา 61 ประมวลที่ดินคือการเพิกถอน เพราะเป็นที่ของการรถไฟ ให้ท่านไปดูอีกที ตนเอาคณะผู้พิพากษามาดูทั้งหมด ทุกคนยังเห็นว่าเป็นยังไง
“การทำให้คำพิพากษาเป็นเศษกระดาษ เหมือนกระดาษทิชชู และเอาคนกลุ่มหนึ่งที่มาชี้แจง และท้ายที่สุดเขาปฏิบัติตามคำพิพากษา มีการส่งแผนที่รับรองไปแล้ว ก็มายุติขึ้นมาอีก และเรื่องนี้ไม่จบแค่นี้” พ.ต.อ.ทวี กล่าว
ทำให้นายทรงศักดิ์ กล่าวว่า การจะดูว่าศาลตัดสินเรื่องอะไร ต้องดูทั้งโจทก์ และจำเลย ว่าฟ้องเรื่องอะไร ซึ่งฟ้องเรื่องของให้ศาลสั่งให้เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดไปออกโฉนด ศาลที่ไหนตัดสินเกินคำขอ ตัวเองไม่อาจก้าวล่วงศาล แต่คู่ความเขาพิพาทกันเรื่องอะไร เมื่อศาลตัดสินก็เท่านั้น แต่เนื้อหาของคำพิพากษา อาจเป็นการกล่าวถึงบ้าง แต่คู่ความเขาพิพาทกันเรื่องอะไร ก็เป็นไปตามนั้น จะเกินคำขอไม่ได้ ประชาชนไปร้องขอให้ออกโฉนดก็เฉพาะแปลงนั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ลูกพรรครอเก้อ! 'ทวี' ชิ่งประชุมสรรหาผู้สมัคร สส. พบโผล่หาดใหญ่กับคณะเพื่อไทย
พรรคประชาชาติได้จัดประชุมคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยที่ประชุมได้เห็นชอบส่งผู้สมัครเฉพาะใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้รวม 13 เขต มี 7 ส.ส. ในนามพรรคยังคงเป็นผู้สมัครในนามพรรค และรายชื่อทั้งหมดจะนำเข้าสู่การพิจารณาของ
ดร.ปลอดประสพ ประกาศลั่นไม่เชื่อรัฐบาลอีกแล้ว ยก 4 ข้อดีแต่พูด!
อดีตรองนายกฯปลอดประสพ ประกาศไม่ขอเชื่อรัฐบาลอีกแล้ว หลังเห็นเพียงคำพูดไร้การลงมือ ยกตัวอย่างปัญหาน้ำ วาระแห่งชาติสแกมเมอร์ เชลยศึกเขมร และการแก้รัฐธรรมนูญ สรุปเปรี้ยง!ดีแต่พูดและไม่ค่อยทำ
เอาแล้ว! อสส.ร่อนหนังสือด่วนถึง ‘ทวี’ ส่อขัดรธน.-แทรกแซงตุลาการปมนิรโทษฯบุกรุกป่า
16 ตุลาคม 2568 - ที่รัฐสภา ในการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง (พ.ร.บ.)นิรโทษกรรมแก่ราษฎร
ป.ป.ช. ยังเดินหน้าสอบคดี 'ภูมิธรรม-ทวี' แทรกแซงปมฮั้ว สว.
รองเลขาฯ ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณี สว.ยื่นเรื่องกล่าวหานายภูมิธรรม เวชยชัย อดีตรองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อดีต รมว.ยุติธรรม คดีกล่าวหาแทรกแซงฮั้ว สว. ว่า อาจแยกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่เป็นความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ


