‘มท.3’ ลงพื้นที่อุตรดิตถ์ติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม

“มท.3 ศักดิ์ดา” ลงพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์ ติดตามการช่วยเหลือและให้กำลังใจประชาชนผู้ประสบอุทกภัย ย้ำ รัฐบาลไม่ทอดทิ้งประชาชนในยามยากลำบาก

5 ต.ค. 68 – เวลา 10.00 น. ที่วัดศรีสะอาด ต.น้ำอ่าง อ.ตรอน จ.อุตรดิตถ์ นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ติดตามการช่วยเหลือและให้กำลังใจประชาชนผู้ประสบอุทกภัย โดยมี นายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง นายสหรัฐ วงศ์สกุลวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายพชรเศรษฐ์ บุญศิริสาริศา รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ ตลอดจนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมลงพื้นที่

โดยเมื่อเดินทางถึง นายศักดิ์ดา ได้กล่าวพบปะและให้กำลังใจประชาชน โดยกล่าวเน้นย้ำว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะรัฐมนตรี มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน ซึ่งได้มีการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์และให้ความช่วยเหลือประชาชนตั้งแต่ 27 กันยายนที่ผ่านมา พร้อมทั้งได้มีการแต่งตั้ง “คณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติ” หรือ “คอภ.” เพื่อเป็นกลไกหนุนเสริมการบริหารจัดการสาธารณภัย พร้อมกันนี้ คณะรัฐมนตรี รวมถึงหัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ ได้กระจายกำลังกันลงพื้นที่จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยทั่วประเทศ เพื่อติดตามการบริหารจัดการสถานการณ์สาธารณภัยภายใต้การนำของท่านผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะผู้อำนวยการจังหวัด และหาแนวทางในการเสริมกำลังเพื่อให้การบริหารจัดการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

“ในขณะนี้ รัฐบาลได้มอบหมายให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางด้านวิชาการ ได้ระดมสรรพกำลังทุกภาคส่วนแสวงหาแนวทางการป้องกันน้ำท่วมในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในมิติด้าน “การป้องกัน” ซึ่งอาจต้องใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก แต่หากคิดคำนวณเปรียบเทียบกับจำนวนเงินงบประมาณที่ใช้ในการเยียวยาเมื่อเกิดภัยแต่ละครั้งที่เป็นการแก้ไขปัญหาระยะสั้น พบว่าจะมีความคุ้มค่าและจะเกิดประโยชน์ในระยะยาวอย่างยั่งยืน โดยขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างเร่งศึกษาและหาแนวทาง”

รมช.มหาดไทย เน้นย้ำว่า แต่ในขณะนี้ได้เกิดสถานการณ์อุทกภัยในหลายพื้นที่ รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ และดำเนินมาตรการการเยียวยา ด้วยการลงพื้นที่แจกจ่ายถุงยังชีพตามวงรอบอย่างต่อเนื่อง และได้สนับสนุนบทบาทของผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ผู้บริหาร อปท. ในการใช้อำนาจตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และแผนเผชิญเหตุซึ่งได้มีการเตรียมการอย่างต่อเนื่อง ให้พี่น้องประชาชนได้มีปัจจัย 4 ทั้งอาหาร เสื้อผ้า ยารักษาโรค และที่อยู่อาศัย เราให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เราไม่ทอดทิ้งพี่น้องในยามยากลำบาก

จากนั้น นายศักดิ์ดา นำคณะ มอบเครื่องอุปโภค บริโภค จำนวน 500 ชุด ให้กับประชาชนในพื้นที่ พร้อมทั้งเดินเท้าเข้าไปยังหมู่บ้านเพื่อมอบถุงยังชีพและพูดคุยให้กำลังใจประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย และมอบถุงยังชีพ ซึ่งเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น

สำหรับพื้นที่อำเภอตรอน จังหวัดอุตรดิตถ์ ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์พายุบัวลอย ส่งผลให้เกิดอุทกภัยใน 4 ตำบล 20 หมู่บ้าน 2,868 ครัวเรือน สถานการณ์ในปัจจุบันระดับน้ำลดลงกลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดยฝ่ายปกครองได้ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและทุกภาคส่วนเร่งทำำความสะอาดล้างคราบน้ำและดินโคลนที่ไหลมากับน้ำและทำให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย  และหลังจากบูรณะฟื้นฟูแล้ว ทางราชการจะได้ทำการฟื้นฟูและสำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนตามกฎหมายต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เลือกตั้งซ่อมกาญจน์' เดือดพลั่ก! 'ศักดิ์ดา' แจ้งความ 'เต้น ณัฐวุฒิ' หมิ่นประมาท

"ศักดิ์ดา" รมช. มหาดไทย แจ้งความหมิ่นประมาท "ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ" ปมโพสต์ภาพขึ้นห้องนายอำเภอบ่อพลอย-นัดผู้นำท้องถิ่นกินข้าวช่วงเลือกตั้งซ่อม สส.กาญจนบุรี

เดือด! อดีต รมช.มท.ซัก รมช.มท.ปมย้าย ขรก.-แก๊งคอลฯ

'ธีรรัตน์' จัดหนักถามกระทู้โยกย้าย ขรก.มหาดไทยล๊อตใหญ่เขาผิดอะไร -ปล่อยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ระบาดอีกครั้ง 'ศักดิ์ดา' สวนกลับ รบ.สมัยที่แล้วโยกย้าย 3 ครั้ง ลั่นรัฐบาลนี้ไม่มีลุง ไม่มีนายทุน

'ศักดิ์ดา' ขยี้ 'พท.' เครื่องพัง เลือดไหลไม่หยุด มั่นใจลูกสาวคว้าชัย

'ศักดิ์ดา' มั่นใจลูกสาวกวาดคะแนนเลือกตั้งซ่อม เชื่อคนกาญจน์ไม่เอาคนแปลกหน้า สบช่องขยี้ 'เพื่อไทย' เลือดไหลไม่หยุด จ่อออกอีกเพียบ สส.อึดอัดไม่แก้ราคาพืชผลเกษตร ยกเครื่องใหม่ไร้ความหมาย

เพื่อไทยคุยหัวใจคนเมืองกาญจน์ยังเป็นสีแดง

มั่นใจ ‘หัวใจคนเมืองกาญจน์ยังเป็นสีแดง' ส่ง ‘ณัฐวุฒิ’ นำทีมดาวเด่นลงพื้นที่ทวงเก้าอี้ สส. ล้มคู่แข่งที่ทิ้งพรรคไปสังกัด ‘เครือข่ายสีน้ำเงิน’