
19 ต.ค. 2568 -“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ย้ายพรรค…ย้ายใจประชาชน?” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,117 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 14-17 ตุลาคม 2568 พบว่า กลุ่มตัวอย่างมองว่าการย้ายพรรคเป็นเรื่องปกติทางการเมือง เห็นเป็นประจำ ร้อยละ 61.32 รองลงมาคือ มองว่านักการเมืองขายตัว ซื้อตัวกัน ดูด สส. ร้อยละ 52.91 สาเหตุที่นักการเมืองย้ายพรรคเกิดจากต้องการหาพรรคที่มีอุดมการณ์ตรงกับตนเอง ร้อยละ 58.46 รองลงมาคือ คิดว่าพรรคเดิมอาจแพ้การเลือกตั้ง ร้อยละ 48.34 ทั้งนี้หากมีการเลือกตั้งจะตัดสินใจเลือกผู้สมัครจากนโยบายเรือธงของพรรค ร้อยละ 63.47 รองลงมาคือ ผลงานที่เป็นรูปธรรม ร้อยละ 45.84 โดยการย้ายพรรคไม่มีผลต่อการตัดสินใจ เลือกพรรคที่ชอบเท่านั้น ร้อยละ 35.81 สุดท้ายการย้ายพรรคของนักการเมืองทำให้รู้สึกไม่เชื่อมั่นต่อเสถียรภาพการเมืองไทย ร้อยละ 44.85
ดร.พรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่า กระแสการย้ายพรรคเริ่มชัดเจนขึ้นเมื่อเข้าสู่ช่วงก่อนเลือกตั้งแม้ประชาชนมองว่าเป็นเรื่องปกติทางการเมือง แต่ภาพลักษณ์เชิงลบยังปรากฏอยู่ โดยเฉพาะการย้ายเพื่อผลประโยชน์หรือความอยู่รอดทางอำนาจ ผลโพลชี้ว่าการย้ายพรรคอาจยังไม่ส่งผลต่อการตัดสินใจโดยจะยังเลือกพรรคที่ชอบ ทว่าการย้ายพรรคไปมา กลับบั่นทอนความเชื่อมั่นต่อเสถียรภาพของระบบการเมืองไทย จึงเป็นความท้าทายที่ทุกพรรคการเมืองต้องเร่งฟื้นศรัทธาและสร้างอุดมการณ์ให้มั่นคงในสายตาประชาชน
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เอกอนงค์ ศรีสำอางค์ อาจารย์ประจำหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต โรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า ผลโพลสะท้อนว่าประชาชนมองการย้ายพรรคเป็นเรื่องปกติแต่ยังมีความไม่ไว้วางใจ เห็นเป็นปรากฏการณ์ปกติแต่ก็มองเป็นการซื้อขายทางการเมือง และลดความเชื่อมั่นต่อเสถียรภาพการเมืองไทย แสดงให้เห็นถึงความขัดแย้งระหว่างการยอมรับความจริงทางการเมืองกับความไม่พอใจในพฤติกรรมของนักการเมือง สาเหตุหลักที่นักการเมืองย้ายพรรคคือหาความสอดคล้องทางอุดมการณ์ และกลัวพรรคเดิมจะแพ้เมื่อมีการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตามประชาชนให้ความสำคัญกับนโยบายเรือธง และผลงานเป็นรูปธรรมมากกว่าการยึดติดต่อการย้ายพรรค ซึ่งส่งสัญญาณว่าพรรคและผู้สมัครต้องโชว์นโยบายชัดเจนและผลงานเพื่อเรียกความเชื่อมั่น ดังนั้นพรรคการเมืองควรเน้นความโปร่งใส สร้างนโยบายชัดเจนและผลงานจับต้องได้ เพื่อลดการมองว่าเป็นการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์และฟื้นฟูความมั่นคงทางการเมืองในอนาคตต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อนุทิน' ยันไม่มีดีลเพื่อไทยชะลอยื่นซักฟอกรัฐบาล
"อนุทิน" ลั่นเตรียมทุกอย่างให้พร้อมรอเลือกตั้ง ยังไม่บอกพร้อมจับมือหลังลต.กับพรรคใด ไม่กังวลกระแสตกห่วงแต่แก้ปัญหาน้ำท่วมได้ไม่ทันใจ
'สุชาติ' นัดเคลียร์ 'สนธยา' แบ่งโซนส่ง 10 ผู้สมัคร สส.ชลบุรี ลั่นเขต 1 ขอลงเอง
"สุชาติ" เผยนัดคุย "สนธยา" วางตัว 10 ว่าที่ผู้สมัครสส.ชลบุรี คาดจบภายใน 1-2 วันนี้ ขอจองเขต 1 ลงเอง ส่วนภาพรวมดูความเหมาะสมใครถนัดลงเขตไหน ลั่นอยากให้ ภท. เป็นหนึ่งเดียวในชลบุรี บอกยังไม่มีสัญญาณยุบสภา
‘เฉลิม’ ยืนยันลาออกพ้นเพื่อไทย เตรียมย้ายซบพลังประชารัฐ
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เผยเซ็นลาออกจากพรรคเพื่อไทยแล้ว เตรียมยื่น กกต. วันที่ 3 ธ.ค. ย้ำเป็นเหตุผลทางการเมือง ไม่มีการแจ้งแพทองธาร และยังไม่ได้คุยกับวัน อยู่บำรุง ก่อนประกาศชัด
‘สุรเดช’ รับคำสั่ง ‘ลุงป้อม’ คุมภาคเหนือ ลั่นสู้ศึกเลือกตั้งด้วยผู้สมัครเกรด A
นายสุรเดช ยะสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังได้รับมอบหมายให้ดูแลพื้นที่ภาคเหนือว่า ตนได้รับมอบหมายจากพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้ดูแล


