นายกฯ ถก 'ABAC' ชูจุดเด่นความได้เปรียบของไทยเป็น 'สะพาน' การค้า การลงทุน เชื่อมโยงภูมิภาค

นายกฯ เข้าร่วมการหารือระหว่างผู้นำเอเปคกับสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปค (ABAC) ชูจุดเด่นความได้เปรียบของไทยในการเป็น 'สะพาน' การค้า การลงทุน และความเชื่อมโยงภูมิภาค พร้อมเสนอให้เอเปคยังคงรักษาเรื่องการความเปิดกว้างของตลาด การขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืน และการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน รวมถึงสร้างสะพานแห่งความร่วมมือ

31ต.ค.2568- เมื่อ เวลา 12.30 น. (ตามเวลาท้องถิ่นเมืองคยองจู ซึ่งเร็วกว่ากรุงเทพฯ 2 ชั่วโมง) ณ ห้อง 300A ศูนย์ประชุม Hwabaek International Convention (HICO) ชั้น 3 เมืองคยองจู สาธารณรัฐเกาหลี นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วมการหารือระหว่างผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคกับสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปค (ABAC Dialogue with APEC Economic Leaders) โดยเป็นผู้แทน ABAC จากชิลี บรูไน จีน และมาเลเซีย เพื่อแลกเปลี่ยนแนวทางส่งเสริมศักยภาพของไทยด้านเศรษฐกิจ และบทบาทของเอเปคในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและพร้อมรับความเปลี่ยนแปลงในอนาคต

ในหัวข้อเรื่อง “ศักยภาพของไทยในการส่งเสริมการค้า การลงทุน และความเชื่อมโยงในภูมิภาค” นายกรัฐมนตรีกล่าวถ้อยแถลงเสนอ 3 แนวทางดังนี้

1) การเสริมสร้างความเชื่อมโยงระดับภูมิภาค (Enhancing Regional Connectivity) โดยไทยตั้งอยู่ใจกลางภูมิภาคเอเชีย จึงเป็น “สะพาน” เชื่อมโยงเอเชียใต้ เอเชียตะวันออก และอาเซียน ทำให้ไทยมีศักยภาพเป็นศูนย์กลางด้านการค้า โลจิสติกส์ และการลงทุน ทั้งนี้ รัฐบาลกำลังลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เช่น โครงการแลนด์บริดจ์ เพื่อเชื่อมโยงมหาสมุทรอินเดียกับแปซิฟิก และสร้างเส้นทางห่วงโซ่อุปทานใหม่ รวมถึงยกตัวอย่างความร่วมมือในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ประเทศไทยมีบทบาทสำคัญในการรักษาความต่อเนื่องของการขนส่งสินค้าและการเดินทางระหว่างประเทศผ่านโครงการ APEC Safe Passage Corridor

2) การลงทุนเพื่ออนาคต (Investing in the Future) ภายใต้นโยบาย Quick Big Win ที่มุ่งเน้นการดำเนินการระยะสั้นเพื่อผลลัพธ์ระยะยาว ไทยส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต เช่น รถยนต์ไฟฟ้า (EVs) เซมิคอนดักเตอร์ ชีวเทคโนโลยี และปัญญาประดิษฐ์ (AI) พร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการสตรีและสตาร์ทอัพ ผ่านโครงการพัฒนาศักยภาพและการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อให้การเติบโตทางเศรษฐกิจมีความครอบคลุมและเป็นธรรมสำหรับทุกคน

3) การขับเคลื่อนการเติบโตสีเขียวและยั่งยืน (Driving Green and Sustainable Growth) โดยภายใต้เป้าหมายกรุงเทพฯ หรือ Bangkok Goals on the Bio-Circular-Green Economy ไทยเป็นผู้นำในการผลักดันอุตสาหกรรมสีเขียว การลงทุนตามหลัก ESG และการเงินที่มีความรับผิดชอบ พร้อมขอบคุณสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปคที่ให้คำมั่นสนับสนุนแนวทางดังกล่าว

นอกจากนี้ ไทยยังมีมาตรการจูงใจทางภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนในพลังงานสะอาด อุตสาหกรรมปิโตรเคมีมูลค่าสูง และอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง รวมทั้งตั้งเป้าการเข้าเป็นสมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ภายในปี 2573 เพื่อยกระดับมาตรฐานธรรมาภิบาล ความโปร่งใส และความร่วมมือใกล้ชิดยิ่งขึ้นกับประเทศสมาชิกเอเปค

นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า ภาครัฐเป็นผู้กำหนดทิศทาง แต่ภาคธุรกิจคือผู้ทำให้สิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นจริง ดังนั้นความร่วมมือกับ ABAC จึงมีความสำคัญมาก เชื่อมั่นว่าด้วยการทำงานร่วมกัน ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกจะสามารถสร้างความเชื่อมโยง ความสามารถในการแข่งขัน และความยั่งยืน เพื่อประโยชน์ของประชาชนในทุกเขตเศรษฐกิจ

โอกาสนี้ ทาง ABAC ยังสอบถามถึงได้แนวทางที่เอเปคควรดำเนินการท่ามกลางความท้าทายทางภูมิรัฐศาสตร์ เพื่อสร้างภูมิภาคที่ยั่งยืน มีความพร้อมต่ออนาคต และสามารถคาดการณ์ได้

โดยนายกรัฐมนตรี เสนอว่า จุดแข็งของเอเปคอยู่ที่ความครอบคลุมและลักษณะความร่วมมือโดยไม่ผูกพันทางกฎหมาย ซึ่งเปิดโอกาสให้ทดลองแนวคิดใหม่ ๆ สร้างความไว้วางใจ และเปลี่ยนศักยภาพให้เป็นโอกาสแห่งความร่วมมือ พร้อมเสนอให้เอเปคมุ่งเน้น 3 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ รักษาการเปิดกว้างของตลาด การขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืน และการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะในช่วงที่แนวโน้มกีดกันทางการค้าและความตึงเครียดทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น เอเปคควรยึดมั่นในระบบพหุภาคีและกลไกการค้าเสรีบนพื้นฐานของกติกา เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคธุรกิจและรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ โดยเขตเศรษฐกิจขนาดใหญ่มีบทบาทสำคัญในการใช้ศักยภาพเพื่อสร้างความไว้วางใจและส่งเสริมความร่วมมือ แทนที่จะสร้างความแบ่งแยก

นอกจากนี้ เอเปคจำเป็นต้องเตรียมภูมิภาคให้พร้อมต่ออนาคต ผ่านการส่งเสริมการเติบโตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ดิจิทัล และครอบคลุม โดยยึดตามวิสัยทัศย์ Putrajaya 2040 และเป้าหมายกรุงเทพฯ (Bangkok Goals) ควบคู่กับการลงทุนในพลังงานสะอาด การปรับตัวสู่ดิจิทัล และการสร้างห่วงโซ่อุปทานที่มีความยืดหยุ่น โดยได้รับการสนับสนุนจากระบบการเงินที่สอดคล้องกับหลัก ESG พร้อมเน้นย้ำว่า ความร่วมมือกับภาคเอกชนมีความสำคัญมาก หวังว่า ABAC จะยังคงแสดงบทบาทเชิงสร้างสรรค์และการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง

ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวสนับสนุนการเจ้าภาพเอเปคในปีหน้าของจีนอย่างเต็มที่ โดยเชื่อมั่นว่าจะช่วยเสริมสร้างความร่วมมือ เสถียรภาพ และโอกาสใหม่ให้กับภูมิภาค

“เอเปคจะทำงานได้ดีที่สุด เมื่อสร้างสะพานแห่งความร่วมมือ ไม่ใช่กำแพงแห่งความแตกแยก และเอเปคได้ร่วมกันเปลี่ยนความท้าทายให้เป็นความก้าวหน้าร่วมกัน” นายกรัฐมนตรี กล่าวทิ้งท้าย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'พ่อนายกฯ' เข้าตึกไทยฯ ร่วมทานมื้อกลางวัน 'อนุทิน' พาชมห้องทำงาน นั่งเก้าอี้นายกฯ เป็นสิริมงคล

นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดานายอนุทิน ได้เดินทางเข้ามาที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อรับประทานอาหารกลางวันกับนายกรัฐมนตรี โดยนายกรัฐมนตรี ได้ลงมารอรับนายชวรัตน์

'อนุทิน' โบ้ย ครม.ตั้ง 'ธนดล' เป็นเรื่องพรรคร่วม จะเป็นสายล่อฟ้าหรือไม่ให้ถาม 'ธรรมนัส'

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีครม. มีมติแต่งตั้ง นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ อดีตปรึกษา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรมว.เกษตรและสหกรณ์ ให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง

'ศุภจี' เผยไทยเนื้อหอมต่างชาติต่อคิวจีบ ชูจุดขายศูนย์กลางความมั่นคงทางอาหารของโลก

“พาณิชย์” ร่วมคณะนายกฯ แถลงความสำเร็จเวทีอาเซียน–เอเปค นำไทยกลับสู่เวทีการค้าโลก มุ่งสู่ศูนย์กลางความมั่นคงทางอาหารและเศรษฐกิจดิจิทัล สร้างพันธมิตรใหม่–ขยายตลาดการค้า2

นายกฯถกผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก รอบที่ 1 ดันให้เปิดกว้าง ส่งเสริมการมีส่วนร่วม มุ่งสู่อนาคต

นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค รอบที่ 1 (Session I) ผลักดันเอเปคที่เปิดกว้าง ส่งเสริมการมีส่วนร่วม และมุ่งสู่อนาคต

เปิดภารกิจ 'อนุทิน' วันที่สามเวทีเอเปก จับตาถกทวิภาคี 'สี จิ้นผิง'

โฆษกรัฐบาลเผยภารกิจ 'นายกฯอนุทิน' วันที่สาม ในการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกครั้งที่ 32 ตอกย้ำบทบาทเชิงรุกของไทยในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก จับตาถกทวิภาคีปธน. 'สี จิ้นผิง'

ชมภาพชุด 'อนุทิน' ดินเนอร์ผู้นำเอเปค ร่วมโต๊ะ 'โดนัลด์ ทรัมป์'

นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำเป็นกรณีพิเศษ โดย ปธน.เกาหลีใต้ เป็นเจ้าภาพ เพื่อเป็นเกียรติแก่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค สะท้อนบทบาทของผู้นำไทยที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาคมโลก