ดร.ณัฏฐ์ ผ่าเกมแก้รธน. วันรัฐธรรมนูญภายใต้อำนาจกลุ่มการเมือง

นักกฎหมายมหาชนชี้ ครบรอบวันรัฐธรรมนูญปีที่ 93 ประเทศยังติดหล่มอำนาจกลุ่มผลประโยชน์ เกมแก้รัฐธรรมนูญถูกคุมโดยฝ่ายอนุรักษนิยม แม้เดินถึงวาระ 2 แต่ยังเสี่ยงสะดุดทั้งประชามติ 3 ครั้ง และด่าน สว. ในวาระ 3

10 ธันวาคม 2568 - สืบเนื่องจากนายมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาได้เปิดประชุมวิสามัญกรณีพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 (8) ในวาระ 2  ระหว่างวันที่ 10 - 11 ธันวาคม 2568 โดยวันนี้ตรงกับวันครบรอบรัฐธรรมนูญนั้น

ล่าสุด “ดร.ณัฏฐ์” หรือ ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชน ได้ให้ความเห็นเพื่อประโยชน์สาธารณะและกล่าวว่า เป้าหมายสูงสุดที่ประชาชนไทยต้องการรัฐธรรมนูญที่เป็นกติกาสูงสุดของประเทศที่ใช้ร่วมกันอย่างมี “ประสิทธิภาพสูงสุด” และ “ยอมรับกันได้ทุกฝ่าย”

โดยเป้าหมายสิทธิขั้นพื้นฐานคุ้มครองศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคของพี่น้องประชาชน โดยตั้งข้อรังเกียจรัฐรรมนูญฉบับไม่เป็นประชาธิปไตยอันเกิดจากคณะรัฐประหารที่ได้มาซึ่งอำนาจการปกครองประเทศนอกวิถีทางรัฐธรรมนูญ

อำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญ “ประชาชน” เป็นเจ้าของอำนาจ ตรงกับเจตจำนงเป้าหมายเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบใหม่ของคณะราษฎรที่ว่า “อำนาจสูงสุดของประเทศนั้นเป็นของราษฎรทั้งหลาย” ใน มาตรา 1 พระราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราว พุทธศักราช 2475

เจตจำนงในการเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบใหม่เพื่อให้มี “รัฐธรรมนูญ” และ “ระบบรัฐสภา” หรือ Parlimentary System

พูดภาษาชาวบ้าน คือ การให้ประชาชนปกครองกันเอง ให้มีรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ ผู้ปกครองต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ใช้อำนาจตามอำเภอใจไม่ได้อีกต่อไป โดยโครงสร้างการเมืองการปกครองของประเทศใช้ระบบการแบ่งแยกอำนาจ มิให้อำนาจอยู่ภายใต้บุคคลคนเดียว โดยให้พระมหากษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ

เหตุที่เป็นเช่นนี้ รัฐธรรมนูญเป็นกลไกกำหนดสิทธิขั้นพื้นฐานให้เสมอภาคและเท่าเทียมกัน รวมถึงการออกแบบสถาบันทางการเมืองของไทย โดยประชาชนเจ้าของอำนาจ ใช้อำนาจประชาธิปไตยทางตรง เรียกว่า “การออกเสียงประชามติ”และใช้อำนาจประชาธิปไตยทางอ้อมผ่านตัวแทน เรียกว่า “การเลือกตั้ง”

ระบบรัฐสภา กำหนดให้รัฐสภา (ฝ่ายนิติบัญญัติ) “เป็นใหญ่” เพราะมาจากการเลือกตั้งของประชาชน โดยหลักการแบ่งแยกอำนาจ ฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหารและฝ่ายตุลาการ มีอิสระและถ่วงดุล ตรวจสอบซึ่งกันและกัน

แต่รัฐธรรมนูญ กำหนดนิติสัมพันธ์ระหว่าง“ประชาชน” กับ “ออกเสียงประชามติ”

พรบ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ.2564 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 มาตรา 10 ให้ประธานรัฐสภาแจ้งนายกรัฐมนตรีในการออกเสียงประชามติแก้รัฐธรรมนูญ กำหนดเวลาไม่เร็วกว่า 90 วันและไม่ช้ากว่า 120 วัน โดยมาตรา 11/1 กำหนดให้จัดออกเสียงประชามติกับวันเลือกตั้งระดับชาติหรือท้องถิ่นได้ และในมาตรา 13 “ข้อยุติในการออกเสียงประชามติให้ใช้เสียงข้างมาก”

ปัญหาว่า ศาลรัฐธรรมนูญตีความอำนาจหน้าที่รัฐสภา ระบุชัด รัฐสภาจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ แต่ต้องจัดให้ประชาชนออกเสียงประชามติสอบถามประชาชนเจ้าของอำนาจ ผู้สถาปนาอำนาจรัฐธรรมนูญก่อน โดยกำหนดให้จัดทำประชามติถึง 3 ครั้ง โดยครั้งที่ 1 - 2 จัดออกเสียงประชามติรวมกันมาได้

โดยตีความมัดและเสร็จเด็ดขาด “ห้ามรัฐสภาจัดให้ประชาชนเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญ”

พูดภาษาชาวบ้าน คือ  ห้ามรัฐสภาจัดให้มีการเลือกตั้ง สสร. ไม่ว่าขั้นตอนหนึ่ง ขั้นตอนใดของกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ หากฝ่าฝืน ตกเป็นโมฆะ  

รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน โดยประชาชนมีส่วนร่วมในการออกแบบ

รัฐธรรมนูญของไทยเคยเกิดขึ้นในอดีต อาทิ รัฐธรรมนูญปี 2517 เกิดหลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 และรัฐธรรมนูญ 2540 แต่ทั้งสองฉบับถูกฉีกขาดโดยคณะรัฐประหาร

แต่รัฐธรรมนูญ 2560 ฉบับซ่อนรูปโดย คสช. ยกระดับกระชับอำนาจ ในการตั้งรัฐบาลนาวาภายใต้การเลือกตั้งปี 2562 และปี 2566 ไม่เป็นไปตามประเพณีการปกครองระบอบประชาธิปไตยในการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก กลับตั้งรัฐบาลไม่ได้ แต่ส้มหล่นเป็นพรรคการเมืองลำดับสองที่รวบรวมเสียงข้างมากได้ โดยมีตัวแปรหลัก “สว. 250 คน มีอำนาจเลือกนายกรัฐมนตรี” เป็นกับดัก มาตรา 272 วรรคหนึ่ง เมื่อพ้นอำนาจ สว. ยังเจอกับดักในเรื่อง มาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ภายหลังบริหารประเทศ

เหตุเพราะคำว่า “มาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง” ใน รัฐธรรมนูญ มาตรา 219 ประกอบข้อกำหนดมาตรฐานจริยธรรมปี 2561 “เป็นยาแรง” โดยใช้บังคับทั้ง สส. สว.หรือคณะรัฐมนตรี รวมถึง 5 องค์กรอิสระ

แม้เกมแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านวาระที่ 2 แต่ยังเจอกับดัก ในวาระที่ 3 โดยรัฐธรรมนูญฉบับแก้ยาก ต้องมี สว. 1 ใน 3 หรือจำนวน 67 คน “เป็นบทบังคับเด็ดขาด

แต่เกมการเมืองระหว่างขั้วอำนาจเป็นเรื่องเฉพาะ “กลุ่มผลประโยชน์ทางการเมือง” มิใช่ผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง เกมผลักดันให้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เป็นการสร้างคะแนนนิยมทางการเมืองแต่ละพรรคก่อนการเลือกตั้งใหญ่ แต่

เกมแก้รัฐธรรมนูญ มีเงื่อนไข “ต้องผ่านวาระที่ 3 และผ่านประชามติ”

ส่วนเนื้อหาร่างพิมพ์เขียวรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ อยู่ที่กำหนดเกมว่า คณะใด กลุ่มใด เป็นผู้ร่าง โดยใช้เสียงข้างมากลากไป โดยเฉพาะกลุ่มที่มีอำนาจชิงความได้เปรียบ หากพลาดพลั้ง คุมเกมไม่ได้ ย่อมเปิดช่องให้ล้มกระดานร่างพิมพ์เขียวฉบับใหม่ ทำให้เสียงบประมาณในการจัดทำ โดยโยนความผิดให้แก่รัฐธรรมนูญ 2560 อ้างว่า แก้ยาก

เป้าหมายเขียนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ “ยังไม่แน่ชัดว่าจะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่” เพราะรัฐธรรมนูญฉบับแก้ยาก วางกับดัก หลุมพราง ไว้รอบด้านเป็นหลุมพราง

เนื่องในโอกาสครบรอบ 93 ปี “รัฐธรรมนูญ” และ“ระบบรัฐสภา” เป็นตัววัดระดับประชาธิปไตยของไทย ทั้งในประชาธิปไตยในเนื้อหาและในรูปแบบความเสถียรภาพของรัฐบาลจะเข้มแข็งหรือไม่ เกิดจาก “กลุ่มผลประโยชน์ทางการเมือง” แย่งชิงอำนาจเป็นหลัก เห็นได้จาก ขณะนี้เกิดภาวะสู้รบปัญหาขายแดนไทย-กัมพูชา ประชาชนเรือนแสนชายแดนอพยพหนีภัย แต่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ผู้นำประเทศ สวมหมวกสองใบ หัวหน้าพรรคภูมิไจไทย ยังเดินหน้าเปิดตัวผู้สมัคร สส.เขต โดยมุ่งถึงการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้ง ที่ชิงความได้เปรียบรวบรวมบ้านใหญ่ในมือเพื่อรวบรวมเสียงอันดับ 1 แต่ในแง่การเมือง อำนาจในการกำหนดให้พรรคการเมืองใดชนะเลือกตั้ง เป็นเสียงของ “ประชาชน” ตัวชี้ขาด มิใช่ เกิดจาก “พรรครัฐบาลใช้พลังดูดบ้านใหญ่” ให้ได้เสียงมากสุด

ในการจัดทำรัฐธรรมนูญ แม้ สสร. จากภาคประชาชนไม่มีส่วนร่วมในการร่างพิมพ์เขียวรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่ในกระบวนการจัดทำประชามติถึง 3 ครั้ง เป็นหลักประกันที่ประชาชนเจ้าของอำนาจผู้สถาปนารัฐธรรมนูญจะ “เห็นชอบ” กับร่างพิมพ์เขียวรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ แต่การร่างและออกแบบเป็นไปตามธงของผู้มีอำนาจและอาจล้มกระดานได้ โดยไร้หลักประกัน เกมอำนาจหลักอยู่ที่“ฝ่ายอนุรักษนิยม”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ยิ่งเละ! ผอ.iLaw เหน็บนักข่าวมัวแต่ไปเขียนเรื่องสงครามเรียกเอ็นเกจเม้นต์

นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้อำนวยการ iLaw โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงกิจกรรมการเดินรณรงค์เรียกร้องรัฐธรรมนูญฉบับประชาธิปไตย ในวันที่ 10 ธ.ค. ว่า

'ภูมิใจไทย' ชงญัตติด่วน ให้รัฐสภาถกคำถามที่ 1 ทำประชามติเห็นด้วยหรือไม่ ร่างรธน.ใหม่ ก่อนส่ง ครม.

"ภูมิใจไทย" ชงญัตติด่วนพรุ่งนี้ ให้ "รัฐสภา" ถกคำถามประชามติคำถามแรกไปยัง ครม.หลังจบแก้ไขรธน.วาระ 2 คาดลงมติ วาระ 3 ช่วง 29 ธ.ค.หรือ ต้นม.ค.69

'วิปรัฐบาล' ไฟเขียวประชุมร่วมรัฐสภา ถกแก้ รธน. เพิ่มอีก 1 วัน ให้จบวาระ 2

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ที่มีนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ในฐานประธานวิปรัฐบาล ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ซึ่งมีวาระสำคัญคือกรอบเวลาในการประชุมร่วมรัฐสภารัฐสภา

ดร.ณัฏฐ์ อัดเพื่อไทยสับขาหลอกเล่นสองหน้า ปมยื่นฟันจริยธรรมอนุทิน-รมต.สีเทา

นักกฎหมายมหาชนชี้ การยื่นสอยนายกฯ-รมต.สีเทา เป็นเกมสับขาหลอก เหล้าเก่าในขวดใหม่ เพื่อปั่นราคาและกดดันการเมือง มากกว่าตรวจสอบจริงจัง

'วันนอร์' ขอศพชาวมุสลิม สืบพยานแทนขุดมาพิสูจน์จ่ายเยียวยา

'ปธ.รัฐสภา' ลงพื้นที่หาดใหญ่ มอบ 1.1 แสนบาท ช่วยน้ำท่วม แนะ 'รัฐบาล' เก็บขยะช่วงสามทุ่มถึงหกโมงเช้า หวั่น ดำเนินการช้า เชื้อโรคแพร่กระจายสู่ประชาชน เสนอใช้วิธีสืบพยานแทนขุดศพมุสลิมพิสูจน์จ่ายค่าชดเชย

ดร.ณัฏฐ์ ผ่าเกมแก้รัฐธรรมนูญ วาระ 3 คือดักทาง ยุบสภาปี 68 เป็นศูนย์

นักกฎหมายมหาชนชี้ แก้รัฐธรรมนูญแม้ผ่านวาระ 2 ไม่ยาก แต่ต้องแช่แข็งร่าง 15 วันก่อนขึ้นวาระ 3 ทำเกมยุบสภาไร้ทางเกิดขึ้นภายในปีนี้ ขณะตัวแปรชี้ชะตาอยู่ที่เสียง สว. สีน้ำเงิน ในขั้นสุดท้ายก่อนประชามติ