'ส.ส.เพื่อไทย' ปูดรัฐบาลชิงยุบสภาฯก่อน 22 พ.ค. หนีอภิปรายไม่ไว้วางใจ

5 มี.ค.2565 - นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในสมัยประชุมหน้าว่า หลังจากเปิดประชุมสภาวันที่ 22พ.ค. คาดว่า กมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. และร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง จะยื่นเรื่องเข้าที่ประชุมรัฐสภา พิจารณาวาระ2-3ได้ ประมาณปลายเดือนพ.ค. ถึงต้นเดือนมิ.ย. ซึ่งเมื่อพิจารณาเสร็จเรียบร้อย พรรคจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในเดือนมิ.ย. แต่ขณะนี้เริ่มได้ยินกระแสข่าวพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม จะชิงยุบสภาก่อนเปิดประชุมสภาในวันที่ 22พ.ค.นี้ เพื่อหนีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ดูแล้วมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น แต่ถือว่าเหตุผลไม่สมควร เพราะสภาไม่ได้เกิดปัญหา ถ้าไปยุบสภาก่อนเท่ากับหนีการซักฟอก ไม่สง่างาม ขณะนี้การพิจารณาร่างกฎหมายลูก 2ฉบับ อยู่ระหว่างการพิจารณาของกมธ.วิสามัญฯเหลืออีกแค่ 2เดือน ควรออกฎหมายลูกให้เสร็จสิ้นก่อน ถ้าไปชิงยุบสภาก่อน ยิ่งตอบโจทย์ว่า รัฐบาลกลัวการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และกลัวจะไม่มีคนยกมือให้ในเวทีซักฟอก
 
เมื่อถามว่ารัฐบาลจะชิงยุบสภา เพื่อชิงความได้เปรียบในการออกพระราชกำหนด(พ.ร.ก. ) กำหนดวิธีการคิดคะแนนส.ส.บัญชีรายชื่อ จากเดิมที่จะใช้ 100หาร คะแนนรวมส.ส.บัญชีรายชื่อทั้งประเทศ กำหนดเป็นคะแนนเฉลี่ยต่อส.ส.บัญชีรายชื่อ 1 คน เปลี่ยนมาใช้ 500หารแทน เพื่อให้รัฐบาลมีความได้เปรียบพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า ตามหลักการแก้รัฐธรรมนูญที่กำหนดให้มีบัตรเลือกตั้ง 2ใบ มีเจตนารมณ์ให้ใช้ 100หารคะแนนรวมส.ส.บัญชีรายชื่อทั้งประเทศอยู่แล้ว หากจะไปปรับวิธีคิดใช้ 500หารแทน เท่ากับขัดเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญเรื่องบัตร 2ใบ ถ้าทำเช่นนั้นจริง ยิ่งเสียหลักกฎหมาย เท่ากับบ้านเมืองไม่มีขื่อแปจะทำอย่างไรก็ได้ เป็นเรื่องที่คิดได้ แต่กล้าทำหรือไม่ ถ้าทำจริงแสดงว่าการแก้รัฐธรรมนูญไม่มีประโยชน์ พอแก้ไปก็ไปออกข้อกำหนดเองตามใจชอบ ยืนยันเจตนารมณ์บัตร 2ใบ ต้องใช้100หารในการคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ แต่ไม่ว่าจะใช้สูตรใดคิดส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยก็ไม่กลัว พร้อมสู้ทุกกติกา จะกีดกันอย่างไร แต่คนที่จะให้คำตอบคือประชาชน
 
ถามอีกว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ที่ในการพิจารณาร่างกฎหมายลูก2 ฉบับในชั้นกมธ. จะไปปรับวิธีการคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ ให้ใช้500 หารแทน 100 นายสมคิด กล่าวตอบว่า คงทำไม่ได้ เพราะตามเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญเรื่องบัตร 2ใบ ต้องใช้100 หาร ทราบว่า พรรคพลังประชารัฐกับพรรคเล็กมีความพยายามจับมือชิงความได้เปรียบในเรื่องนี้ แต่ถือว่าสายไปแล้ว เพราะมีหลักการกำหนดไว้ชัดเจน 
 
ถามต่อว่า กลัวจะเกิดอภินิหารทางกฎหมายในการแก้กฎหมายลูกหรือไม่ นายสมคิดตอบว่า ไม่กลัวเพราะกฎหมายไม่เปิดช่องให้ทำได้ ยกเว้นคนจะทำให้เกิดความพิศดารเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ จึงอยากให้จับตากันอย่างใกล้ชิด ส่วนจะทำให้โอกาสเกิดแลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทยยากขึ้นหรือไม่ ประชาชนจะเป็นผู้ให้คำตอบเอง ยิ่งไปเขียนกฎหมายเข้าข้างตัวเองมากเท่าไร ประชาชนจะเป็นผู้ให้คำตอบจะปล่อยให้มีการสืบทอดอำนาจหรือไม่ 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พรรคร่วมฯ เพียงเห็นชอบเชิงหลักการ รัฐบาลเล่นกลแจกเงินหมื่น หาเสียงนิยมให้พท.

'จตุพร' ซัดรัฐบาลเล่นกลซ่อนเจตนากู้เงินแจกหมื่น เชื่อปั่นความหวังเคลมดิจิทัลหาเสียงนิยมให้เพื่อไทย แต่ ปท.ชิบหายแบกหนี้ก้อนโต ชี้พรรคร่วมฯ เพียงเห็นชอบเชิงหลักการเท่านั้น

จับตา ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ '1ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์' ผ่าน THACCA

นางวิรังรอง ทัพพะรังสี ประธานเครือข่ายมหาวิทยาลัยเพื่อการปฏิรูปประเทศ ในฐานะนิสิตเก่าคณะรัฐศาสตร์ รุ่น 30 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ว่า

'เศรษฐา' แพลมโผครม.นิ่งแล้ว ไม่มีแกว่ง อุบตอบเก้าอี้หดเหลือแค่ตำแหน่งนายกฯ

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง แถลงภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ระบุว่าส่งรายชื่อบุคคลที่จะมาเป็นรัฐมนตรีถึงนายกฯ โดยนายกฯย้อนถามว่า “หรือครับ ไม่ทราบ”

'อุ๊งอิ๊ง' โพสต์คลิปครอบครัวเดินห้าง ถามตอนเด็กเคยขายอะไร ทักษิณตอบขายกาแฟ

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย โพสต์สตอรี่อินสตราแกรมส่วนตัว เป็นคลิปวีดีโอนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และน.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ เดินที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งด้วยกัน

นายกฯ ยัน ร่วมโต๊ะอาหารเที่ยงกับ 'เอกนัฏ'

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) ร่วมโต๊ะอาหารกลางวันกับนายกรัฐมนตรีและคณะ

'ทวี' ยันไม่เคยได้ยิน เพื่อไทยจะเอาตำแหน่งประธานสภาฯ

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีมีกระแสว่าพรรคเพื่อไทยจะขอเก้าอี้ประธานสภา ว่า รัฐธรรมนูญได้มีการเขียนเอาไว้อย่างชัดเจนถึงการเข้าดำรงตำแหน่งประธานสภาว่าเป็นเรื่องของสภา ส่วนเรื่องคณะรัฐมนตรีนั้นเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี