เปลี่ยนจากเมืองผ่าน สู่เมืองหลัก ! "อนุทิน" วางเป้าพัฒนา "สระบุรี" ยกระดับภาคอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว

วันนี้ (2 มิถุนายน 2565) ที่ สนามกีฬาเทศบาลตำบลหนองแค จังหวัดสระบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายวัชรพงศ์ คูวิจิตรสุวรรณ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะผู้บริหารกระทรวงฯ เปิดงานมหกรรม “คนสระบุรี ร่วมใจ เก็บให้เกลี้ยง ไม่เลี้ยงยุงลาย” ซึ่งนายอนุทิน กล่าวตอนหนึ่งว่า    

จังหวัดสระบุรี อยู่เบื้องหลังการพัฒนาภาคเศรษฐกิจไทย ศูนย์กลางอุตสาหกรรมผลิตปูนซีเมนต์ของไทยอยู่ที่สระบุรี ประเทศไทย จะสร้างตึก สร้างถนน ก็ต้องอาศัยปูน แล้วที่สระบุรีก็ยังมีโรงงานมากมาย เมื่อเราพูดในความเป็นชาวสาธารณสุข โรงพยาบาลสระบุรีเป็นโรงพยาบาลใหญ่ เป็นโรงพยาบาลศูนย์ ทาง ผอ.โรงงานได้มาแจ้งแล้วว่า กำลังดำเนินการปรับปรุง ให้มีศูนย์พยาบาลที่ทันสมัย ไว้สำหรับ การดูแลพี่น้องได้อย่างเต็มที่

แล้วอย่าบอกว่า ที่สระบุรีไม่มีสถานที่ท่องเที่ยว ที่นี่มีวัดพระพุทธบาท เป็นศาสนสถานที่สำคัญยิ่ง ครั้งหนึ่งคนไทยทุกคนควรจะต้องมาสักการะพระพุทธบาท คิดให้ง่าย เมื่อคนไทยมี 70 ล้านคน จะมีเงินสะพัดที่จังหวัดนี้ขนาดไหน

ตนมองว่า จะต้องหาทางโปรโมทจังหวัดสระบุรี ที่นี่คือส่วนผสมที่ลงตัวของภาคอุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว แถมยังเดินทางสะดวก มีแหล่งท่องเที่ยวที่เกื้อหนุนมากมาย มาเที่ยวสระบุรีจะไปลพบุรีต่อก็ได้ ไปอ่างทอง อยุธยา หรือเลยไปโคราชไปอีสานก็ย่อมได้ แล้วยิ่งมีความมั่นคงทางด้านสาธารณสุข จังหวัดสระบุรีก็ยิ่งเข้มแข็ง

"วันนี้ สำหรับผม ผมมองว่าสระบุรีไม่ใช่เมืองผ่าน แต่ที่นี่สมควรเป็นเมืองหลัก การพัฒนา ต้องมีทิศทางที่แน่ชัด เรามีทั้งพื้นฐานทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การแพทย์ การคมนาคมที่เข้มแข็ง เราต้องก้าวไปข้างหน้า ซึ่งผมมีแผนไว้หมดแล้ว"

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เสี่ยหนู' ขอเช็กปมเก้าอี้ 'ครูแก้ว' หลังถูก ป.ป.ช.ฟันจริยธรรมร้ายแรงก่อน

'อนุทิน' ขอเช็กรายละเอียด ตำแหน่งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี หลัง 'ครูแก้ว' ถูก ป.ป.ช.ชี้จริยธรรมร้ายแรงที่ดินป่าดงพะทาย

'อนุทิน' เปิดโครงการจัดรูปที่ดินเทศบาลเมืองชัยภูมิ

มท.1 เปิดถนนโครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่บริเวณเทศบาลเมืองชัยภูมิ ชี้ช่วยเพิ่มพื้นที่สาธารณะ- สร้างมูลค่าที่ดินตาบอด พร้อมชื่นชมการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ