เมื่อวันที่ 3 พ.ย.นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ลงพื้นที่บ้านหินขาว หมู่ 15 ต.สาวะถี อ.เมือง จ.ขอนแก่น เพื่อติดตามความก้าวหน้าโครงการเจาะบ่อบาดาลลึก 1,000 เมตรหรือ 1 กิโลเมตรในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(แอ่งนครราชสีมา-อุบลราชธานี แอ่งอุดรธานี-สกลนคร และแอ่งเลย” ซึ่งถือเป็นการเจาะบ่อน้ำบาดาลได้ในระดับความลึกที่มากที่สุดครั้งแรกของประเทศไทยและในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ทั้งนี้ บรรยากาศในการขุดเจาะเป็นไปอย่างคึกคัก โดยนายศักดิ์ดา ได้นำ E - log หรือเครื่องหยั่งธรณีฟิสิกส์หลุมเจาะ หย่อนไปในบ่อที่เปิดปากหลุม 8 นิ้ว เพื่อวัดขนาดความลึกของบ่อและเก็บข้อมูลเพื่อนำมาประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์ ปรากฎว่า สามารถวัดได้ที่ขนาดความลึก 1,014 เมตรหรือลึกถึง 1 กิโลเมตรเศษ

จากนั้น นายศักดิ์ดา ให้สัมภาษณ์ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กนช.) ได้มอบนโยบายให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ภายใต้การกำกับดูแลของนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส. เร่งดำเนินการจัดหาแหล่งน้ำบาดาลระดับลึกเพื่อการอุปโภคบริโภค และน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรให้กับประชาชน เพื่อให้ประชาชนมีน้ำกินน้ำใช้ทุกครัวเรือน ตามแผนบริหารจัดการน้ำของประเทศ (ปี พ.ศ. 2561 – 2580) กรมทรัพยากรน้ำบาดาล จึงได้ดำเนิน “โครงการศึกษาเพื่อการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลระดับลึกพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (แอ่งนครราชสีมา-อุบลราชธานี แอ่งอุดรธานี-สกลนคร และแอ่งเลย” เพื่อเจาะหาน้ำบาดาลระดับลึก พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เริ่มตั้งแต่เดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจาะสำรวจน้ำบาดาล ณ บ้านหินขาว ม.15 ต.สาวะถี อ.เมือง จ.ขอนแก่น และสามารถเจาะได้ลึกถึง 1,014 เมตร และพบชั้นน้ำบาดาลใหม่ ๆ หลายชั้น สลับกับชั้นน้ำกล่อยและน้ำเค็ม ที่ระดับความลึกตั้งแต่ 180-190, 260-320, 540-550, 590-610, 750-770, 840-860 และ 970-990 เมตร โดยในชั้นที่พบน้ำบาดาลมากที่สุดคือ 540 - 600 เมตร สามารถนำมาใช้ได้ที่ 100 ลบ.เมตรค่อชั่วโมง

อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวต่อว่า ขั้นตอนจากนี้ จะมีการทำบ่อที่เจาะพบชั้นน้ำที่ระดับความลึกกว่า 1 กิโลเมตรให้เรียบร้อยใช้เวลาประมาณ 2 เดือนจากนี้ เพื่อพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลคุณภาพดี ศักยภาพสูง ขึ้นมาใช้เพื่อการอุปโภคบริโภคขนาดใหญ่ให้กับประชาชน ใน ต.สาวะถี อ.เมือง จ.ขอนแก่น ได้มีน้ำสำหรับอุปโภคบริโภค ไม่น้อยกว่า 1 หมื่นคน พร้อมทั้งเตรียมแผนขยายผลไปยังพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ และพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (Northeastern Economic Corridor: NeEC - Bioeconomy) ได้แก่ จ.นครราชสีมา ขอนแด่น อุดรธานี หนองคาย มุกดาหาร นครพนม บุรีรัมย์ สุรินทร์ และ ศรีสะเกษ เป็นต้น เลิกขาดน้ำ

“การเจาะบ่อน้ำบาดาลที่ระดับความลึกกว่า 1 พันเมตรหรือ 1 กิโลเมตร ถือเป็นความท้าทายของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เพื่อช่วยประชาชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำจากสภาวะฝนทิ้งช่วงเป็นประจำทุกปี ประกอบกับสภาพพื้นที่บริเวณกลางแอ่งรองรับด้วยชั้นเกลือหินใต้ดิน ส่งผลให้ชั้นน้ำบาดาลมีคุณภาพกร่อย-เค็มในบางพื้นที่ อาทิ จ.ขอนแก่น มหาสารคาม และร้อยเอ็ด เป็นต้น นอกจากนี้น้ำบาดาลยังกักเก็บในรอยแตกหรือรอยต่อของชั้นหินแข็งระดับลึก ภายใต้โครงสร้างทางธรณีที่ซับซ้อน ส่งผลให้การเจาะและพัฒนาน้ำบาดาลระดับตื้นมักจะไม่ประสบผลสำเร็จ มีปริมาณน้ำไม่เพียงพอ ทำให้ชาวบ้านต้องใช้น้ำจากแหล่งน้ำผิวดิน ซึ่งมีโอกาสเกิดการปนเปื้อนจากสารเคมีทางการเกษตรหรือแบคทีเรียได้ง่าย และอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ขาดโอกาสในการเข้าถึงทรัพยากรน้ำที่เหมาะสมต่อการอุปโภคบริโภค ทำให้ขาดความมั่นคงด้านน้ำ ขาดโอกาสที่จะพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น การที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาล สามารถเจาะน้ำบาดาลได้ในระดับความลึกมากกว่า 1พันเมตรครั้งนี้ จะทำให้ปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค เกษตร อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการหมดไปจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งยังสามารถรองรับความต้องการใช้น้ำด้านอุปโภคบริโภค เศรษฐกิจ สังคม เกษตรกรรม และในภาคอุตสาหกรรมได้ในอนาคต” นายศักดิ์ดา กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทส. มอบของขวัญปีใหม่ 2569 เปิดแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติฟรีทั่วประเทศ เติมสุขประชาชน
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เดินหน้ามอบของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2569 ให้แก่ประชาชนทั่วประเทศ เปิดให้เข้าชมแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ โดยยกเว้นค่าธรรมเนียม พร้อมจัดบริการอำนวยความสะดวกและกิจกรรมส่งความสุขช่วงเทศกาลปีใหม่ เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย เติมเต็มความสุข และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อย่างยั่งยืน
“รมว.ทส. มอบนโยบายขับเคลื่อนการบริหารทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน เน้นรับมือไฟป่า ดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว และแก้ปัญหาช้างป่า
วันนี้ (25 ธันวาคม 2568) เวลา 10.00 น. นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่เพื่อตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี และมอบนโยบายด้านการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนแก่ผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงฯ ณ ห้องประชุมอาคาร กปร.
ทส. จัดกิจกรรม “พิทักษ์ผืนป่า ถวายพระมารดาแห่งแผ่นดิน” สืบสานพระราชปณิธาน สมเด็จพระราชชนนีพันปีหลวง ณ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี
วันนี้ (24 ธันวาคม 2568) เวลา 11.00 น. ดร.รวีวรรณ ภูริเดช ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานเปิดกิจกรรม “พิทักษ์ผืนป่า ถวายพระมารดาแห่งแผ่นดิน” โดยมีคณะผู้บริหาร ตลอดจนเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมป่าไม้ และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
“รองนายกฯ สุชาติ สั่ง คพ. จับตาลักลอบทิ้งสารเคมี 24 ชม. รุกสร้างเครือข่ายเฝ้าระวังสิ่งแวดล้อมฉะเชิงเทรา ตรวจพบต้องสอบทันที”
นายสุรินทร์ วรกิจธำรง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีความห่วงใยต่อสถานการณ์การลักลอบทิ้งกากของเสียและสารอันตรายในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยเฉพาะจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งมีแนวโน้มทวีความรุนแรงและซับซ้อนมากขึ้น
รองนายกฯ สุชาติ เรียกประชุมนัดแรก คกก.อำนวยการฯ เร่งเครื่องแก้ปัญหาหมอกควัน-ฝุ่น PM2.5 ปี 2569
นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการเพื่อการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศ ครั้งที่ 1/2569 เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2568
“รองนายกฯ สุชาติ” เป็นประธาน กก.สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เห็นชอบ EIA โครงการสำคัญ แก้ปัญหาอุทกภัย–เสริมบริหารจัดการน้ำ
นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 6/2568 เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2568 ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล

