SPRC จ่ายเงินช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วไหล คืบหน้าไปแล้วกว่า 90% รวมกว่า 299 ล้านบาท

บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC ยืนยันเร่งฟื้นฟูระบบนิเวศทางเศรษฐกิจ ชุมชน และสิ่งแวดล้อม พร้อมเดินหน้าให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลในทะเลระยองอย่างต่อเนื่องและมีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก โดยล่าสุดได้จ่ายเงินช่วยเหลือให้กับผู้ได้รับผลกระทบแล้วทั้งสิ้น 10,300 ราย คิดเป็นร้อยละ 90 รวมเป็นเงินกว่า 299 ล้านบาท

สำหรับการประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมนั้น ทางบริษัท SPRC ได้ร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์ทางทะเลจาก 3 มหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทย ทำการศึกษาและติดตามผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และระบบนิเวศชายฝั่ง จังหวัดระยอง รวม 11 โครงการ เป็นระยะเวลาทั้งสิ้น 2 ปี โดย มหาวิทยาลัยบูรพา ทำการศึกษาเรื่อง สาหร่ายเซลล์เดียวและสัตว์ทะเลหน้าดินขนาดเล็ก, ชนิดและการเปลี่ยนแปลงของสัตว์ทะเลหน้าดินขนาดใหญ่ และผลกระทบต่อระบบนิเวศแนวปะการัง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำการศึกษาเรื่อง ความเป็นพิษของน้ำมันและสารช่วยกระจายตัวในสิ่งมีชีวิตในทะเลและต่อตัวอ่อนหอยเสียบ, ผลกระทบต่อการปนเปื้อนสารประกอบน้ำมัน (PAHs) และโลหะหนักในน้ำทะเล ดินตะกอน และสิ่งมีชีวิต และการถ่ายทอดผ่านห่วงโซ่อาหาร, ผลกระทบต่อประชาคมสิ่งมีชีวิตในมวลน้ำและพื้นท้องทะเลในบริเวณชายฝั่งจังหวัดระยอง และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทำการศึกษาเรื่อง การเปลี่ยนแปลงของปริมาณสารประกอบไฮโดรคาร์บอนในน้ำ ดินตะกอนและสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งระยอง

นับแต่เกิดเหตุการณ์ คณะผู้บริหารและตัวแทนบริษัทฯ ได้ลงพื้นที่เพื่อทำการรับฟัง พูดคุยทำความเข้าใจกับพี่น้องในชุมชนและพื้นที่ใกล้เคียง ร่วมหาแนวทางแก้ไขปัญหาต่างๆ และการให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้บริษัทฯ ได้จัดตั้งคณะทำงานด้านอุทธรณ์ เพื่อพิจารณาคำร้องจากผู้ร้องเรียนที่ยังไม่สามารถตกลงกันได้ หรือมีการเรียกร้องเพิ่มเติม โดยมีเอกสารแสดงถึงผลกระทบที่ได้รับ ซึ่งตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม 2565 เป็นต้นมา บริษัทฯ ได้ส่งจดหมายแจ้งไปยังผู้ร้องเรียนที่กล่าวมาข้างต้น ให้ทราบถึงสถานะของการร้องเรียนเป็นรายบุคคลแล้ว

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ขอยืนยันเจตนารมย์ในการรับผิดชอบและให้ความช่วยเหลือกับทุกฝ่ายที่ได้รับผลกระทบอย่างเป็นธรรม โปร่งใส สมเหตุสมผล รวดเร็ว และพร้อมให้ความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ มุ่งเน้นการสร้างรายได้ผ่านกิจกรรมของคนในพื้นที่ รวมถึงให้ความสำคัญด้านการกระตุ้นการท่องเที่ยวของจังหวัดระยองอีกด้วย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เช็กเงื่อนไข 'ครอบครัวอุปถัมภ์' ผู้สูงอายุ รับเดือนละ 3 พัน

'รองโฆษกรัฐบาล' เผยเงื่อนไขคุณสมบัติ 'ครอบครัวอุปถัมภ์' ผู้สูงอายุ มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือเดือนละ 3 พันบาท เริ่มยื่นเรื่องได้ตั้งแต่เดือน พ.ค.

ฮังการีขัดขวางเงินช่วยเหลือยูเครนมูลค่า 5 หมื่นล้านยูโร

วิกตอร์ ออร์บาน ยังคงดื้อรั้นต่อไป – นายกรัฐมนตรีฮังการีประกาศยับยั้งความช่วยเหลือทางการเงินสำหรับยูเครนครั้งใหม่ ทำให้สหภาพยุโรปต้อ

เชฟรอนผนึกพันธมิตร SPRC-ทช. ผุดโครงการเติมพลังรักษ์ยั่งยืน สู่ผืนป่าไทย พัฒนาป่าชายเลนเมืองระยอง

ป่าชายเลน ถือเป็นทรัพยากรที่สำคัญในการกักเก็บก๊าซเรือนกระจก โดยจากข้อมูลของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง หรือทช. ระบุว่า พื้นที่ป่าชายเลนในประเทศไทยสามารถดูดกลับคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึงปีละกว่า 9.4 ตันต่อไร่

SPRC ตอกย้ำความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ผนึกพลังภาครัฐ และเอกชน จัดกิจกรรมเก็บขยะ เนื่องในวันอนุรักษ์ชายฝั่งสากล ปี 2566

นายกำธร เวหน ปลัดจังหวัดระยอง เปิดกิจกรรมจิตอาสาเก็บขยะ เนื่องใน วันอนุรักษ์ชายฝั่งสากล ประจำปี 2566 (ครั้งที่ 21 ) จัดโดย บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC

สถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลบริเวณทุ่นผูกเรือกลางทะเล ของโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี คลี่คลาย ไม่พบคราบน้ำมันแล้ว กองทัพเรือแถลงปิดศูนย์ควบคุมการปฏิบัติการฯ

บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ) แจ้งสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลบริเวณทุ่นผูกเรือกลางทะเล (SBM-2) คลี่คลาย โดยล่าสุดจากการสำรวจทั้งทางอากาศและเรือลาดตระเวน เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 7 กันยายน 2566

ความคืบหน้าเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลบริเวณทุ่นผูกเรือกลางทะเล (SBM-2) ของโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ฉบับที่ 2

ตามที่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ)ได้แจ้งเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลบริเวณทุ่นผูกเรือกลางทะเล (SBM-2) ของโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เมื่อช่วงดึกของคืนวันที่ 3 กันยายน 2566